ทุนประกันรถ ลดลงทุกปี
ทุนประกันรถยนต์ ลดลงทุกปี ตามความเสื่อม สภาพของรถ ( รถยิ่งใช้ ยิ่งเสื่อม ยิ่งด้อยค่า) ทุนประกันลดเพื่อให้สอดคล้องกับราคารถยนต์ หากต้องมีการชดใช้ ค่าเสียหาย ซึ่งการต่ออายุประกันถยนต์
ปกติโดยทั่วไป ราคาทุนประกันใหม่จะลดลงจากทุนประกันเดิมทุกปี 10%
จะลดลงประมาณปีละ 10% และ รถยนต์ที่ซื้อมาใหม่ป้ายแดง ทุนประกัน จะไม่เป็น 100%
ทุนประกันปีแรกป้ายแดง ทุกบริษัทจะให้มาตรฐานทุนประกันอยู่ที่ 80 %ของราคารถ
สมมุติว่า รถซื้อมา 1,000,000 บาท ทุนประกันซ่อมรถจะอยู่ที่ 800,000 บาท
ทั้งนี้ อาจต้องดู ปัจจัย เรื่องราคาท้องตลาดของรถแต่ละรุ่นประกันกอบด้วย หากราคาตกมาก ทุนประกันก็อาจต่ำกว่านี้ แต่ถ้าเป็นรถตลาดอยู่แล้ว ทุนประกันซ่อมจะไม่ลงมาก เฉลี่ยจะอยู่ประมาณ 10 % ของปีก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ เราสามารถขอทุนประกันที่สูงกว่าเดิมได้ด้วย หรือ ต้องการให้ทุนประกันลดลงด้วยก็ได้ เพื่อให้จ่ายเบี้ยลดลง แต่ก็มีขอบเขตเบี้ยประกันว่า ต่ำสุดได้เท่าไร สูงสุดได้เท่าไร
สมมติ รถยนต์ซื้อมาใหม่ ราคา 1,000,000
ทำประกันรถยนต์ครั้งแรก ทุนประกันอาจจะอยู่ที่ 900,000 บาท
ปีที่ 2 หากต่อประกันรถยนต์ ทุนจะลดลงเป็นประมาณ 800,000 บาท
ปีที่ 3 หากต่อประกันรถยนต์ ทุนจะลดลงเป็นประมาณ 720,000 บาท
.
.
และลดลงเรื่อยๆ
เบี้ยประกันภัย
เบี้ยประกันภัยรถยนต์ ก็ลดลงไปตามทุนประกันภัยเช่นกัน สำหรับกรณีไม่มีการเคลม ทำให้เสียประวัติ (เคลมฝ่ายผิด) เบี้ยประกันจะลดลงเรื่อยๆ จาก ประวัติดี 20% – 30% – 40% – 50% และหลังจากนั้นก็ไม่ลดอีกเลย หรือ ลดเพียงเล็กน้อย และ ในบางกรณีเบี้ยจะเพิ่มขึ้นด้วย หากเลย ส่วนลด 50% ไปแล้ว เนื่องจาก รถยนต์ สภาพเก่า มีความเสี่ยง การเกิดอุบัติเหตุมากกว่ารถยนต์คันใหม่นั่นเอง
ทุนประกันภัย หมายถึง จำนวนเงินที่บริษัทประกันภัยจะชดใช้ให้เมื่อรถยนต์เกิดความเสียหายอย่างสิ้นเชิง รถสูญหาย หรือไฟไหม้
กรณีรถยนต์เสียหายสิ้นเชิง (Total loss) ซึ่งรถยนต์ได้รับเสียหายจนไม่อาจซ่อมให้อยู่ในสภาพเดิมได้ หรือเสียหายไม่น้อยกว่า 70% ของมูลค่ารถยนต์ บริษัทประกันภัยจะจ่ายค่าสินไหมให้เต็มจำนวนตามทุนประกันภัยที่ระบุไว้ในตารางกรมธรรม์ประกันภัย
เนื่องจากรถมี ค่าเสื่อมสภาพตามกาลเวลา รวมถึงราคาลดลง ดังนั้น ทุนประกันภัยรถยนต์ลดลงทุกปี เพราะอายุการใช้งานมากขึ้น มูลค่าราคาในการซื้อขายก็จะลดลงตามไปด้วย
การระบุทุนประกันภัย
โดยเฉพาะประกันชั้น 1 ที่มีความคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์ที่เอาประกันภัย ผู้เอาประกันภัยไม่ควรซื้อทุนประกันภัยที่มีราคาสูงเกินกว่ามูลค่าราคารถจริงในท้องตลาด เพราะนอกจากจะต้องจ่ายเบี้ยประกันภัยแพงเกินจริงแล้ว หากรถยนต์เสียหายสิ้นเชิง (Total loss) หรือ สูญหาย ไฟไหม้ บริษัทประกันภัยจะชดใช้ให้ไม่เกินราคาซื้อขายรถในขณะนั้น และการทำทุนประกันภัยไม่ควรต่ำกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่ารถยนต์ในขณะที่เอาประกันภัย