การตัดสัญญาตัวแทนกับวิสัยทัศน์ที่ล้าหลัง
ปัญหาที่ตัวแทนประกันชีวิตจะเจอคือการถูกตัดสัญญาณตัวแทนเนื่องจากไม่สามารถรักษาโควต้าหรือยอดขายได้ สิ่งนี้จะส่งผลกระทบต่อตัวลูกค้าผู้เอาประกันเนื่องจากโดยส่วนมากแล้วตัวแทนเหล่านี้จะย้ายบริษัทและโดยทั่วไปก็จะดึงลูกค้าตามไปด้วยอาจจะมีถึง 50%ซึ่งก็แล้วแต่ความสัมพันธ์ของตัวแทนและลูกค้าที่มีอยู่และสิ่งนี้ก็ทำให้ลูกค้าผู้เอาประกันเสียหายได้จากการยกเลิกประกันเดิมที่ทำซึ่งจะได้ค่าเวรคืนกรมธรรม์ที่อาจจะไม่คุ้มนักสำหรับบางแบบประกันในช่วงระยะเวลาที่ทำอยู่แต่ใครจะสนใจล่ะเพราะลูกค้าที่ทำประกันชีวิตส่วนมากแล้วซื้อเพราะตัวแทนไม่ได้ซื้อเพราะบริษัทพูดง่ายๆก็คือตัวแทนของเขาขายยี่ห้ออะไรเขาก็ซื้อยี่ห้อนั้นแท้จริงแล้วตัวแทนประกันชีวิตก็คือสินค้าของบริษัทดีๆนี่เอง
ในวันที่เราจะสมัครขายประกันเป็นตัวแทนของบริษัทประกันคุณเชื่อไหมว่าบรรดาบริษัทประกันชีวิตผู้จัดการหัวหน้าหน่วยแทบจะอุ้มคุณไปที่บริษัทของเขาเพื่อเปิดรหัสเป็นตัวแทนขายประกันให้กับเขา ทว่าเมื่อเวลาผ่านไป ระยะหนึ่ง อาจจะซัก 1 ปี 3 ปี คุณอาจต้องพบกับสถานการณ์ที่สร้างความกดดันชีวิตการทำงานของคุณ เช่น การบังคับยอด การถูกบังคับให้ตั้งเป้าสำหรับผู้จัดการ เดือนนี้จะขายเท่าไหร่ จะขายกี่ราย บางบริษัทประกันบังคับให้คุณต้องเข้าประชุมนู่นนี่นั่น ทั้งประชุมบริษัท ประชุมไตรมาส ประชุมสโมสร สโมสรก็มีตั้งแต่สโมสรวันจันทร์ อังคาร พุธ พฤหัส ศุกร์ สโมสร recruit ซึ่งบางบริษัทอาจจะบังคับให้คุณต้องซื้อบัตรแล้วก็ไปชวนคนมานั่งฟังที่ห้องประชุม หรือตามโรงแรมหรือบริษัทคุณยังอาจจะต้องเข้าประชุมหน่วยงาน เข้าประชุมทีมงาน ประชุมส่วนงาน และ ยังมีนัดประชุมพิเศษอีกสำหรับเรื่องต่างๆ ทั้งหมดนี้เป็นความไร้ประสิทธิภาพซึ่งจะทำให้คุณเสียเวลาชีวิตมากมาย ไปกับเรื่องเหล่านี้ บางผู้บริหารยังออกกฏเพิ่มเติม บังคับให้คุณต้องเข้าไปเซ็นชื่อ! ทำยังกับคุณรับเงินเดือน เป็นพนักงานประจำอย่างนั้นแหละ เพราะเขามีรายได้ และ ลูกค้าของคุณเป็นตัวประกันยังไงล่ะ!
เข้าเรื่องของการตัดสัญญาตัวแทนกันต่อ .. โดยทั่วไป เราอาจจะพบว่าคน 20% จะผลิตผลงาน 80% คนอีก 80% ก็จะผลิตผลงาน 20% ก็ได้ ผู้บริหารงานขายของบริษัทประกันมักจะใช้เวลาส่วนหนึ่งในการกำจัดตัวแทนที่ไม่สร้างผลงานสักเท่าไหร่ โดยใช้เงื่อนไขขั้นต่ำของบริษัท เช่นว่า คุณต้องขายได้ปีละ 3 รายหรือเบี้ยประกันสัก 50,000 บาทหรือมีคอมมิชชั่นปีละ 15,000 บาท หากทำไม่ได้ ก็จะถูกพิจารณาตัดโค้ด แต่ทั้งนี้ก็ยังมีบางบริษัทที่มีการอนุโลม
คำถามคือ ถ้าคุณตัดโค้ดตัวแทนประกันชีวิตเหล่านี้ไปแล้ว มันทำให้บริษัทคุณดีขึ้นยังไง?
