การโจรกรรมรถยนต์ และ การป้องกัน
ขโมยรถยนต์อย่างไร
โจรจะหาวิธีเข้าไปภายในรถยนต์ของเราให้ได้ก่อน ปัจจุบันมีอยู่มากมายหลายวิธีได้แก่
1. กุญแจปลอม ถ้าคนร้ายมีกุญแจ เหมือนกับเรา ก็เปรียบเสมือนเป็นเจ้าของรถนั่นเอง วิธีการที่ผู้ร้ายจะได้กุญแจปลอมนั้นได้แก่ การแอบปั้มกุญแจเช่นเวลาที่เรานำรถไปจอดซ่อม ล้างอัดฉีด ซื้อรถจากโชว์รูม เต็นท์ขายรถมือสอง จากเจ้าของเก่าที่ไว้ใจไม่ได้ หรือที่นิยมสมัยนี้คือการติดต่อซื้อรถทางอินเตอร์เน็ต แล้วแอบมาปั้มลูกกุญแจเวลาเจ้าของเผลอ ซึ่งคนร้ายจะติดตามมาถึงบ้าน และที่จอดรถประจำเพื่อขโมย
2. เหล็กแข็งแทนกุญแจ คนร้ายจะใช้เหล็กขนาดเท่ากุญแจรถแต่เป็นเหล็กแข็ง ส่วนมากจะดัดแปลงมาจากประแจหกเหลี่ยมมุมฉากสแตนเลสที่มีความแข็ง ตีเข้าที่รูกุญแจแล้วใช้แรงบิดจนชุดฟันเฟืองเสียหาย และหมุนจนตัวล็อคเปิดออก เป็นอีกวิธีหนึ่งที่คนร้ายชอบใช้กัน
3. ใช้ลวดแข็งเกี่ยวตัวล็อคประตู ถ้าใครเคยลืมกุญแจไว้ในรถแล้วเรียกช่างมาปลดล็อคกุญแจจะเคยเห็นว่า ช่างจะใช้ลวดเชื่อมยาวๆเบอร์แข็งๆ ดัดทำเป็นตัวยู งัดยางรีดน้ำประตูออก และใช้ลวดแยงเข้าไปให้ตะขอเกี่ยวกับปุ่มกดล็อคให้เด้งขึ้น เสมือนมีคนอยู่ในรถแล้วดึงปุ่มเปิดประตูขึ้น หรือใช้ฟุตเหล็กแยงให้ตรงกับคันชักกลอนประตูให้เด้งลง หรือใช้ลดแยงทางมือเปิดประตูเพื่อมาดันตัวกดล็อกให้เด้งขึ้น วิธีนี้ถ้าช่างที่มีความชำนาญจะใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น
4. งัดประตูหูช้าง พวก รถกระบะแค็บที่มีประตูหูช้าง โจรจะใช้ลวดแข็งมากๆงอเป็นตัวยู สอดเข้าไประหว่างกระจกแค็ปแล้วงัดแรงๆ กระจกจะเปิดออก แล้วจะงัดตัวล็อคให้หัก ใช้มือเอื้อมมาเปิดตัวล็อคประตู บางคนคิดว่ากระจกบานนี้น่าจะแข็งแรงแต่ถ้าคุณลองงัดดู จะต้องเปลี่ยนใจว่า มันไม่ยากอย่างที่คิด
5. ใช้น้ำกรด โจรจะใช้น้ำกรดชนิดเข้มข้นใส่เข็มฉีดยา หยดไปตามรูกุญแจเพื่อทำลายชุดฟันเฟือง และสปริงเล็กๆในแม่กุญแจ แบบนี้ยังนำมาใช้ภายในรถพวกล็อคพวงมาลัย ล็อคเกียร และล็อคครัชได้อีกด้วย
6. ทุบกระจกประตูหรือกระจกหูช้าง โจรจะใช้เหล็กแหลมคม ค่อยๆกะเทาะกระจกจนเกิดรอยร้าว ใช้ผ้าปิดป้องกันเสียง จนกระจกแตกออกทั้งบาน ใช้มือล้วงเปิดตัวล็อคกุญแจออก คราวนี้ก็ถือเป็นการง่ายแล้วถ้าจะเข้าไปในรถของท่าน
