เกรดบริษัทประกันภัย
- เกรด E เคลมยากมาก ปัญหาเยอะ ข้ออ้างแยะ ติดต่อยาก ผัดผ่อน ไม่ค่อยรักษาคำพูด ไร้มาตรฐาน บริการแย่
- เกรด D เคลมยาก มีปัญหา ติดต่อได้ไม่สะดวก มาตรฐานต่ำ
- เกรด C เคลมพอใช้
- เกรด B เคลมดี
- เกรด A เคลมดีมาก
นอกจากนี้ ประกันรถยนต์แต่ละบริษัทประกันมีนโยบายต่างกัน!
แม้แต่เกรด A ก็ยังมีการแบ่งย่อยไปอีก
ตัวอย่างของ A-
หากมีการเคลม 137% (L/R) การต่ออายุปีถัดไป นอกจากเบี้ยประกันสูงขึ้น ยังติด ค่าเสียหายส่วนแรก (DD) เช่น 2000 บาท
หากมีการเคลม 214% (L/R) และ มีการเคลมจำนวนครั้งมาก เช่น 3 ครั้ง จะงดต่ออายุ
เงื่อนไขด้านบน สำหรับ บริษัทประกันเกรด A หรือ A+ จะมีความเข้มข้นน้อยกว่า นอกจากนี้อาจขึ้นอยู่กับ ว่า ตัวแทน/นายหน้าคนนั้นเป็นใครอีกด้วย (ความน่าเชื่อถือ ของตัวแทน/นายหน้ารายนั้นต่อบริษัทประกัน)
การแบ่งเกรดของบริษัทประกัน จะมีปัจจัย ที่สำคัญ อีกมากมาย ร่วมด้วย เช่น ความมั่นคงของบริษัทประกัน ธรรมาภิบาลของบริษัทประกัน ตัวอย่างของ ธรรมาภิบาลของบริษัทประกัน อาจเทียบเคียงได้จากกรณีประกันภัยโควิด เราอาจจะพบว่ามีบางบริษัทประกันที่ขอยกเลิกกรมธรรม์โควิด ในขณะที่บางบริษัทก็ไม่ได้ทำอย่างนั้น
หรืออีกตัวอย่าง เช่น บางบริษัทมีนโยบายที่ยืดหยุ่น เห็นอกเห็นใจต่อลูกค้า เขามองลูกค้าเป็นลูกค้า (ลูก – ค้า) แต่บางบริษัทมองลูกค้าเป็นเพียง ผู้ซื้อ เทียบเคียงเหมือนตัวแทน/นายหน้าประกัน ที่บางคนเป็น ตัวแทนประกัน หรือ นายหน้าประกัน แต่บางคนเป็น แค่คนขายประกัน