ประกันคุ้มภัย
บริษัท ประกันคุ้มภัย จำกัด (มหาชน) 12 กันยายน 2484 ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท กรรมการชุดแรกของบริษัทฯ คือ หลวงประเจิดอักษรลักษณ์ เป็นประธานคณะกรรมการ และนายหลุย พนมยงค์ เป็นกรรมการผู้จัดการคนแรก สำนักงานแห่งแรกตั้งรวมอยู่กับธนาคารแห่งเอเซียฯ ณ ถ.เจริญกรุง กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2520 บริษัทฯ ได้จดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2536 บริษัทฯ เพิกถอนการจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2551
บริษัทใหญ่ในลำดับสูงสุดในระหว่างปี ได้แก่ Insurance Australia Group Limited ซึ่งเป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นในประเทศออสเตรเลีย และผู้ถือหุ้นรายใหญ่คือ บริษัท เอ็นเอชซีที จำกัด (ถือหุ้นร้อยละ 50) ซึ่งเป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นในประเทศไทยและ IAG International Pty Limited (ถือหุ้นร้อยละ 49) ซึ่งเป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นในประเทศออสเตรเลีย
บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจหลักเกี่ยวกับการรับประกันวินาศภัย
บริษัท ประกันคุ้มภัย จำกัด (มหาชน) อยู่ในธุรกิจประกันวินาศภัยมากว่า 60 ปี ประกันคุ้มภัย ได้พัฒนาระบบการบริการสินไหม ในปัจจุบัน การบริการของประกันคุ้มภัยได้ใช้ระบบดาวเทียมที่เรียกว่า GPS (Global Positioning System) และระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาประยุกต์จนกระทั่งเป็นระบบการทำงานแบบไร้กระดาษ (Paperless) ทำให้ประหยัดเวลาและให้บริการได้อย่างรวดเร็วจนบรรลุตามเป้าหมาย “คุ้มภัย ไฮ-สปีด”
นวัตกรรมใหม่ คุ้มภัย Hi-Speed
นวัตกรรมใหม่ของประกันคุ้มภัย ภายใต้ชื่อ “คุ้มภัย ไฮ-สปีด” เริ่มนำมาใช้ตั้งแต่ปลายปี2547 เป็นต้นมา โดยได้ร่วมมือกับบริษัทพันธมิตร อีก3แห่งร่วมกันนำมาซึ่งระบบ GPS (GlobalPositioning System) ซึ่งเป็นสัญญาณดาวเทียมมาใช้ โดยติดตั้งเครื่องรับส่งสัญญาณดาวเทียม GPS ที่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ใช้สำรวจอุบัติเหตุของบริษัท สัญญาณจะถูกส่งเข้ามาที่ศูนย์รับแจ้งอุบัติเหตุ(Call Center) เพื่อค้นหาจุดเกิดเหตุ และตำแหน่งของพนักงานสำรวจอุบัติเหตุที่อยู่ใกล้ที่สุด และจะแสดงตำแหน่งบนแผนที่ดิจิตอลบนจอ Tri-Vision ทำให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยสามารถปฏิบัติงานประสานกันได้ตลอดเวลา ทั้งเจ้าหน้าที่ประจำที่ศูนย์ จำนวน 40 คน และศูนย์ลอย GPS ทั่วประเทศอีก 26 จังหวัด เพื่อให้พนักงานสำรวจอุบัติเหตุสามารถเดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุได้อย่างรวดเร็วที่สุด