7. ช็อตวงจรไฟฟ้า บาง ท่านคิดว่า ใช้กุญแจรีโมตแล้วปลอดภัยแน่ แต่จริงๆแล้วกลับง่ายต่อการต่อรัดวงจรไฟฟ้า เช่นวงจรไฟเลี้ยว ในชุดรีโมตแบบธรรมดา หรือถ้าเป็นรถยุโรปด้วยแล้วกลับเป็นเรื่องง่าย ตัวล็อคจะเด้งหลุดทันที
8. จูนสัญญาณจากรีโมต เวลา จอดรถ ในห้างสรรพสินค้าพอเรากดรีโมตล็อคปุ๊ป คนร้ายก็จะมีเครื่องมือมาจับความถี่สัญญาณ แล้วหาก็อปปี้ความถี่มาใช้ยิงเปิดประตูได้เลย แบบนี้ถือว่าเป็นระบบที่อันตรายมาก
9. ยกรถ บางครั้งแล้วคนร้ายอาจใช้วิธีเอารถยกมายกไปเลย แบบนี้อย่าคิดว่าขำครับ เป็นวิธีที่โจรบางพวกนิยมใช้กัน เมื่อยกรถแล้วจะหาทางเข้าที่เปลี่ยวๆ แล้วปลดล็อคต่างๆกันต่อไป
10. จี้หรือปล้น เช่นการวางเรือใบ ดักซุ่มในที่เปลี่ยว ล่อลวงต่างๆ แต่ที่เห็นเป็นประเด็นร้อนอย่างการลวงซื้อรถทางอินเตอร์เน็ต แล้วขอนัดดูในที่เปลี่ยว แต่จริงๆแล้วเขาไม่ได้มาขอซื้อรถหรอก แต่อาจจะขอไปใช้กันฟรีๆเลยก็ได้
แม้กระทั่งวิธีใหม่ๆ เช่น ขับรถชนท้าย เพื่อให้ลงจากรถมาดูรถจากนั้นก็ปล้นง่ายๆ ต้องระวังไว้ให้มาก
เมื่อเข้ารถได้แล้วโจรมักจะทำอย่างไร
1. งัดคอพวงมาลัย เพื่อเป็นการปลดล็อคระบบบังคับเลี้ยว โจรจะถอดคอพวงมาลัยแล้วใช้อุปกรณ์งัดหูล็อคคอกุญแจหรือตัดกุญแจล็อคคอที่ เป็นตะกั่วให้หลุดออกจากแกนพวงมาลัย แค่นี้ระบบล็อคคอก็จะหลุดออกอย่างรวดเร็ว
2. ใช้เลื่อยตัด ถ้าเรามีกุญแจล็อคคันเกียร หรือล็อคพวงมาลัย อย่าพึ่งหลงคิดว่าโจรจะใช้เวลามากเพราะล็อคเกียร หรือล็อคพวงมาลัยราคาถูก ก็เปรียบเสมือนเครื่องประดับรถสำหรับโจรแค่นั้นเอง อย่างในรูปล็อคเกียรนั้นจับเวลาในการตัดได้ไม่กี่นาทีเท่านั้น
3. ใช้น้ำกรด โจรจะใช้น้ำกรดชนิด เข้มข้น หยอดไปตามรูกุญแจต่างๆจนเสียหาย และหลุดออก
4. ช็อตวงจรไฟฟ้า และต่อสายตรง คนร้ายส่วนมากจะมีการฝึกฝนและศึกษาวงจรกันขโมยของแต่ยี่ห้อแต่ระรุ่นมาเป็น อย่างดี คนร้ายอาจใช้เวลาไม่นานในการต่อสายตรงแล้วสตาร์ทเครื่องหลบหนีได้อย่างรวด เร็ว
ขโมยแล้วเอาไปไหน
1. ส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน
แนวทางของคนร้ายถ้าเป็นรถใหม่ก็จะนำส่งประเทศเพื่อนบ้าน แรกๆก็แปลกใจว่าถ้าจะข้ามตะเข็บชายแดนก็มีทหาร ตำรวจสกัดด่านไว้หมด แล้วมันเอาไปได้ไง ที่เคยเห็นก็เป็นวิธีเอาลงแพ แล้วใช้ไม่ลวกถ่อข้ามแม่น้ำไป ราคาขายในประเทศเพื่อนบ้านไม่เกินหลักแสนบาท
2. แยกขายเป็นอะไหล่มือสอง
ถ้าเป็นรถเก่าหน่อยคนร้าย ก็จะนิยมเอามาแยกขายอะไหล่แบบเชียงกงบ้านเรา ถ้าสังเกตกันดีๆมีหลายร้านที่มีอะไหล่ทั้งนอกและในบ้านเราผสมอยู่ก็ไม่น้อย หรือนำไปซ่อมขาย ลักษณะพวกนี้จะทำงานเป็นออเดอร์สั่งมาเลย อยากได้รุ่นไหน สีอะไรเป็นต้องได้ พวกนี้จะนำมาแยกชิ้นส่วนแล้วนำมาซ่อมรวมกับรถที่เกิดอุบัติเหตุแบบสาหัส ที่ต้องการอะไหล่แบบครึ่งคันหรือใช้เกือบทั้งคันเลยก็มี
3. สวมทะเบียน
อีกแบบก็นำมาสวมกับทะเบียนรถอุบัติเหตุแบบซ่อมไม่ได้แล้ว ใช้แค่ทะเบียนกับหมายเลขตัวถังและหมายเลขเครื่องเดิมนำมา ต่อใส่แล้วเก็บสีให้สวยก็ขายได้แล้ว สมัยนี้ช่างฝีมือ และเทคนิคใหม่ๆมีเยอะ ขนส่งยากที่จะจับได้
4. ทำทะเบียนปลอม
แบบสุดท้ายใช้รถแบบนั้นเลยแล้วทำทะเบียนปลอมขึ้นมา (จากขนส่ง) สามารถต่อทะเบียนวิ่งได้ทุกปี จนถึงปีที่ 6 ต้องตรวจ ต.ร.อ. ก็ไม่สามารถทำได้เพราะกลัวตรวจสอบเจอ ก็นำไปแยกขายอะไหล่อีกที
แล้วเรามีวิธีป้องกันรถหายกันได้อย่างไร
ใช้อุปกรณ์ป้องกันขโมย
ในปัจจุบันมีคนพัฒนาอุปกรณ์เพื่อมาหยุดยั้งการโจรกรรมรถยนต์ออกมาขายมากมาย มาดูตัวอย่างระบบกันขโมยที่นิยมใช้กันในปัจุบัน
1. ล็อคเกียร์ แทบเป็นอุปกรณ์ที่แถมมากับโรงงานเลย แนะนำให้ใช้ยี่ห้อที่มีเชื่อเสียง วัสดุเป็นสแตนเลส หรือเหล็กกล้าอย่างดี ถ้าเป็นแบบของแถมราคาถูกต้องขอบอกตรงๆว่าเหมือนของประดับรถมากกว่า บางทีใช้ใบเลื่อยอย่างดีแทงไม่กี่ทีก็ขาดแล้ว
2.ล็อคพวงมาลัย เป็นอุปกรณ์ที่ดีโจรต้องใช้เวลาในการปลดล็อคเพิ่มขึ้น โจรอาจใช้วิธีขันพวงมาลัยออกมาปลดล็อค หรือตัดพวงมาลัยออกแบบพวงมาลัยเครื่องบินแล้วขับหนีกันไปแบบนั้นเลย
3. ล็อคเบรคครัช เป็นแบบที่นิยม ใช้กันในปัจจุบัน ผลิตกันมามากมายหลายยี่ห้อ การล็อคแบบนี้จริงๆแล้วถือเป็นการป้องกันแบบทีมีประสิทธิภาพมาก บางรุ่นคนร้ายอาจต้องใช้แก๊สตัดเพื่อปลดล็อคเลยก็ได้
แก๊สที่ใช้ตัด เดี่ยวมีแบบเป็นกระป๋องขนาดเล็ก หาซื้อได้ทั่วไป
4. เทคโนโลยีล่าสุดในการป้องกันขโมยรถยนต์แบบต่างๆ