ใช่แล้ว คุณคงคิดว่าบริษัทประกันชีวิตของคุณจะยังคงเหลือแต่ ตัวแทนที่ทำงาน ตัวแทนที่มีผลงานเท่านั้น หากคิดแบบนี้เป็นไปได้ว่าคุณอาจจะมี mindset ที่โบราณ ล้าหลัง สำหรับในยุคปัจจุบันที่เป็นออนไลน์ business
ถ้าเป็นสมัยก่อนที่ยุคอินเทอร์เน็ตยังไม่แพร่หลายเหมือนปัจจุบันการตัดสัญญาณตัวแทนออกไปเนื่องจากทำยอดไม่ได้อาจเป็นเรื่องที่ไม่ได้ทำให้บริษัทเสียหายมากนักแต่ในยุคปัจจุบันไม่ใช่แล้วเนื่องจากโลกทั้งใบเต็มไปด้วยออนไลน์อินเทอร์เน็ตสื่อโซเชียลตัวแทนประกันชีวิต 1 คนก็มีคนรู้จักเป็นร้อยหรือเป็นพันหรือแม้กระทั่งอยู่ในกลุ่มต่างๆกลุ่ม facebook กลุ่ม line และแพลตฟอร์มต่างๆอีกมากมายซึ่งมีพื้นที่สื่อจะมีผลต่อการรับรู้ข้อมูลนั่นแปลว่าถ้าตัวแทนประกันชีวิตเหล่านั้นยังคงอยู่ที่บริษัทแม้จะไม่มีผลงานมากนักหรือไม่มีเลยก็ตามเขายังคงมีประโยชน์สำหรับบริษัทของคุณไม่มากก็น้อยทำไมคุณต้องกำจัดเข้าไปออกจากบริษัทของคุณ หรือแม้กระทั่งหากคุณคิดว่าการที่ตัวแทนเหล่านั้นมีโค้ดอยู่กับบริษัทคุณและไม่ได้ผลิตผลงานมันจะสร้างค่าใช้จ่ายให้กับบริษัทของคุณอย่างเช่นเอกสารหรือไฟล์หรืออะไรสักอย่างซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้แต่หากแม้นจะมีคุณก็อาจจะคิดค่าใช้จ่ายเขาเดือนละร้อยเดือนละ 1,000 บาทก็แล้วแต่อาจจะผูกติดกับผลงานถ้าผลงานไม่ถึงต้องคิดค่าใช้จ่ายในการดำรงสภาพตัวแทนก็ทำได้
ผู้บริหารงานขายของบางบริษัทประกันภัยเหล่านี้อาจจะคิดสั้นๆง่ายๆเมื่อต้องการเร่งยอดด้วยการอ้างกฎระเบียบข่มขู่บีบคั้นอย่างสุภาษิตที่ว่ารีดเลือดกับปูเพราะเป็นหนทางที่จะได้ยอดมาอย่างง่ายที่สุดทดแทนประกันชีวิตเหล่านั้นก็จะเกิดความกดดันไม่มีความสุขในการทำงานเขาก็จะหาทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ยอดอย่างเช่นไปขายญาติของเขาเพื่อนของเขาคนที่รู้จักของเขาขอให้ช่วยเหลือซึ่งสุดท้ายก็อาจจะได้งานมาในระยะแรกแต่ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ไม่สามารถทำอย่างนั้นได้ตลอดไปมันเป็นการ concentrate ไปที่ผลของการขายในความเป็นจริงแล้วเราอาจจะแลกสิ่งนี้ด้วยการให้ตัวแทนเหล่านั้นโพสต์สิ่งที่เป็นประโยชน์กับบริษัทในโปรไฟล์ของเขาในแพลตฟอร์มที่เขามีซึ่งนั่นจะสร้างประโยชน์ให้กับตัวบริษัทได้มากกว่าทั้งในแง่ของภาพลักษณ์และความรู้สึกที่ดีอย่างเช่นตอนที่คุณสอนตัวแทนว่าเราไม่สามารถควบคุมเงื่อนไขได้แต่ควบคุมกิจกรรมได้สิ่งนี้หรือเปล่าที่เราควรทำ