มิติใหม่ คุ้มภัย ใบเคลมอิเล็กโทรนิกส์
การพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งของบริษัทฯ ยังคงเป็นปฏิธานหลักของบริษัทฯ ที่มุ่งมั่นต่อไป และเพื่อเพิ่มความง่าย สะดวก รวดเร็วให้กับผู้บริโภคและ
สังคมทางบริษัทฯ จึงได้พัฒนาการให้บริการให้ดียิ่งขึ้นอีกระดับ ต่อเนื่องจากการพัฒนาะบบ GPS ผ่านดาวเทียม โดยพัฒนามิติใหม่การให้บริการภายใต้
ชื่อ “มิติใหม่ คุ้มภัย ใบเคลมอิเล็กโทรนิกส์” จุดประสงค์และความมุ่งหวังของบริษัทฯ
1. เพิ่มความง่าย สะดวกสบาย และรวดเร็วให้กับลูกค้าคุ้มภัยและคู่กรณี
2. ลดปัญหาการจราจรเมื่อเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนและลดปัญหาการกีดขวางทางจราจร
3. ส่งเสริมและสนับสนุนโครงการของกรมการประกันภัย “ชนแล้วแยกแลกใบเคลม”
การปรับปรุงพัฒนาระบบ “คุ้มภัย ใบเคลมอิเล็กโทรนิกส์”
1.เสริมประสิทธิภาพการทำงานของศูนย์รับแจ้งอุบัติเหตุให้มีการทดแทนการทำงาน เพื่อให้เกิดการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพรวดเร็ว ตลอด 24 ชั่วโมง
2.สร้างระบบการทำงานที่เรียบง่ายและการสื่อสารที่รวดเร็ว เมื่อเกิดอุบัติเหตุลูกค้าเพียงแค่โทรแจ้งมาที่ศูนย์รับแจ้งอุบัติเหตุ หมายเลขโทรศัพท์
0-2257-8080 โดยให้ข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อได้สะดวก การเกิดอุบัติเหตุ ชื่อผู้เอาประกันภัย หมายเลขกรมธรรม์ สถานที่เกิดเหตุ และกรอกแบบฟอร์ม
ในกรมธรรม์ ชื่อคู่กรณี เบอร์โทรศัพท์ การเคลมของลูกค้า ที่แนบอยู่ก็จะเสร็จเรียบร้อย สามารถขับรถไปทำธุระต่อไปได้ โดยไม่ต้องรอเจ้าหน้าที่จากบริษัทซึ่งจะ
ใช้เวลาน้อยมากและไม่ต้อง สร้างภาระให้กับสังคมทางด้านกีดขวางการจราจร ซึ่งจะได้รับความง่ายและสะดวกสบายเมื่อมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น
3.เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับคู่กรณี บริษัทจะดำเนินการส่งข้อมูลยืนยันความรับผิดชอบให้ทราบผ่านระบบ SMS เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานได้ทำให้ทุกฝ่าย
มั่นใจและตกลงกันได้อย่างรวดเร็ว
4.ระบบข้อมูลเกี่ยวกับการแจ้งอุบัติเหตุและสำรวจความเสียหายจะเก็บรวบรวมไว้ในฐาน ข้อมูลกลางเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการอำนวยความสะดวก
ในการนำรถเข้าซ่อมในอู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งทางด้านการอนุมัติซ่อม นำรถเข้าซ่อมได้ทันที ซึ่งจะเพิ่มความสะดวกและรวดเร็วให้กับคู่กรณีทั้งสองฝ่าย
