“อลิอันซ์ประกันภัย” ควบรวม “ศรีอยุธยาเจนเนอรัลประกันภัย” [2019] และ ควบรวม AETNA [2022] กลายเป็น AAGI

[2019] “อลิอันซ์ประกันภัย” ควบรวมกิจการ “ศรีอยุธยาเจนเนอรัลประกันภัย” เป็น อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย ทำให้มีเบี้ยประกันภัยรับรวมอันดับ 10

เมื่อประกันภัยที่มีเบี้ยประกันภัยรวมอันดับ 19 และ 20 อย่าง อลิอันซ์ประกันภัย (AZTH) ควบรวมกิจการ ศรีอยุธยาเจนเนอรัลประกันภัย (SAGI) เกิดบริษัทใหม่ชื่อ “อลิอันซ์อยุธยาประกันภัย” (AAGI) กลายเป็นบริษัทประกันภัยที่มีเบี้ยประกันภัยรับรวมใหญ่เป็นอันดับ 10 ของประเทศไทยทันที .. ต่อมาปี 2022 ได้ take over AETNA (หรือ เดิมคือบูพาประกันสุขภาพ)

การควบรวมกิจการจนกลายเป็นกิจการใหม่

• SAGI รับโอนกิจการทั้งหมดของ AZTH
• AYUD จะออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับทาง กลุ่มอลิอันซ์จากประเทศเยอรมัน มูลค่าประมาณ 4,717 ล้านบาทเป็นการทดแทน

กลุ่มอลิอันซ์จะกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ SAGI มีสัดส่วนถือหุ้น 45%
ผู้ถือหุ้นอันดับ 2 ถือหุ้นอยู่ด้วยสัดส่วนประมาณ 25% เจ้าของเดิมกลุ่มรัตนรักษ์ เป็นเจ้าของธุรกิจอย่าง ช่อง 7 สี หรือ ปูนซีเมนต์นครหลวง
ผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ อีก 27% และนอกจากนี้บริษัทก็จะยังจะอยู่กระดานซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไป

สาเหตุการควบรวมกิจการ
– ยอดเบี้ยประกันภัยที่เพิ่มมากขึ้น
– การบริการด้านประกันภัยคล่องตัวให้กับลูกค้ากว่า 1 ล้านราย
– เรื่องของแบรนด์ “อลิอันซ์ อยุธยา” ที่เด่นชัดมากยิ่งขึ้น

ไบรอัน สมิธ ผู้จัดการอลิอันซ์ ประจำประเทศไทย มีมุมมองว่า ..
จากนี้กลุ่มอลิอันซ์จะนำเทคโนโลยีมาใช้มากขึ้น ใช้เงินลงทุนมาก ถ้าหากเป็นกิจการเล็กเหมือนก่อนหน้าการควบรวมกิจการ จะทำให้การลงทุนไม่คุ้มค่า แต่การควบรวมกิจการ ทำให้การลงทุนมีประสิทธิภาพทันที

ผู้บริหารของอลิอันซ์ยังคาดว่าในปีนี้ยอดเบี้ยประกันภัยรับรวมของบริษัทจะโต 10% โดยมาจากประกันชีวิต 4% และประกันภัยที่เติบโต 6%

“อลิอันซ์ประกันภัย” (AZTH) ควบรวม “ศรีอยุธยาเจนเนอรัลประกันภัย” (SAGI) เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “อลิอันซ์อยุธยาประกันภัย” (AAGI)
การควบรวมบริษัทระหว่าง บมจ.ศรีอยุธยาเจนเนอรัลประกันภัย (SAGI) และบมจ.อลิอันซ์ประกันภัย (AZTH) เปลี่ยนชื่อเป็น บมจ.อลิอันซ์อยุธยาประกันภัย (AAGI)
และได้เปลี่ยนชื่อโฮลดิ้งส์เป็น “บมจ.อลิอันซ์อยุธยาแคปปิตอล” (AACP) จากเดิมที่ชื่อ บมจ.ศรีอยุธยาแคปปิตอล (AYUD) แต่จะยังคงจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายใต้ชื่อย่อ “AYUD”

นายโซลมาซ อัลทิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอลิอันซ์ประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า การควบรวมครั้งนี้ถือเป็นก้าวที่สำคัญอีกก้าวหนึ่งของอลิอันซ์ เพราะถือเป็นการขยายกลยุทธ์ในการเติบโตอย่างมั่นคง ซึ่งปัจจุบันไทยถือเป็นตลาดเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญของอลิอันซ์เอเชียและมีศักยภาพที่แข็งแกร่งในการขับเคลื่อนธุรกิจ โดยขณะนที่ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกเป็นตลาดที่สำคัญมากสำหรับอลิอันซ์ทั่วโลก โดยขณะนี้ดำเนินธุรกิจอยู่ใน 16 ประเทศ ให้บริการทางด้านประกันชีวิต ประกันวินาศภัย และการบริหารด้านการลงทุน มีพนักงานมากกว่า 36,000 คน ลูกค้ามากกว่า 21 ล้านคน และมีพาร์ตเนอร์ชิปทางด้านดิจิทัลกว่า 55 ราย