การข่มขู่อ้างระเบียบและตัดโค้ดจึงเป็นความสิ้นคิดของผู้บริหารงานขายนั่นเองซึ่งก็ไม่เข้าใจเหมือนกันทำไมถึงมีการปฏิบัติต่อๆกันมาในหลายบริษัทหลายรุ่นและหลงเหลือมาจนถึงปัจจุบันเหตุผลก็เพราะว่าขาดวิสัยทัศน์หรือมีความคิดที่ล้าหลังนั่นเองคนเหล่านี้ส่วนมากแล้วจะเป็นคนรุ่นเก่าๆความคิดโบราณติดอยู่ในกรอบและไม่ค่อยจะเข้าใจเรื่องของเทคโนโลยีไม่ค่อยอยู่ในโลกของโซเชียลอย่างเช่น facebook twitter และ platform อื่นๆอีกมากมาย
สิ่งที่ผู้บริหารงานขายควรทำก็คือการ concentrate ไปที่กลุ่มตัวแทนประกันชีวิตที่สร้างผลผลิต 20% นั้นต่างหากด้วยการให้การสนับสนุนเพิ่มเติมรางวัลสวัสดิการเชิดชูเกียรติอะไรก็แล้วแต่สำหรับอีก 80% ที่เหลืออาจจะเก็บเอาไว้เป็นไม้ประดับของบริษัทอย่างน้อยก็เป็นฐานเสียงให้กับคุณและไม่เป็นการผลักมิให้เป็นศัตรูน่าจะเป็นวิธีการที่ชาญฉลาดกว่าตราบเท่าที่ตัวแทนประกันชีวิตเหล่านั้นไม่ได้สร้างปัญหาให้กับบริษัทเช่นการโกงลูกค้าการไม่บริการลูกค้าหรือถูกร้องเรียนหรือสร้างความเสียหายอื่นๆ และในวันหนึ่งบริษัทของคุณก็อาจจะมีธุรกิจใหม่ๆยังสามารถมี connection กับตัวแทนขายของคนเหล่านั้นได้อีกด้วย
มีนิทานเรื่องหนึ่งที่หมาล่าเนื้อเมื่อแก่ตัวไม่สามารถล่าสัตว์ได้นายพรานหรือเจ้าของหมาตัวนั้นจึงล่ามมันเอาไว้ไม่ให้อาหาร และยังทุบตีมันอีกสภาพชีวิตของช่วงชีวิตสุดท้ายของหมาตัวนั้นน่าสงสารและเวทนาทุกข์ทรมานจนตายไปในที่สุดแม้ครั้งหนึ่งมันจะเคยเป็นหมาที่ล่าเนื้อให้กับเจ้าของได้อย่างมากมายถ้าเป็นคนก็ได้รักเธอหลังมันเหรียญกล้าหาญเต็มไปหมดแต่ก็เปล่าประโยชน์
อาชีพตัวแทนประกันชีวิต ไม่ต่างกับหมาล่าเนื้อ เมื่อไรที่คุณหมดประโยชน์ หรือบริษัทประกันคิดว่าคุณไม่ได้สร้างประโยชน์ เช่น ไม่สามารถทำยอดได้ตามเงื่อนไข ก็จะถูกตัดสัญญา และถ้าหมาตัวนั้นมันรู้ว่าบั้นปลายชีวิต อนาคตข้างหน้าของมันจะเป็นอย่างไร คุณคิดว่ามันจะยังคงล่าเนื้ออย่างสุดชีวิตด้วยความซื่อสัตย์ให้กับเจ้าของมันหรือไม่? ในชีวิตของตัวแทนประกันชีวิตที่ถูกบริษัทกระทำเยี่ยงนั้นก็ไม่ต่างกัน ทุกคนในสายอาชีพนี้พึงสังวรไว้
แล้วหากมีบริษัทประกันชีวิตที่ทำกับคุณอย่างนั้นและยังคงทำอยู่ เราในฐานะตัวแทนประกันชีวิตจะทำยังไง? สิ่งที่คุณทำได้ก็คือการสร้างแบรนด์ของตัวเองขึ้นมา อาจจะดูไกลตัว ไม่เข้าใจ แต่เป็นเรื่องง่ายๆที่จะเริ่มทำ ด้วยการสร้างเว็บไซต์ของคุณ ในวันหนึ่งข้างหน้าที่คุณจำเป็นจะต้องย้ายบริษัทประกัน ธุรกิจของคุณจะรันไปต่อได้โดยไม่ติดขัดเพราะลูกค้าจะจำแบรนด์ของคุณ ไม่ใช่บริษัทประกันที่คุณขายประกันให้
หากคุณสนใจสร้างแบรนด์ของคุณ สร้างเว็บขายประกัน ติดต่อได้ที่ คลิ๊ก