5.เมื่อรถที่เกิดอุบัติเหตุและเข้าซ่อมในอู่มาตรฐานสูงของคุ้มภัย รถของลูกค้าและคู่กรณีจะได้รับการติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด เมื่อรถซ่อมใกล้เสร็จ
จะมีการแจ้งข่าวสารผ่าน SMS ให้ทราบ เพื่อไปรับรถได้ หรือกรณีที่ไปซ่อมนอกอู่และต้องมีการนัดหมายชดเชยค่าสินไหม ทดแทนต่างๆ จะมี SMS แจ้งให้ทราบ
ซึ่งเป็นบริการที่เพิ่มความสะดวกสบายรวดเร็วให้กับผู้บริโภค
ฝ่ายสินไหมรถยนต์มีเจ้าหน้าที่กว่า 200 คน ให้บริการในศูนย์บริการสินไหม 32 ศูนย์ ทั่วประเทศ โดยมีอู่ในเครือประกันคุ้มภัยให้บริการลูกค้ากว่า 500 แห่ง ยึดมั่นการบริการตามสโลแกนที่ว่า “อบอุ่นใจ คุ้มภัย คุ้มครองคุณ”
ศูนย์รับแจ้งอุบัติเหตุตลอด 24 ชั่วโมง โทร. 0-2257-8080
ศูนย์บริการสินไหมทดแทน บริษัท ประกันคุ้มภัย จำกัด (มหาชน)
ศูนย์บริการด้านสินไหมทดแทน ทั่วประเทศไทยที่ให้บริการจำนวน 32 ศูนย์บริการ ที่ให้บริการด้านสินไหมรถยนต์ และสินไหมทั่วไปซึ่งสามารถ คลิกที่ตราประกันคุ้มภัย เพื่อดูที่ตั้งของแต่ละศูนย์บริการค่ะ
ศูนย์รับแจ้งอุบัติเหตุ 24 ชั่วโมง
โทรศัพท์
0-2257-8080, 0-2257-8000, 0-2250-0575-9,
0-2252-4409, 0-2254-8490, 0-2254-6860
โทรสาร
0-2253-3701, 0-2253-4222, 0-2253-3783
Email-Address
claim@safety.co.th
nonmotorclaim@safety.co.th
วิธีการปฏิบัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
1. โทรแจ้งอุบัติเหตุ ที่ศูนย์รับแจ้งอุบัติเหตุ 24 ชั่วโมง
สำนักงานใหญ่ กรุงเทพฯ โทร 0-2257-8080 หรือ โทร 0-2253-9067 (อัตโนมัติ) หรือสำนักงานของบริษัทฯ ในบริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุ2. ขั้นตอนการแจ้งอุบัติเหตุ
แจ้งรายละเอียดเบื้องต้น ได้แก่ ยี่ห้อรถ ทะเบียนรถ สีรถ และชื่อผู้ขับขี่พร้อมหมายเลขโทรศัพท์ที่สามารถติดต่อกลับได้ทันที ระบุตำแหน่ง สถานที่เกิดเหตุให้ชัดเจน แจ้งชื่อถนน ช่วงถนน จุดที่รถจอดอยู่ รวมทั้งจุดสังเกตใกล้เคียงเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉิน เพื่อให้สังเกตง่ายและปลอดภัยกรณีมีการเคลื่อนย้ายจุดเกิดเหตุก่อนเจ้าหน้าที่ไปถึง ให้แจ้งกลับมายังบริษัทฯทันที
3. การปฏิบัติตัวในที่เกิดเหตุ
กรณีเป็นฝ่ายถูก : จดทะเบียนรถ ชื่อที่อยู่ของคู่กรณี และพยาน (ถ้ามี) เพื่อเป็นข้อมูลให้แก่บริษัทฯ
กรณีเป็นฝ่ายผิด : ให้ชื่อที่อยู่ของท่านแก่คู่กรณี (หากมีการร้องขอ) และแยกรถเข้าไปอยู่ในบริเวณที่ไม่กีดขวางการจราจรและไม่ควรลงนามในเอกสารใดๆ ให้แก่คู่กรณี จนกว่าเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯจะไปถึงกรณีไม่แน่ใจว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายผิด
