เคลมฝ่ายถูก ไม่ง่ายเสมอไป

เคลมฝ่ายถูก ไม่ง่าย ถ้าเจอประกันเขี้ยว
อย่าว่าแต่การเคลมกรณีฝ่ายผิดเลย บางครั้ง การเคลมที่เป็นฝ่ายถูกก็ไม่ได้ง่ายเสมอไป
การเคลมประกัน กรณีที่เป็นฝ่ายถูก สามารถใช้เคลมประกันของตัวเอง หรือ ของคู่กรณีก็ได้ แต่โดยทั่วไป มักจะเคลมกับประกันของตัวเอง ตามที่ได้ทำไว้ โดยประกันของเราจะออกใบเคลมให้

สมมติเราไปเคลมที่อู่ อู่ตีราคามา ประกันก็จะตรวจสอบแล้ว ก็กำหนดวงเงินการเคลมต่างๆอีกครั้ง ซึ่งวงเงินอาจจะถูกบีบให้ลดลง ทำให้การซ่อมเกิดข้อจำกัด ไม่ได้คุณภาพ ที่เราควรได้ ทั้งที่เราเป็นฝ่ายถูก! งง ไหม แทนที่ประกันจะช่วยเรากลับเป็นตัวขัดขวางซะเอง แทนที่จะไปไฟท์กับประกันคู่กรณี

ทำไมเป็นอย่างนั้นล่ะ? ประกันของเราต้องช่วยเราไม่ใช่เหรอ? ใช่ .. ประกันที่ดีเขาจะช่วยเราในการเคลมที่ง่าย สะดวก ไม่กดราคา ไม่มีเงื่อนไขเยอะ ไม่เขี้ยว แต่ก็มีหลายบริษัทประกันที่ไม่ได้เป็นอย่างนั้น เขาจะบีบราคาคุณ ให้ซ่อมแบบจำกัดจำเขี่ย แม้การซ่อมนั้น เราจะมีการแนะนำจากอู่ที่ไว้ใจได้แล้วว่า ต้องใช้ของแบบไหน มือหนึ่งหรือสอง สภาพอย่างไร ประกันก็จะกดราคาอู่ ทำให้ไม่สามารถซ่อมได้อย่างอิสระสูงสุด ทั้งที่อยู่ในสิทธิ์ของผู้เอาประกัน ซึ่งก็คือ ลูกค้าของอู่นั้นเอง

แม้ฝ่ายถูกจะไม่ได้ทำประกัน ก็สามารถเรียกร้องจากประกันของคู่กรณีได้ แต่อาจจะถูกบีบราคา ยุ่งยากในการซ่อม และ แม้ไม่มีประกันทั้งคู่ เราก็ยังสามารถเรียกค่าเสียหายจากคู่กรณีได้อยู่ดี โดยใช้สิทธิ์ตามกฏหมาย ที่เราเป็นฝ่ายถูก ฝ่ายถูกละเมิด แต่ปัญหาคือ ยุ่งยาก และเสียเวลามาก หาก เจอคู่กรณีที่ไม่ยอมง่ายๆ

การไล่เบี้ยของบริษัทประกัน แบ่งเป็น 2กรณี
1. ไล่เบี้ยกับ คู่กรณีโดยตรง (คู่กรณีไม่มีประกัน) อันนี้โดนหนักหากเจอประกันเขี้ยว ประกันเจ้านั้น อาจจะไปขูดโขกสับ เเพงๆ แบบโหดๆ ก็ได้
2. ไล่เบี้ยกับบริษัทประกันคู่กรณี ตรงนี้ หลายคนอาจจะคิดว่า ประกันจะขูดโขกสับ เรียกเก็บแพงๆ เพราะ ตัวเองเป็นฝ่ายถูก แต่ในความเป็นจริง บริษัทประกันเขาไม่ได้ทำอย่างนั้น เขามีข้อตกลงกัน ให้เรียกไล่เบี้ยมาตามที่ตกลงกัน เพราะ แต่ละบริษัทประกันก็มีทั้งลูกค้าที่เป็นฝ่ายถูกและผิด ถ้าไปตั้งแง่ ทำสงครามกัน ก็รังแต่จะสร้างปัญหาทั้งสองฝ่าย ประกันก็เลย ตกลงกันซะเลย แล้วเมื่อประกันร่วมมือกัน ก็จะหันปลายกระบอกปืนไปที่ลูกค้า!

ถ้าเราได้ประกันที่ดี มีธรรมภิบาล มีความเป็นมืออาชีพ เขาก็จะไม่ทำอย่างนั้นกับลูกค้าของเขา เขาพยายามช่วยเจรจา ช่วยคุย หรือ แม้กระทั่งยอมจ่ายในส่วนของตนก็เป็นได้