INSURANCETHAI.NET
Thu 21/11/2024 16:39:08
Home » Uncategorized » สถานะความมั่นคงตัวแทนประกันชีวิต\"you

สถานะความมั่นคงตัวแทนประกันชีวิต

2022/08/05 13139👁️‍🗨️

คุณจะเห็นรายรับ ของคนทำงาน ทั่วไป เทียบกับ ตัวแทนประกันชีวิต
1.ลูกจ้าง เงินเดือนประจำ 100% + คอมมิสชั่น
2.ลูกจ้าง เงินเดือนประจำ 100%
3.ลูกจ้าง เงินเดือนประจำ 80% + คอมมิสชั่น
4.ลูกจ้าง เงินเดือนประจำ 50 % + คอมมิสชั่น
5.ลูกจ้าง เงินเดือนประจำ 2000 + คอมมิสชั่น (เลวร้ายที่สุด)
(นี่อาจเป็นเพียง ค่าเดินทาง เงินช่วยเหลือ) ส่วนมากลูกจ้างประเภท พนักงานขายจะเป็นลักษณะดังกล่าว
6.ตัวแทนประกันชีวิต ไม่มีเงินเดือนประจำ รายได้จาก คอมมิสชั่น 100% ขายไม่ได้ก็ไม่มีรายรับ
(เมื่อ 20 ปี ก่อนจะมีเงินช่วยเหลือ เช่น เดือนละ 3000 ให้ 4 เดือนแรก แต่ต้องมียอดขายตามเงื่อนไขด้วย ต่อมายุคนี้อาจเป็นการการันตีรายได้ เดือนละ 15000 เป็นเวลา1 ปี หากขายได้ ก็จะให้เลือกว่าเอาส่วนไหน เงินเดือนหรือ คอมมิสชั่น ซึ่งยังไงแล้วในหนึ่งปีก็ต้องมีขายได้บ้างอยู่แล้ว เพราะก่อนจะเข้าระบบรับประกันรายได้ ต้องมีการพูดคุยสัมภาษณ์กัน ดังนั้น บริษัทประกันมีโอกาสได้มากกว่าเสีย โดยอาศัยหลักการดังกล่าวเพื่อจูงใจ สร้างตัวแทนขาย ไม่นับรวมบางบริษัทที่มีจ้างเงินเดือนประจำ เป็นพนักงานบรรจุ แต่ให้ไปขายประกัน และเราจะไม่กล่าวถึง ตัวแทนประกันชีวิตที่ปรับระดับขึ้นไปเป็นมีเงินเดือน เช่น 1500 อาจเป็นตัวแทนอาวุโส ก็แล้วแต่จะตั้งแต่มียอดขั้นต่ำตามเกณฑ์ ทั้งนี้เพื่อจูงใจให้ผลิตผลงาน)
7.ตัวแทนประกันชีวิต ไม่มีเงินเดือน และถูกตัดสัญญา เพราะ ไม่มียอด หรือ ทำไม่ได้ตามเงื่อนไขขั้นต่ำ

คุณจะเห็นว่า ถ้าคุณมองว่า ข้อ 5 นั้นเลวร้ายที่สุดแล้วสำหรับการที่บริษัทเอาเอาเปรียบ คือ เอาแต่ได้ มากกว่าจะให้ ก็ยังเทียบไม่ได้กับข้อ7 เลย เพราะ นอกจากไม่มีเงินเดือนให้แล้ว ยังถูกกดดัน ให้ทำยอด แล้วก็ถูกตัดสัญญา หรือให้ออกจาบริษัทไป เหมือนคุณเป็นตัวอะไรสักอย่าง เพราะพวกคุณไม่มีพลังในการต่อรอง ไม่มีหน่วยงานไหนมาดูแลเช่น กรมแรงงานเพราะ ตัวแทนประกันชีวิต เป็นสัญญาการจ้างงานประเภทหนึ่งแต่ไม่ใช่ลูกจ้าง และ ก็ไม่มีสหภาพแรงงาน คุณอาจจะคิดถึงสมาคมตัวแทนประกันชีวิต ใช่ไหม? นั่นช่วยอะไรคุณได้ เขาตั้งขึ้นมาเพื่ออะไร คุณรู้ไหม? สุดท้ายพวกคุณจึงถูกรุกไล่ไปไม่ต่างกับหมาตัวหนึ่งซึ่งเขาไม่เอา ไม่มีประโยชน์อีกต่อไป ใช่ไหม?

ในความเป็นจริง
ไม่มีคนใดที่ไม่สามารถทำประโยชน์ให้ธุรกิจได้หรอก
เหตุผลเดียวที่ควรต้องเอาตัวแทนประกันชีวิต ออกจากบริษัทไป
คือ ทุจริต ขายผิดเงื่อนไข ถูกร้องเรียน สร้างความเสียหายให้บริษัท
กรณีอื่นๆ เช่น ยอดไม่ถึง ไม่ควรถูกนำเข้ามาเป็นเงื่อนไข ยิ่งในยุคปัจจุบันนี้ ที่เป็นยุคออนไลน์ บริษัทคอยบอกเสมอว่าตัวแทนเป็นอาชีพที่มีความสำคัญ ช่วยเหลือคน ให้สร้างความมั่นคง อย่างนั้นอย่างนี้ แต่ดูสิ่งที่บริษัทประกันบางบริษัททำกับพวกคุณสิ ใช่อย่างที่เขาว่าไหม? วันที่คุณไม่สามารถทำยอดได้ คุณถูกกดดันถูกด่าทอต่อว่า ตัดสัญญา ให้ออกจากบริษัทอย่างไม่ใยดี รายได้ที่คุณหามาตลอดชีวิต ลูกค้าที่คุณเฝ้าสะสมดูแล มาทั้งชีวิต 10 ปี 20 ปี 30 ปี 40 ปี หายไปในพริบตา ปานประหนึ่งเหมือน นิทานหมาล่าเนื้อ ที่สุดท้ายนายพราน ล่ามโซ่ ไม่ให้อาหาร ทุกข์ทรมาณจนตายไปในที่สุด เพียงเพราะ ไม่อาจล่าสัตว์ให้นายของมันได้อีกต่อไป จากเงื่อนไข อายุที่แก่ชรา ยุติธรรมกับอาชีพนี้ไหม?

