ประกันภัยสำหรับเงิน กรุงเทพประกันภัย

ประกันภัยสำหรับเงิน กรุงเทพประกันภัย
ประกันภัยสำหรับเงิน
ให้ ความคุ้มครองตัวเงินที่ถูกเก็บอยู่ในที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภายในสถานประกอบการ ตู้นิรภัย หรือการขนส่งเงืนนอกสถานประกอบการ ในรูปแบบของการชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ ไฟไหม้ และยังอาจจะขยายถึงการฉ้อโกง หรือยักยอกก็ได้

กรมธรรม์ประกันภัยสำหรับเงิน
โดย การเชื่อถือข้อแถลง ในใบคำขอเอาประกันภัย ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของกรมธรรม์ประกันภัยนี้ และเพื่อเป็นการตอบแทนเบี้ยประกันภัยที่ผู้เอาประกันภัยต้องชำระ ภายใต้บังคับเงื่อนไขทั่วไป ข้อตกลงคุ้มครอง ข้อยกเว้นและเอกสารแนบท้ายแห่งกรมธรรม์ประกันภัยนี้ บริษัทให้สัญญาต่อผู้เอาประกันภัยดังต่อไปนี้

การคุ้มครอง : ตามข้อตกลงคุ้มครอง / เอกสารแนบท้ายที่แนบติดไว้

เงื่อนไขทั่วไป
1) คำนิยามศัพท์ : เพื่อใช้ในกรมธรรม์ประกันภัยหรือเอกสารแนบท้ายกรมธรรม์ประกันภัยนี้
1.1 “บริษัท” หมายความว่า บริษัทที่ออกกรมธรรม์ประกันภัยนี้
1.2 “ผู้เอาประกันภัย” หมายความว่า บุคคลที่ระบุชื่อเป็นผู้เอาประกันภัยในตารางกรมธรรม์ประกันภัย
1.3 “ตาราง” หมายความว่า ตารางแห่งกรมธรรม์ประกันภัยนี้
1.4 “เงิน” หมายความว่า ธนบัตรหรือเหรียญกษาปณ์ที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย เช็คที่ธนาคารรับรองการจ่ายเงิน ธนาณัติ เช็คไปรษณีย์ ดวงตราไปรษณีย์ยังไม่ได้ขีดฆ่า และหลักทรัพย์ที่ระบุประเภทไว้ชัดเจนในตาราง ซึ่งทั้งหมดเป็นทรัพย์สินของผู้เอาประกันภัย หรือยู่ในความรับผิดของผู้เอาประกันภัย
1.5 “เวลาทำงาน” หมายความว่า เวลาที่สถานที่เอาประกันภัยได้เปิดดำเนินธุรกิจ และในระหว่างเวลาดังกล่าวนี้ ผู้เอาประกันภัยหรือพนักงานของผู้เอาประกันภัยผู้มีหน้าที่ดูแลเงินได้อยู่ ในสถานที่เอาประกันภัย
1.6 “สถานที่เอาประกันภัย” หมายความว่า บริเวณภายในอาคารที่ทำการของผู้เอาประกันภัยซึ่งอยู่ในความครอบครองของผู้ เอาประกันภัย ดังระบุไว้ในตาราง
