คุยโทรศัพท์ขณะขับรถ อุบัติเหตุ อย่าประมาท!
คุยโทรศัพท์ขณะขับรถ อุบัติเหตุ อย่าประมาท!
เหตุเกิดเมื่อคุยโทรศัพท์ขณะขับรถ
ข่าวจาก Harvard Mental Health Letter ได้ทำการทดลองระบบการประมวลผลข้อมูลของสมองเมื่อคนขับรถโทรศัพท์ขณะขับรถอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้
ชาวอเมริกันแปดในสิบคนได้รับอุบัติเหตุเมื่อโทรศัพท์ขณะขับรถ ผู้เชี่ยวชาญเปิดเผยตัวเลขภาพรวมพบว่าชาวอเมริกันหนึ่งในสาม หรือประมาณ 1.6 ล้านคนต่อปี ได้รับอุบัติเหตุขณะขับรถ
ถึงแม้ว่าเราจะคิดว่าเราสามารถที่จะทำงานหลายอย่างไปพร้อม ๆ กันได้ แต่นักวิจัยด้านกระบวนการรับรู้ของมนุษย์ให้คำแนะนำว่า สมองของเราเลือกที่จะทำงานในกิจกรรมหลักอย่างใดอย่างหนึ่งก่อน การคุยโทรศัพท์ขณะขับรถทำให้เกิดภาวะ “สมาธิล่องหน” ทำให้เราไม่สามารถที่จะจดจ่ออยู่กับกิจกรรมสองสิ่งได้ในเวลาเดียวกัน และอาจทำให้พลาดกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่งที่กำลังกระทำอยู่พร้อม ๆ กันได้
การศึกษาวิจัยจำลองการขับรถที่คล้ายกับการขับรถในสภาพปกติ และมีกิจกรรมอื่นทำเปรียบเทียบกันระหว่างการคุยโทรศัพท์กับการคุยกับผู้โดยสารข้าง ๆ พบว่าการคุยโทรศัพท์ขณะขับรถทำให้ผู้ขับนั้นมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสภาพการจราจรบนท้องถนนลดน้อยลง ในทางตรงข้ามทั้งผู้ขับและผู้โดยสารจะหยุดสนทนาเมื่อสภาพการจราจรบนท้องถนนเริ่มมีปัญหา นอกจากนี้ยังพบว่าผู้โดยสารมักจะช่วยสังเกตสภาพการจราจรในทางลบทำให้ผู้ขับเสียสมาธิมากขึ้น
กฎหมายห้ามโทรศัพท์ขณะขับรถ
ห้ามไม่ให้ผู้ขับขี่รถใช้โทรศัพท์มือถือพูดคุยขณะขับรถ ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก ( ฉบับที่8 ) พ.ศ. 2551 มาตรา 43 (9) ห้ามมิให้ผู้ขับรถในขณะที่ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ เว้นแต่การใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่โดยใช้อุปกรณ์เสริมสำหรับการสนทนา โดยที่ผู้ขับขี่ไม่ต้องถือหรือจับโทรศัพท์เคลื่อนที่นั้น หากผู้ใดฝ่าฝืนถือว่า มีความผิดมาตรา 157 ผู้ผ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรา 43 (9) ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 400 – 1,000 บาท และมีการติดตั้งกล้องวงจรปิด ตามแยกต่าง ๆ เริ่มจากแยกหลักๆก่อน และยังใช้สำหรับการตรวจจับผู้ที่มักฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจรด้วย หากตรวจพบจะมีการส่งหมายเรียกไปถึงบ้านให้มารับทราบข้อกล่าวหา