AAGI มีธุรกิจทั้ง สายประกันชีวิตและประกันวินาศภัย ถือเป็นบริษัทประกันภัยที่น่าสนใจ ทั้งด้านของความมั่นคง ทิศทาง และวิสัยทัศน์ เรื่องการลงทุนดิจิทัล การสนับสนุนให้ตัวแทนสอบใบอนุญาตขายผลิตภัณฑ์ได้ทั้งประกันชีวิตและประกันวินาศภัย ที่ผ่านมาพบว่า AAGI ได้ TAKE OVER หลายบริษัทเข้ามา โดยล่าสุด ได้ AETNA ประกันสุขภาพ ซึ่งเป็นบริษัทประกันสุขภาพที่มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับหนึ่งในประเทศไทย เน้นขายประกันสุขภาพเป็นหลัก ไม่ได้ขายประกันรถยนต์ เหมือนบริษัทประกันอื่นๆ ซึ่งนั่นทำให้ พอร์ตประกันสุขภาพ ของ AAGI กลายเป็นผู้นำใน segment นี้ไปทันที

[2022]
อลิอันซ์อยุธยาประกันภัย เดินหน้าสร้างการเติบโต เปิดทางรับพันธมิตรนายหน้าประกันภัย หนุนเติบโตระยะยาว พร้อมผสานเทคโนโลยี และกลุ่มพันธมิตรในเครือธุรกิจ ขับเคลื่อนองค์กร ด้วยเป้าหมายการเติบโตไม่น้อยกว่า 10% พร้อมชู 5 เสาหลักสร้างความแข็งแกร่งให้บริษัท

นายลาร์ส ไฮบุทสกี้ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ AAGI กล่าวว่า ..
ในปี 2565 ยังคงมั่นใจว่าจะสามารถโตได้ไม่น้อยกว่า 10% เป้าหมายเบี้ยรับรวม ราว 6,200 ล้านบาท แม้สถานการณ์โควิด-19 ยังไม่หมดไป แต่การปรับตัวทางธุรกิจ เช่นการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในกระบวนการเสนอแผนประกัน การดำเนินธุรกิจ การบริการ รวมถึงการจับมือกับพันธมิตรสร้างการเติบโตไปด้วยกัน ปัจจัยเหล่านี้สนับสนุนการเติบโตต่อเนื่องของอลิอันซ์ อยุธยา ในปีนี้

พันธมิตรหลัก
– แบงก์กรุงศรี
– อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต
– นายหน้าประกันภัย
จะเป็นตัวขับเคลื่อนธุรกิจของเราในปีนี้ และยังคงเปิดรับพันธมิตรทางธุรกิจ นายหน้าโบรกเกอร์ เข้ามาเป็นพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจต่อเนื่อง

ทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2565
อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย จะยึดกลยุทธ์ 5 เสาหลัก เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้ถึงเป้าหมาย
1.สร้างการเติบโตในช่องทางตัวแทนและนายหน้า มีเทคโนโลยีที่ช่วยให้การออกใบเสนอราคารวดเร็วมากขึ้น พร้อมอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า

2.บริหารจัดการช่องทางขายให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพิ่มจำนวนตัวแทน และการทำครอสเซลไปยังผลิตภัณฑ์ประกันภัยอื่นๆที่ไม่ใช่การประกันภัยยานพาหนะ (non-motor)

3.สนับสนุนการขายผ่านช่องทางธนาคาร ปัจจุบัน คือ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB) โดยการขยายผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการขายให้ง่ายขึ้น

4.สนับสนุนช่องทางพันธมิตรธุรกิจเช่าซื้อ เสนอสินค้าที่เหมาะกับลูกค้าแต่ละกลุ่มและนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยการขาย
– กรุงศรีออโต้
– เงินติดล้อ

5.ช่องทางลูกค้าองค์กร ต่อยอดจากเครือข่ายและการสนับสนุนจากกลุ่มอลิอันซ์ พร้อมมองหาโอกาสรับประกันภัยความเสี่ยงกลุ่มใหม่

บริษัทยังเน้นให้ความสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อช่วยในการทำงานและบริการลูกค้า ควบคู่กับการพัฒนาทรัพยากรบุคคล และสร้างวัฒนธรรมการทำงานที่เอื้อต่อการเติบโต

อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มอลิอันซ์ บริษัทประกันภัยระดับโลกที่มั่นคง แข็งแกร่ง การันตีด้วยเรทติ้งที่ดีเยี่ยมจากสถาบันการเงินมากมาย ส่งผลให้สถานะทางการเงินแข็งแกร่งด้วยสินทรัพย์กว่า 10,000 ล้านบาท และมีเงินกองทุนสำรอง (Risk-based capital) สูงกว่ามาตรฐานถึง 452% (31.12.2564)

ยุคนี้หากบริษัทประกันภัยใด ไม่มีเทคโนโลยี ไม่ลงทุนดิจิตอล คงไม่ต้องทำนายอนาคต เพราะ ไม่อาจแข่งขันและอยู่รอดในตลาดได้ในระยะยาว การสมัครทำประกันชีวิต ใช้ระบบอิเล็คโทรนิกส์ แทน กระดาษ รวดเร็ว แม่นยำ ชัดเจน สะดวก และ เชื่อมต่อข้อมูลไปยังระบบอื่นๆได้ง่าย หากย้อนไปก่อนหน้านี้ ระบบกระดาษ เมื่อบริษัทประกันได้ใบสมัครมา จะต้องสะแกนส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งเสียเวลา และ ขาดความแม่นยำ ลายมืออาจจะอ่านยาก การคีย์ข้อมูลต้องใช้เวลา ผิดพลาดสูง อาจสร้างความเสียหายต่อบริษัทได้ หรือ ทำงานซ้ำซ้อนเพื่อแก้ไขในภายหลัง สูญเสียทรัพยากรไปอย่างไร้ประสิทธิภาพ งานเพิ่มขึ้น ก็ต้องเพิ่มคนเข้ามาในระบบ สร้างค่าใช้จ่ายมหาศาลแบบไม่รู้จบ แต่เทคโนโลยี จะทำให้สิ่งเหล่านี้กลายเป็นอดีต