1.7 “พนักงานรับส่งเงิน” หมายความว่า ผู้เอาประกันภัย หุ้นส่วนของผู้เอาประกันภัยหรือพนักงานของผู้เอาประกันภัย ผู้มีหน้าที่ประจำหรือผู้ได้รับมอบหมายจากผู้เอาประกันภัย ให้มีหน้าที่ดูแลและครอบครองเงินในขณะที่เงินนั้นอยู่ภายในสถานที่เอาประกัน ภัย
1.8 “ผู้รักษาทรัพย์” หมายความว่า ผู้เอาประกันภัย หุ้นส่วนของผู้เอาประกันภัย หรือพนักงานของผู้เอาประกันภัย ผู้มีหน้าที่ประจำ หรือผู้ได้รับมอบหมายจากผู้เอาประกันภัย แต่ไม่นับรวมบุคคลซึ่งทำหน้าที่ยาม พนักงานขนของหรือภารโรง
1.9 “ผู้คุ้มครอง” หมายความว่า บุรุษอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์และไม่เกิน 60 ปี ซึ่งร่วมเดินทางไปกับพนักงานรับส่งเงิน โดยคำสั่งของผู้เอาประกันภัย เพื่อคุ้มครองและปกป้องการขนส่งเงิน แต่ไม่นับรวมถึงพนักงานขับรถ
1.10 “การชิงทรัพย์” หมายความว่า
1.10.1
การลักทรัพย์โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อ –
ก) ให้ความสะดวกแก่การลักทรัพย์หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือ
ข) ให้ยื่นให้ซึ่งทรัพย์นั้น หรือ
ค) ยึดถือเอาทรัพย์นั้นไว้ หรือ
ง) ปกปิดการกระทำความผิดนั้น หรือ
จ) ให้พ้นจากการจับกุม
1.10.2
การลักทรัพย์โดยการใช้กำลังทำลายกระจกหน้าร้าน เพื่อพาทรัพย์นั้นไป
1.10.3
การลักทรัพย์ไปจากตัวพนักงานรับส่งเงิน หรือผู้รักษาทรัพย์ซึ่งถูกฆ่าหรือถูกทำร้ายร่างกายหรือถูกทำให้สิ้นสติ
1.11 “การปล้นทรัพย์” หมายความว่า การกระทำการชิงทรัพย์ตามข้อ 1.10 โดยร่วมกันกระทำตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป
1.12 “การโจรกรรมเงินจากตู้นิรภัยหรือห้องนิรภัย” หมายความว่า
ก) การลักทรัพย์โดยการใช้กำลังอย่าง รุนแรงและปรากฎร่องรองต่อผนังด้านนอกของตู้นิรภัย หรือห้องนิรภัยซึ่งได้ปิดล็อคไว้เรียบร้อยแล้ว ตามระบบของตู้นิรภัย ซึ่งได้ปิดล็อคไว้เรียบร้อยแล้ว ตามระบบของตู้นิรภัย หรือห้องนิรภัยชนิดนั้น ๆ ให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า มีการใช้เครื่องมือวัตถุระเบิด เครื่องไฟฟ้าหรือเคมี หรือ
ข) การโจรกรรมตู้นิรภัยไปทั้งตู้จากสถานที่เอาประกันภัย

