เอเซียยึดแชมป์ ตลาดประกันภัย “อินชัวร์เทค”

นิตยสาร “ฟอร์บส์” สำรวจตลาด “อินชัวร์ เทค” (Insurtech) หรือ เทคโนโลยีประกันภัย เผยเอเชียจะเป็นตลาด อินชัวร์ เทค ที่ฮอตที่สุดในโลก

นับตั้งแต่มีการลงทุนในเทคโนโลยีทางการเงินที่เรียกว่า ฟินเทค หรือ Fin-Tech ก็มีการอุบัติขึ้นของ “อินชัวร์ เทค” ที่เกิดกระแสไปทั่วโลกตามมาติดๆ เช่นกัน ซึ่งในเอเชีย “Insurtech” เริ่มขึ้นที่สิงคโปร์ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ก่อนจะเกิดกระแสขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงกลางปีนี้

ข่าวการลงทุนก้อนใหญ่ในกลุ่ม “สตาร์ทอัพ” “อินชัวร์ เทค” ทั้งในสหรัฐฯ และยุโรปได้ขยายวงไปอย่างรวดเร็วมายังเอเชียโดยทั้งสิงคโปร์และฮ่องกง ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเงินและ ประกันภัย ในเอเชีย มีคลื่นนักลงทุนใน “อินชัวร์ เทค” ไหลบ่าเข้ามาจำนวนมาก ท่ามกลางความวิตกกังวลของผู้ประกอบการดั้งเดิมที่ครองตลาดมานาน ต่างกลัวจะเสียตลาดให้กับเทคโนโลยีใหม่ๆ กลุ่มนี้

เหตุผลที่เชื่อว่าเอเชียจะกลายเป็นตลาดที่ฮอตที่สุดสำหรับกลุ่ม “สตาร์ทอัพ” ประกันภัย คือ…
เอเชียเป็นภูมิภาคที่น่าสนใจที่สุดสำหรับการ ประกันภัย ทั้งในด้านของขนาด เมื่อรวมกันทั้งภูมิภาคและการเติบโตอย่างรวดเร็วของคนชั้นกลาง
โดยเซียเป็นภูมิภาคที่มีประชากรมากที่สุดในโลกจำนวน 4.4 พันล้านคน
ตามมาด้วยแอฟริกา 1.2 พันล้านคน
ยุโรป 738 ล้านคน
ลาตินอเมริกา 641 ล้านคน
อเมริกาเหนือ 360 ล้านคน

ซึ่งข้อมูลของ Brookings Institution ประเมินว่าภายในปี 2573 ประชากรชนชั้นกลาง 64% ของโลก จะอยู่ในภูมิภาคเอเชีย จากปัจจุบันมีสัดส่วน 40%
ยิ่งกว่านั้นเอเชียยังเป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่สำหรับบริษัท ประกันภัย จากทั่วโลกที่ทุ่มลงทุนอย่างจริงจัง โดยเฉพาะในจีน อินเดีย และเอเชียใต้ ซึ่งเป็นโซนที่เศรษฐกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 2000 หรือ 2543 เป็นต้นมา ซึ่งการลงทุนสำคัญๆ ในเอเชีย อาทิ บริษัทแมนูไลฟ์ ที่จ่ายเงิน 1.2 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 4.2 หมื่นล้านบาท แลกกับสัญญาขาย ประกันภัย ผ่านธนาคารดีบีเอส (แบงก์ แอสชัวรันส์) ในสิงคโปร์ ฮ่องกง จีน และอินโดนีเซีย เมื่อปี 2558

เอไอเอ กรุ๊ป จ่าย 800 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 2.8 หมื่นล้านบาท ให้กับธนาคารซิตี้แบงก์ในเอเชียเพื่อให้ได้สัญญาแบงก์แอสชัวร์รันส์

บริษัทพรูเด็นเชียล ที่จ่าย 1.2 5 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 4.37 หมื่นล้านบาท ให้กับธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ส แลกกับสัญญาแบงก์แอสชัวรันส์

“แม้กระแส อินชัวร์เทค จะเริ่มขึ้นในสหรัฐฯ และยุโรป แต่เอเชียจะเป็นภูมิภาคที่จะได้สัมผัสกับการเจริญเติบโตที่สูง ทั้งจากขนาดของการลงทุนที่มีอยู่ และขนาดของประชากร”

อีกเหตุผลคือช่วงทางการจัดจำหน่ายแบบดั้งเดิมไม่เวิร์กในเอเชีย โดยปัจจุบันเอเซียยังมีผู้บริโภคและธุรกิจอีกเป็นจำนวนมากที่ยังไม่มี ประกันภัย และไม่สามารถเข้าถึงการ ประกันภัย ผ่านช่องทางการจำหน่ายแบบเดิมๆ ในอดีตได้ กอรปกับโครงสร้างในเชิงภูมิศาสตร์เป็นความท้าทายอย่างมากทีเดียว ที่จะเพิ่มอัตราการทำ ประกันภัย ให้สูงขึ้นผ่านช่องทางจำหน่ายแบบเดิมๆ ซึ่งส่วนใหญ่พึ่งพาคนกลาง คือตัวแทน นายหน้า ธนาคาร หรือแม้กระทั่งการตลาดแบบตรงผ่านพนักงานโทรศัพท์ หรือคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งช่องทางจำหน่ายเหล่านี้มีต้นทุนสูง ขนาดที่การเข้าถึงคนหมู่มากทำได้ยาก อีกทั้งยังมีแนวโน้มในเรื่องการเสนอขายแบบผิดๆ เกิดขึ้นบ่อยครั้ง จนส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือ

การเกิดขึ้นของ อินชัวร์เทค
– จะแก้ปัญหาในเรื่องช่องทางจำหน่าย ปรับเปลี่ยนไปสู่การจัดจำหน่ายผ่านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิตอล ที่จะขจัดความไร้ประสิทธิภาพ และการขาดความเชื่อมั่นในช่องทางจัดจำหน่ายแบบเดิมๆ ได้

– เอเซียจะเป็นพื้นที่รับรู้ถึงนวัตกรรมด้านช่องทางจำหน่ายผ่านเทคโนโลยีดิจิตอลได้อย่างแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกลุ่มประชากรขนาดใหญ่ ที่ก่อนหน้านี้ไม่สามารถที่จะเข้าถึงผลิตภัณฑ์ ประกันภัย ได้ ความสามารถที่จะเข้าถึงได้ให้ทันทีด้วยผลิตภัณฑ์ที่ดีไซน์ให้เหมาะสมกับความต้องการของตลาดแมส หรือคนกลุ่มใหญ่