1. ระบบควบคุมการล็อคประตูแบบไร้สาย (Wireless Door-lock Remote Control System)
เป็นระบบที่ใช้รีโมต ควบคุมระยะไกล ใช้เคลื่อนความถี่สูงระดับ FM ส่งรหัส ID Lock จากตัวแม่ Master เข้าสู่กล่องควบคุม ECU ระบบนี้จะใช้รหัสโค้ด 10 ตัว เพื่อเข้ารหัสในการปลดล็อคกุญแจ ถ้ารหัสผิดกล่องจะทำการตัดสัญญาณ ต้องใช้กุญแจไขเท่านั้น และยังคอยรับอาการผิดปกติที่เกิดกับรถยนต์ทุกรูปแบบ
2. ระบบป้องกันการสตาร์ทเครื่องยนต์ (Engine Immobilizer System)
ระบบนี้จะอาศัยแผ่นโค๊ด (Tran sponder Chip) ที่ฝังอยู่ในลูกกุญแจ เมื่อนำลูกกุญแจเสียบเข้าสู่แม่กุญแจ จะมีการส่งสนามแม่เหล็กจากตัวแม่ มาสู่ตัวลูก เพื่อเปรียบเทียบโค๊ด ถ้ารหัสผิดกล่องคอมพิวเตอร์จะตัดสัญญาณการสตาร์ทเครื่องยนต์ทันที และไม่สามารถสตาร์ทอีกใหม่อีกได้ ระบบนี้ถ้าเจ้าของรถบางคันคาดไม่ถึง เอาลูกกุญแจสำรองที่ทำปั้มเองมาไข จะไม่สามารถสตาร์ทเครื่องได้ ต้องลากรถกลับเข้าไปแก้โค๊ดที่ศูนย์ทุกราย
3. ระบบ TDS หรือระบบส่งสัญญาณด้วยเสียง
ระบบนี้จะทำงานเมื่อมีการกดรีโมตล็อคประตู ซึ่งระบบจะมีเซนเซอร์จับสัญญาณเสียงสั่นสะเทือน เพื่อป้องกันการทุบกระจกรถ การเปิดประตูโดยไม่ใช้รีโมต การถอดขั้วแบตเตอร์รี่ ระบบจะส่งสัญญาณเสียงทันที ด้วยตัวกำเนิดสัญญาณเสียงแบบมีแบตเตอร์รี่ในตัว หรือบางรุ่นใช้ต่อพ่วงกับแตรรถยนต์ให้เกิดเสียงดัง ซึ่งต้องใช้รีโมตเป็นตัวหยุดการทำงานเท่านั้น
4. แบบอื่นๆ
เทคโนโลยี การป้องกันรถยนต์รุ่นใหม่ๆ เช่นระบบติดตามรถยนต์ที่ถูกโจรกรรม ด้วยเรดาร์นำทาง GPRS ที่จะมีตัวส่งสัญญาณให้ทราบได้เลยว่า ขณะนี้รถที่ถูกขโมยวิ่งอยู่ที่ไหน ระบบจะประสานงานกับ GPRS ของตำรวจเพื่อติดตาม หรือจะเป็นระบบที่ปล่อยควันหมอกออกมา ให้โจรตกใจและรีบหลบหนีไป และระบบที่เมื่อรถถูกขโมย ระบบจะส่งสัญญาณมายังโทรศัพท์มือถือของเจ้าของรถ ว่ารถกำลังถูกขโมย เพื่อให้เจ้าของรีบโทรแจ้งตำรวจมาสกัดจับได้ต่อไป
รถหายให้ รีบแจ้งรายละเอียด แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ที่เกิดเหตุ ทราบโดยเร็ว หรือโทรหมายเลขพิเศษ “1192” (ศปร.ตร.) ตลอด24ชั่วโมง เพื่อความรวดเร็ว ในการติดตามสกัดจับคนร้าย และเพื่อความรวดเร็วในการกระจายข่าวสาร, ข้อมูลของรถที่ถูกโจรกรรม ไปยังหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง คือ ตำรวจทางหลวง, ตำรวจตระเวนชายแดน, ตำรวจภูธรภาค 1-9, กองบัญชาการตำรวจนครบาล, สถานีตำรวจภูธรตามแนวชายแดน, กองกำลังบูรพา, กองกำลังป้องกันชายแดน จันทบุรีและตราด