อย่าทำการเคลื่อนย้ายรถจากจุดเกิดเหตุ นอกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำเครื่องหมายการเกิดเหตุและสั่งเคลื่อนย้ายรถกรณีมีผู้บาดเจ็บ/เสียชีวิต
รีบนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลที่ใกล้เคียง และอย่าดำเนินการตกลงค่าเสียหายใดๆ จนกว่าเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯจะไปถึงซึ่งจะเป็นผู้ให้คำปรึกษาแก่ท่าน รวมทั้งความผิดทางอาญาด้วยเช่นกัน4. กรณีรถประกันถูกชน แล้วคู่กรณีหลบหนี
ให้แจ้งความต่อสถานีตำรวจในท้องที่ที่เกิดเหตุ หากทราบทะเบียนรถของคู่กรณีให้แจ้งความเพื่อดำเนินคดีเท่านั้น5. กรณีรถถูกยึด
กรณีรถของท่านถูกยึดไว้เพื่อตรวจสภาพที่สถานีตำรวจ ควรให้ร้อยเวรเจ้าของเรื่องตรวจสอบสิ่งมีค่า และลงบันทึกประจำวันไว้ด้วยรีบแจ้งสถานีตำรวจท้องที่ และศูนย์ป้องกันและปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ (ศปร.) โทร 0-2245-9095 หรือ 0-2245-6951 ทันที พร้อมแจ้งรายละเอียดที่จำเป็น คือ ทะเบียนรถ สี หมายเลขเครื่องยนต์ สถานที่และวันเวลา
รีบจัดส่งเอกสารที่จำเป็นให้ทางบริษัทฯ เพื่อใช้ตรวจสอบ และชดใช้ค่าสินไหมให้ท่านโดยเร็ว
หากท่านทราบเบาะแสหรือร่องรอยของรถท่าน โปรดแจ้งบริษัทฯ ทันที และทางบริษัทจะเก็บข้อมูลของท่านไว้เป็นความลับ7. การจัดซ่อมรถประกัน
บริษัทจะจัดซ่อมรถของท่าน โดยท่านสามารถเข้าติดต่ออู่ในเครือของบริษัทฯได้ทันทีหลังจากแจ้งเหตุเรียบร้อยแล้ว กรณีที่ชิ้นส่วนใดที่ทางบริษัทฯ พิจารณาแล้วว่าไม่สามารถซ่อมได้ บริษัทจะทำการเปลี่ยนอะไหล่ให้ใหม่ (กรณีเข้าซ่อมกับอู่นอกเครือโปรดแจ้งเข้ามายังบริษัทก่อน)ก่อนส่งมอบรถให้แก่อู่ ควรตรวจสอบสิ่งของมีค่าและให้อู่ทำบันทึกรายการรับทราบทุกครั้ง และเมื่อรถซ่อมเสร็จแล้ว ควรตรวจสอบโดยละเอียดก่อนรับรถ หากพบว่าไม่เรียบร้อย อย่าลงนามรับรถ ให้แจ้งบริษัทฯทันที
ท่านมีสิทธิ์ในการตรวจสอบการซ่อมได้ตลอดเวลา กรณีอู่ในเครือหากพบว่าการซ่อมช้ากว่ากำหนด โปรดแจ้งบริษัทฯทันที
กรณีที่ท่านต้องรับผิดชอบค่าเสียหายส่วนแรก บริษัทฯจะตกลงให้อู่ในเครือเป็นผู้เก็บเงินในส่วนดังกล่าวจากท่าน
ข้อคิดในการเลือกใช้บริการอู่ซ่อมรถยนต์
บริษัท ประกันคุ้มภัย จำกัด (มหาชน) ได้ดำเนินการพิจารณาคัดเลือกอู่ซ่อมรถฯ ที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานทั้งในด้านความชำนาญ, เครื่องมืออุปกรณ์ และความพร้อมในการบริการ จากทั่วประเทศ ท่านจะได้รับความพึงพอใจ และวางใจในบริการจาก “อู่ในเครือคุ้มภัย” พร้อมการรับประกันคุณภาพมาตรฐานการซ่อมสีรถยนต์ของท่าน