งานประกันชีวิต ตัวแทนจะมีรายได้ตลอดที่ลูกค้ายังคงส่งเบี้ยประกัน แม้ว่า ในปีหลังๆจะเหลือคอมมิสชั่นเพียงนิดอาจจะเหลือ 2% แต่เมื่อมีลูกค้าหลายคนก็พอจะทำให้มีรายได้พอเลี้ยงชีวิตยามแก่เฒ่าได้ ทั้งนี้ ตัวแทนก็ยังคงดูแลบริการลูกค้าต่อไปได้และไม่ได้สร้างความเสียหายให้บริษัทแต่อย่างใด เผลอๆก็อาจจะมีงานใหม่เข้ามาบ้าง

ในยุคเทคโนโลยี ไม่ต้องเอกสารกระดาษ ช้อมูลถูกเก็บเอาไว้ในระบบดิจิตอล บริษัทแทบไม่ได้มีค่าใช้จ่ายในการบริการตัวแทนเหล่านี้ หรือ หากคิดว่ามีก็อาจให้ตัวแทนเหล่านี้ที่ไม่มียอด ยอดน้อยจ่ายก็ถือว่า สมเหตุสมผลถ้าจะเอาอย่างนั้น แต่การตัดตัวแทนออกจากระบบไป นอกจากชีวิตบั้นที่รันทดนี้แล้วก็ยังส่งผลเสีย ต่อ บริษัท และลูกค้าอีกด้วย
1. ลูกค้าขาดคนดูแลรู้งาน อาจทำให้กรมธรรม์ขาด และ /หรือ ย้ายไปบริษัทอื่น
2. บริษัทต้องเจอกับการบริการที่หนักกว่าเดิม เพระา คุณต้องจ่ายคนมาคอยรับโทรศัพท์
3. บริษัทประกันทำลายฐานแฟนของตัวเอง แค่คนทั่วไปที่ไม่ได้เป็นลูกค้าหากเขาชื่นชอบคุณเขาจะเชียร์คุณ เขาจะปกป้องคุณ วันใดที่คุณพลาดในโลกออนไลน์ บนโซเชี่ยล คุณจะไม่มีคนคอยให้การสนับสนุน สาอะไรกับ ตัวแทนของคุณเอง ที่ยังมีสถานะเป็นตัวแทนภายใต้แบรนด์ของคุณ แล้วคุณจะเอาเขาออกไปทำไม? ถ้าเป็นสมัยก่อนยุคออฟไลน์การเอาตัวแทนออกไปอาจจะมีเหตุผลมากกว่าเพราะ สิ้นเปลืองทรัพยากร สำหรับยุคนี้ แต่ละคนมีเพื่อนใน เฟสบุ๊ก 3-500 คน หรือ มีเครือข่าย เขาโพสท์อะไรสักอย่างก็อาจทำให้มีผลกับบริษัทของคุณได้ เหตุใดจึงไม่เอาพลังที่มีอยู่นี้ ใช้ให้เป็นประโยชน์ ยังยึดติดระบบความคิดเดิมๆ เอาตัวแทนออกเพราะไม่มียอด?! ลองจินนาการดูว่า ถ้ามีคนใช้งาน platform หนึ่ง 40 ล้านคน ถ้าทุกคนไม่ได้เป็นตัวแทนประกันชีวิตของคุณ เป็นแค่เพียงฐานแฟนของคุณ บริษัทของคุณจะเป็นอย่างไร? ใช่ นั่นเเหละที่เราหมายถึง ไม่ต้องคิดเลยว่า บริษัทประกันของคุณจะเป็นหนึ่งในประเทศได้อย่างง่ายดาย แล้ว ถ้าคุณมีตัวแทนประกันชีวิต 10 ล้านคนละ แต่ละคน มีเบี้ยประกันปีละ 10,000 ปีหนึ่งคุณก็มี เบี้ยเข้ามาใหม่ 100,000 ล้าน ใช่ไหม? ตัวแทนยิ่งเยอะยิ่งดีใช่ไหม? ถ้าคุณมีระบบเทคโนโลยีที่รองรับ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่แสนถูกในการเก็บข้อมูล ระบบฟรีก็มีให้ใช้งาน อย่าง facebook ใช่ไหม? นั้นเป็นเหตุผลที่คุณสร้างเพจบริษัทประกันของให้มีคนติดตามอยู่ 500,000 ใช่ไหม?

หวังว่าผู้บริหารยุคไหม และ เก่าหากผ่านเข้ามาอ่านบทความนี้จะคิดอะไรได้





สอบถาม บริษัทประกันภัย เจ้าของผลิตภัณฑ์ หรือ ตัวแทน/นายหน้า ทั่วประเทศ



คอมเม้นท์ที่เพจ 💸 สินเชื่อ




up arrow