การทำบัญชี
ผู้เอาประกันภัยต้องจัดทำและเก็บรักษารายละเอียดของเงินที่เอาประกันภัย เพื่อที่บริษัทสามารถตรวจสอบได้ ในกรณีที่เกิดการสูญเสีย การจำกัดความรับผิดของบริษัทและวิธีชดใช้ค่าสินไหมทดแทน บริษัทจะรับชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้ไม่เกิน

1. จำนวนเงินจำกัดความรับผิดที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย หรือ
2. ราคาตลาดของหลักทรัพย์นั้น ณ เวลาปิดทำการของวันหลังสุดก่อนวันที่พบการสูญเสียนั้น ถ้าทรัพย์สินนั้นเป็นหลักทรัพย์ต่าง ๆ หรือ
3. ค่าซ่อมแซมหรือจัดหาทรัพย์สินคล้ายคลึงมาทดแทนโดยคิดจากขณะเกิดความเสียหาย หรือมูลค่าที่แท้จริงของทรัพย์สินนั้น ในขณะที่เกิดความเสียหาย ถ้าเป็นทรัพย์สินอย่างอื่นทดรองล่วงหน้าหรือหนี้กู้ยืม จะถือว่าไม่เกินมูลค่าของทรัพย์สินหรือหลักทรัพย์ ซึ่งผู้เอาประกันภัยได้ตีราคาและบันทึกไว้ในขณะจ่ายเงินทดรองหรือให้กู้ยืม ถ้าหากไม่มีการบันทึกราคาของทรัพย์สินหรือหลักทรัพย์นั้นไว้ ให้ถือว่ามูลค่าที่แท้จริงของทรัพย์สินหรือหลักทรัพย์นั้นเป็นเงินทดรองหรือ หนี้กู้ยืมส่วนที่ผู้เอาประกันภัยยังไม่ได้ชำระคืนบวกกับดอกเบี้ยค้างชำระใน อัตราดอกเบี้ยตามกฎหมาย
จำนวนเงินจำกัดความรับผิดของบริษัทที่ระบุใน ตารางกรมธรรม์ประกันภัยนั้น เป็นความรับผิดรวมของบริษัทที่มีต่อความเสียหายในทรัพย์สินของผู้เอาประกัน ภัยอันเป็นผลจากภัยที่ระบุคุ้มครองอยู่ในข้อตกลงคุ้มครอง ไม่ว่าจะกระทำโดยบุคคลคนเดียวหรือหลายคน ให้ถือว่าเกิดจากเหตุการณ์ครั้งเดียวกัน
บริษัทอาจจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เป็นเงินสดหรือโดยการซ่อมแซมให้หรือจัดหา ทรัพย์สินอื่นที่คล้ายคลึงกันมาทดแทนให้ หากบริษัทได้ชดใช้ค่าเสียหายครบถ้วนตามความรับผิดของบริษัทแล้ว ทรัพย์สินที่เสียหายนั้นจะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท

หน้าที่ของผู้เอาประกันภัยในการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน
เมื่อได้เกิดการสูญเสียหรือการเสียหายผู้เอาประกันภัยต้องปฏิบัติดังต่อไปนี้. –

1. แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยทันที และแจ้งการสูญเสียหรือเสียหายดังกล่าวต่อบริษัทโดยไม่ชักช้า
2. ส่งรายการการสูญเสียโดยละเอียดเป็นลายลักษณ์อักษรให้แก่บริษัทภายใน 15 วัน นับแต่ได้รับทราบถึงการสูญเสียนั้น
ผู้ เอาประกันภัยโดยค่าใช้จ่ายของตนเองต้องจัดส่งบรรดารายละเอียดและเอกสาร หลักฐานอันเกี่ยวกับการสูญเสียตามที่บริษัทต้องการ และต้องให้ความร่วมมือกับบริษัทตามความจำเป็น

การปรับปรุงเบี้ยประกันภัย
เบี้ยประกันภัยสำหรับการคุ้มครองความสูญเสียของเงินเพื่อจ่ายค่าจ้าง และ/หรือ เงินเดือนและความสูญเสียของเงินภายนอกสถานที่เอาประกันภัยจะคำนวณจากจำนวน เงินทั้งหมดที่ขนส่งในระหว่างระยะเวลาเอาประกันภัย โดยผู้เอาประกันภัยต้องส่งรายการแสดงจำนวนเงินที่ขนส่งจริงในระหว่างระยะ เวลาเอาประกันภัยให้แก่บริษัทภายในหนึ่งเดือนหลังจากวันสิ้นสุดระยะเวลาเอา ประกันภัย ถ้าจำนวนเงินที่ขนส่งจริงต่างจากจำนวนเงินที่ประมาณไว้ในหน้าตารางกรมธรรม์ ประกันภัยบริษัทจะปฏิบัติดังต่อไปนี้
1. ในกรณีที่จำนวนเงินที่ขนส่งจริงมากกว่าจำนวนเงินที่ประมาณไว้ บริษัทจะเก็บเบี้ยประกันภัยเพิ่มสำหรับส่วนต่างที่เพิ่มขึ้น
2. ในกรณีที่จำนวนเงินที่ขนส่งจริงน้อยกว่าจำนวนเงินที่ประมาณไว้ บริษัทจะคืนเบี้ยประกันภัยสำหรับส่วนต่างที่ลดลง