ก่อนโจรกรรม ฝ่ายโจรกรรมรถ หรือ แก๊งค์ หรือ คนร้ายลักรถจะต้องทราบ ความต้องการ ของฝ่ายผู้สั่งซื้อ หรือนายหน้าส่งออก ว่าต้องการรถอะไร ยี่ห้อ รุ่น ขนาด สี หรือที่เรียกกันว่า “ใบสั่ง” ฝ่ายโจรกรรมรถ ก็จะออกตระเวน ไปในที่ต่าง ๆ เพื่อหารถตาม ใบสั่ง ส่วนมาก จะหาในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล เพราะมีรถตามที่ต้องการมาก วิธีการโจรกรรม มีอยู่หลายวิธี ทั้งวิธีการเก่าๆ และที่ได้พัฒนาขึ้นมาใหม่ ผสมผสานกัน หรืออาจกล่าวอีกนัยหนึ่งว่า คนร้ายได้ศึกษาวิธีการ และกลไกการป้องกัน การโจรกรรมรถ ของเจ้าของ และฝ่ายเจ้าหน้าที่ทุกวิถีทาง วิธีการโจรกรรมรถของคนร้าย พอประมวลได้ดังนี้
งัดหูช้าง |
คนร้ายจะใช้เครื่องมืองัดหู ช้างออก แล้วเอามือล้วงเข้าไปเปิดสลักหรือค้นล็อกประตู เปิดประตูรถเข้าไป แล้วใช้ไขควงงัดกระปุกกุญแจสตาร์ทออก ต่อไฟตรง เพื่อติดเครื่องยนต์แล้วขับหลบหนีไป |
ใช้กุญแจปลอม |
คนร้ายจะทำกุญแจเลียนแบบ กุญแจของรถชนิดที่ต้องการลัก ไว้หลาย ๆ ขนาด (รอยหยัก) แล้วเลือกลองใช้ทุกดอกที่ทำไว้ ถ้าเปิดประตูรถได้ คนร้ายก็จะเปิดประตูแล้วติดเครื่องยนต์ขับหลบหนีไป |
ลอกแบบกุญแจ |
คนร้ายจะใช้วิธีสร้างความ สนิทชิดชอบกับเด็กบริการล้างอัดฉีดรถ ตามสถานบริการจำหน่ายน้ำมัน แล้วว่าจ้างให้เอาดินน้ำมัน พิมพ์แบบกุญแจรถของจริง ตามที่มีผู้สั่งซื้อไว้ โดยมีค่าจ้างในการจัดทำ คันละ 200 – 250 บาท โดยเด็กบริการล้างอัดฉีด จะเก็บแบบพิมพ์กุญแจดินน้ำมัน พร้อมจดหมายเลขทะเบียน รถคันนั้น ไว้ให้ด้วย ต่อจากนั้น คนร้ายจะไปว่าจ้าง ร้านทำกุญแจทั่วไป ทำกุญแจปลอมตามแบบพิมพ ์ในราคาดอกละ 10 – 20 บาท เมื่อได้กุญแจแล้ว ก็จะออกตระเวน ติดตามรถคันดังกล่าว เพื่อโจรกรรม |
สร้างกุญแจ |