ข้อดี | อู่/ศูนย์บริการในเครือคุ้มภัย | อู่/ศูนย์บริการนอกเครือ |
พื้นที่ศูนย์ให้บริการ | – มีอู่มาตรฐานฯ/ศูนย์บริการในเครือคุ้มภัยกว่า400 แห่งทั่วประเทศ ทำให้สะดวกในการเลือกใช้บริการ | – มีพื้นที่ครอบคลุมทั่วประเทศ แต่ค่าใช้จ่ายในการซ่อมสูงกว่าอู่ในเครือ เจ้าของรถอาจจะต้องสำรองเงินค่าซ่อมก่อน |
ความสะดวก รวดเร็ว | – นำรถเข้าดำเนินการจัดซ่อมได้เลย และแจ้งเคลมที่อู่ – สามารถแจ้งเคลมที่เพิ่มได้ต่อเนื่อง กรณีที่เคยแจ้งอุบัติเหตุไว้แล้ว | – ต้องนำรถมาคุมราคาค่าซ่อมก่อน และตรวจสภาพเมื่อซ่อมเสร็จ ก่อนตั้งเบิกค่าซ่อมได้ – ไม่สามารถให้บริการรับแจ้งเคลมเพิ่มเติมหรือต่อเนื่องได้ |
คุณภาพ | – ทุกอู่ในเครือคุ้มภัยได้รับการคัดเลือกมาแล้ว โดยเน้นคุณภาพ มาตรฐานและความพร้อมในการให้บริการ | – อู่นอกเครือที่ไม่ค่อยมีคุณภาพและไม่ได้มาตรฐาน ทางบริษัท ไม่สามารถเข้าไปดำเนินการแก้ไขได้ |
การรับประกันคุณภาพ | – กล้ารับประกันคุณภาพมาตรฐานผลงาน หลังผ่านการควบคุมคุณภาพตลอด 6 เดือน | – อาจไม่กล้ารับประกันคุณภาพและอาจมีการปฏิเสธความรับผิดชอบ |
หลักฐาน/ เอกสารประกอบการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน
กรณีเรียกร้องค่าซ่อมรถยนต์
1. ใบแสดงรายการความเสียหายหรือเอกสารที่เจ้าหน้าที่สำรวจฯ ออกให้ขณะดำเนินการตรวจสอบที่ เกิดเหตุ (ถ้ามี)
2. ใบขับขี่ของผู้ขับขี่ขณะเกิดเหตุ
3. กรมธรรม์ประกันภัย หรือ บัตรแสดงการประกันภัย
4. สำเนาทะเบียนรถ
5. กรณีเป็นบุคคลธรรมดา หนังสือมอบอำนาจ สำเนาบัตรประชาชนของผู้มอบอำนาจให้ดำเนินการและผู้รับมอบอำนาจ
6. กรณีเป็นนิติบุคคล หนังสือมอบอำนาจลงนามโดยผู้มีอำนาจของบริษัท 2 ท่าน สำเนาบัตรประชาชน ของผู้มอบอำนาจ
7. บันทึกประจำวัน
8. เอกสารยอมรับผิดจากคู่กรณี
9. ใบเสนอราคาค่าซ่อม
10. เอกสารอื่นๆที่เกี่ยวข้องกรณีเบิกค่ารักษาพยาบาล
1. ใบเสร็จรับเงินค่ารักษาพยาบาล
2. ใบรับรองแพทย์
3. สำเนาบัตรประชาชนผู้บาดเจ็บ หรือสูติบัตร (กรณีผู้บาดเจ็บเป็นผู้เยาว์)
4. สำเนาทะเบียนบ้านผู้บาดเจ็บ
5. เอกสารทายาทผู้บาดเจ็บ
– สำเนาบัตรประชาชน
– สำเนาทะเบียนบ้านของบิดา, มารดา
– สำเนาทะเบียนสมรสของบิดา, มารดา
6. สำเนาบันทึกประจำวันกรณีที่ผู้ประสบภัยหรือทายาทไม่สามารถมาติดต่อด้วยตนเองได้
1. หนังสือมอบอำนาจ
2. สำเนาบัตรประชาชนของผู้มอบอำนาจ
3. สำเนาบัตรประชาชนของผู้รับมอบอำนาจกรณีค่ารักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลเบื้องต้น
1. ใบ บต.4 (เฉพาะค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้น)
2. ใบแจ้งหนี้
3. ใบรับรองแพทย์