การประกันภัยประเภทอื่น
หากปรากฎว่าได้มีการประกันภัยประเภทอื่นคุ้มครองถึงการสูญเสียอย่างเดียว กัน บริษัทจะรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนเฉพาะส่วนที่เกินจากจำนวนเงินจำกัดความรับ ผิดที่ผู้เอาประกันภัยได้รับชดใช้จากการประกันภัยประเภทอื่น แต่ไม่เกินจำนวนเงินจำกัดความรับผิดที่ระบุไว้ในตาราง

การโอนสิทธิตามกรมธรรม์ประกันภัย
สิทธิของผู้เอาประกันภัยนี้ จะโอนได้ต่อเมื่อได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากบริษัท

การรับช่วงสิทธิ
ผู้ เอาประกันภัยจะไม่กระทำการใด ๆ ที่จะทำให้การรับช่วงสิทธิของบริษัทต่อผู้กระทำผิดกระทบกระเทือนและต้องร่วม มือกับบริษัท ในการที่บริษัทจะใช้สิทธิ

การแต่งตั้งอนุญาโตตุลาการ
ถ้ามีการขัดแย้ง ใดเกิดขึ้นภายใต้กรมธรรม์ประกันภัยนี้ คู่กรณีจะเสนอให้นำข้อขัดแย้งดังกล่าวให้อนุญาโตตุลาการคนหนึ่ง ซึ่งคู่กรณีแต่งตั้งขึ้นเป็นลายลักษณ์อักษรเป็นผู้วินิจฉัย หรือถ้าคู่กรณีไม่สามารถตกลงเลือกบุคคลเดียวกันภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ถูกคู่กรณีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดร้องขอเป็นลายลักษณ์อักษร อาจจะเสนอให้แต่งตั้งอนุญาโตตุลาการสองคนฝ่ายละหนึ่งคนเป็นผู้วินิจฉัย ในกรณีที่อนุญาโตตุลาการสองคนตกลงไม่ได้ ให้อนุญาโตตุลาการตั้งผู้ชี้ขาดเป็นลายลักษณ์อักษรทำการชี้ขาด

การแก้ไข
สัญญาคุ้มครองและเงื่อนไข แห่งกรมธรรม์ประกันภัยนี้ จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขโดยบริษัทออกเอกสารแนบท้ายที่ได้ลงลายมือชื่อโดยบุคคลผู้ มีอำนาจของบริษัทและประทับตราของบริษัทไว้เป็นสำคัญ

การเลิกกรมธรรม์ประกันภัย
1. บริษัทบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยฉบับนี้ได้ด้วยการส่งหนังสือบอกกล่าวล่วง หน้าไม่น้อยกว่า 15 วัน โดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนถึงผู้เอาประกันภัย ตามที่อยู่ครั้งสุดท้ายที่แจ้งให้บริษัททราบ ในกรณีนี้ บริษัทจะคืนเบี้ยประกันภัยให้แก่ผู้เอาประกันภัยให้แก่ผู้เอาประกันภัย โดยหักเบี้ยประกันภัยสำหรับระยะเวลาที่กรมธรรม์ประกันภัยฉบับนี้ได้ใช้ บังคับมาแล้วออกตามส่วน
2. ผู้เอาประกันภัยจะบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยฉบับนี้ได้โดยแจ้งให้บริษัททราบ เป็นหนังสือ และมีสิทธิได้รับเบี้ยประกันภัยคืนหลังจากหักเบี้ยประกันภัยสำหรับระยะเวลา ที่กรมธรรม์ประกันภัยฉบับนี้ได้ใช้บังคับมาแล้วออกตามอัตราเบี้ยประกันภัย ระยะสั้น

เงื่อนไขบังคับก่อน
บริษัทอาจจะไม่รับผิดชอบค่าสิน ไหมทดแทนตามกรมธรรม์ประกันภัยนี้ เว้นแต่ผู้เอาประกันภัยได้ปฏิบัติถูกต้องครบถ้วนตามสัญญาประกันภัยและ เงื่อนไขแห่งกรมธรรม์ประกันภัย