4. หนังสือรับรองเป็นเจ้าของไข้จากบริษัท
5. สำเนาบัตรประชาชนผู้บาดเจ็บ
6. สำเนาทะเบียนบ้าน
7. สำเนาบันทึกประจำวันเอกสารประกอบเคลมอุบัติเหตุ
1. หนังสือเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน (Claim Form)
2. ใบเสร็จรับเงิน/ใบแจ้งหนี้ (ต้นฉบับ)
3. ใบรับรองแพทย์ (ต้นฉบับ)
4. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและทะเบียนบ้านผู้เสียชีวิต (กรณีเสียชีวิต)
5. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้รับผลประโยชน์ (กรณีเสียชีวิต)
6. สูติบัตร (กรณีบุตรเป็นผู้รับผลประโยชน์) (กรณีเสียชีวิต)
7. ใบมรณะบัตร/หนังสือรับรองการตาย (กรณีเสียชีวิต)
8. สำเนาใบชันสูตรพลิกศพ/ใบรายงานการผ่าตรวจศพ (กรณีเสียชีวิต)
9. บันทึกประจำวันตำรวจ/สรุปผลคดี
10.ใบรับรองความพิการ/หนังสือประจำตัวผู้พิการ (กรณีทุพลภาพถาวร)เอกสารประกอบเคลมสุขภาพ
1. หนังสือเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน (Claim Form)
2. ใบเสร็จรับเงิน (ต้นฉบับ)
3. ใบรับรองแพทย์ (ต้นฉบับ)เอกสารประกอบเคลม Marine
1. กรมธรรม์ต้นฉบับ (Original Policy)
2. ใบกำกับสินค้า (Invoice)
3. ใบรายการสินค้า (Packing List)
4. ใบตราส่ง (B/L or AWAB)
5. สำเนาหนังสือเรียกร้องกับผู้ขนส่ง
6. หนังสือเรียกร้องค่าความเสียหายกับบริษัทฯ
7. Damage Cargo List หรือหลักฐานยืนยันว่าสินค้าเสียหายระหว่างการขนส่งเอกสารประกอบการเรียกร้องค่าสินไหม ทรัพย์สิน
1. หนังสือเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน (Claim Form)
2. บันทึกประจำวันตรวจ
3. รูปถ่ายความเสียหาย
4. รายการทรัพย์สินที่เสียหาย
5. ใบเสนอราคาค่าซ่อมแซมทรัพย์สิน
6. ใบสั่งซื้อ/ใบเสร็จรับเงิน/หลักฐานการซื้อสินค้า
7. หลักฐานทางบัญชี/รายการสต็อกสินค้า ณ วันที่เกิดเหตุ
8. สำเนาทะเบียนการค้า/ทะเบียนพาณิชย์
9. สำเนาหนังสือสัญญาเช่าอาคาร
10. สำเนาหน้าที่ตารางกรมธรรม์ฉบับอื่นที่คุ้มครอง
11. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้กระทำความเสียหาย
12. สำเนาหน้าตารางกรมธรรม์ของผู้กระทำความเสียหายเอกสารประกอบในการรับเช็ค
หนังสือมอบอำนาจในการรับเช็ค
1. หนังสือรับรองจดทะเบียนการค้าของบริษัทฯ ประทับตราพร้อมลงนามของผู้ที่มีอำนาจ
2. หนังสือมอบอำนาจ
3. สำเนาบัตรประชาชนของผู้มอบอำนาจพร้อมลงนาม
4. สำเนาบัตรประชาชนของผู้รับมอบอำนาจพร้อมลงนามเอกสารการจ่ายค่าสินไหมเต็มทุนประกันที่ต้องนำมาในวันรับเช็ค
1. สมุดคู่มือทะเบียนรถ
2. กุญแจรถ
3. กรมธรรม์ตัวจริง
4. ชุดโอน
5. หนังสือรับรองสิทธิ์
6. ใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี
7. หนังสือรับรองการจดทะเบียนการค้าของบริษัทฯ ประทับตราพร้อมลงนามของผู้ที่มีอำนาจ
8. สำเนาบัตรประชาชนของผู้มอบอำนาจพร้อมลงนาม
9. สำเนาทะเบียนบ้านของผู้มอบอำนาจพร้อมลงนาม
10. หนังสือสัญญาซื้อขาย (ถ้ายังมีการผ่อนชำระอยู่)
11. ใบเสร็จรับเงินงวดสุดท้ายในการผ่อนชำระ
12. หนังสือโอนกรรมสิทธิระหว่างผู้ซื้อและบริษัทฯที่ให้เช่าซื้อในการผ่อนชำระ
13. ชุดโอนรถระหว่างผู้ซื้อและบริษัทฯที่ให้เช่าซื้อในการผ่อนชำระ
ลักษณะการเกิดเหตุที่ผู้เอาประกันภัย/ผู้ขับขี่ต้องรับผิดชอบความเสียหายส่วนแรก
ตัวอย่างที่ 1
กรณีผู้เอาประกัน/ ผู้ขับขี่รถยนต์กำลังขับรถอยู่บนถนนเกิดเหตุรถยนต์อีกคันมาชนแล้วขับหนีไป โดยผู้เอาประกัน/ ผู้ขับขี่รถยนต์ ไม่สามารถแจ้งทะเบียนรถที่มาชนได้ทางผู้เอาประกัน/ ผู้ขับขี่รถยนต์ จะต้องความเสียหายส่วนแรกตามเงื่อนไขกรมธรรม์ 2,000 บาท/ อุบัติเหตุ 1 ครั้ง
ตัวอย่างที่ 2
กรณีผู้เอาประกัน/ ผู้ขับขี่รถยนต์ ได้นำรถจอดไว้ในสถานที่จอดรถยนต์แห่งหนึ่ง เมื่อกลับมาจึงพบว่ารถถูกชนได้รับความเสียหาย โดยไม่ทราบได้ถึงผู้กระทำหรือรถยนต์คันดังกล่าวทางผู้เอาประกัน/ ผู้ขับขี่รถยนต์ จะต้องความเสียหายส่วนแรกตามเงื่อนไขกรมธรรม์ 2,000 บาท/ อุบัติเหตุ 1 ครั้ง
บริการสายด่วนสินไหมทดแทน
ศูนย์บริการต่างๆ ในฝ่ายสินไหมทดแทน (สายด่วน Hotline)
เบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อ 0-2257-8000 ต่อ 7900-2, 0-2655-6900
ให้บริการต่าง ๆ ดังนี้
1. รับเรื่องร้องเรียน ด้านสินไหมรถยนต์
2. สอบถามข้อมูลการบริการของเจ้าหน้าที่สินไหมทดแทน
3. ส่ง SMS แจ้งกำหนดรับรถซ่อมเสร็จ ของอู่ในเครือประกันคุ้มภัย
4. ส่ง SMS แจ้งกำหนดโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารให้กับลูกค้าในเครือประกันคุ้มภัย
5. ส่ง SMS แจ้งรายชื่ออู่ในเครือประกันคุ้มภัย
บริษัท ประกันคุ้มภัย จำกัด (มหาชน)
SAFETY INSURANCE PUBLIC COMPANY LIMITED
26/5-6 อาคารอรกานต์ ถนนชิดลม แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
26/5-6 Orakarn Building, Chidlom Rd, Lumpini, Pathumwan, Bangkok 10330
โทร. 0-2257-8051-8 โทรสาร 0-2655-6982
บริษัท ประกันคุ้มภัย จำกัด (มหาชน)
26/5-6 ชั้น 1, 26/10-11 ชั้น 4, 26/16-17 ชั้น 6, และ 26/18-19 ชั้น 6 อาคารอรกานต์ ข.ลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
Tel. 0-2254-8490, 0-2254-7850-9 Fax 0-2253-3701, 0-2253-4222
Email: nonmotorclaim@safety.co.th
website:https://www.safety.co.th
อู่ซ่อม ประกันคุ้มภัย https://www.safety.co.th/th/repairers