คนร้ายจะทำกุญแจในแบบและรูป ทรงต่าง ๆ โดยไม่มีรอยหยัก ของรถตามชนิดที่ต้องการ (ระบุไว้ในใบสั่งซื้อ) แล้วเอาน้ำหมึกอินเดียอิ้งค์สีดำ ทาไว้ปล่อยให้แห้งสนิท เมื่อพบรถที่ต้องการ คนร้ายจะเอากุญแจแบบรูปทรงที่ทำไว้ สอดเข้าไปในรูกุญแจประตูรถ แล้วบิดหมุน เพื่อให้เกิดร่องรอย ที่น้ำหมึกอินเดียอิ้งค์ ดึงเอากุญแจออก นำไปเซาะร่อง ตามรอยที่ปรากฏอยู่ เมื่อวัดทำกุญแจเรียบร้อยแล้ว คนร้ายก็จะออกติดตามรถคันนั้น เมื่อสบโอกาสจะทำการโจรกรรมทันที |
ใช้ลวดเกี่ยวปุ่มล็อกประตูรถ |
รถบางชนิดไม่มีหูช้าง คนร้าย จะใช้วิธีดึงกระจกที่บานประต ูให้เผยอเพียงเล็กน้อย และถ้าเจ้าของปิดกระจกไม่สนิท ก็ยิ่งเป็นโอกาส ให้เกิดความสะดวก แก่คนร้ายมากขึ้น ต่อจากนั้น คนร้ายจะใช้ลวด ทำเป็นห่วงที่ปลาย สอดเข้าไป ดึงปุ่มล็อกประตูออก เปิดประตูเข้าไปในรถ ต่อไฟฟ้าสายตรง สตาร์ทเครื่องยนต์แล้วขับ หลบหนีไป |
ใช้ไขควงฉาก |
คนร้าย จะทำไขควงชนิดหน้าแบน ขนาดยาวประมาณ 1 ฟุต (รวมความยาวของด้าม) ที่ตอนปลายไขควง ตรงความยาวประมาณ 1 ใน 3 ของความยาวไขควง ดัดงอเป็นมุมฉาก ใช้ปลายไขควง สอดเข้าไปในรูกุญแจประตูรถ งัดอย่างแรง กระปุกกุญแจประตู จะแตกและหลุดออกมา สามารถเปิดประตูรถ เข้าไปต่อไฟฟ้าสายตรง เพื่อติดเครื่องยนต์ แล้วขับหลบหนีไป |
งัดฝาถังน้ำมัน |
มีรถหลายชนิดฝาถังน้ำมันอยู่ ภายนอก และกุญแจเปิดฝาถัง น้ำมัน กุญแจเปิดประตูรถ และกุญแจติดเครื่องยนต์ ใช้ดอกเดียวกัน คนร้ายจะใช้กุญแจเลื่อนขนาดใหญ่ งัดเอาฝาน้ำมัน ไปทำกุญแจ โดยอาศัยร่องรอย จากรูกุญแจของฝาถังน้ำมัน เมี่อทำเสร็จแล้ว จะได้ทั้งกุญแจไปไขประตูรถ และติดเครื่องยนต์ |
ใช้น้ำกรด |
คนร้ายจะใช้น้ำกรดใส่ขวด และมีลูกยางหรือเข็มฉีดยาพร้อมหลอด ดูดน้ำกรดจากขวดน้ำ ไปหยอดหรือฉีด เข้าไปในรูกุญแจประตูรถ น้ำกรดจะเข้าไปทำลายช่อง กุญแจ ทำให้สามารถเปิดประตูเข้าไปในรถได้ แล้วใช้วิธีต่อไฟฟ้าสายตรง เพื่อติดเครื่องยนต์ ขับหลบหนีไป |
เปิดกระจกหลังรถ |
คนร้าย จะใช้ไขควง งัดยางขอบกระจกหลังรถออก แล้วเปิดกระจกออกด้วยแรงดึง ซึ่งกระทำด้วยความชำนาญ คนร้ายหรือลูกมือที่ใช้วิธีการนี้ จะเคยเป็นช่างถอด หรือใส่กระจกมาก่อน เมื่อถอดกระจกออกได้แล้ว จะมุดตัวเข้าไปในรถ แล้วใช้วิธีต่อไฟฟ้าสายตรง เพื่อติดเครื่องยนต์ แล้วขับรถหลบหนีไป |
ใช้เหล็กเขี่ยสลักล็อกประตู |
คนร้าย จะทำเหล็กเป็นลักษณะแบนหรือกลม หรือใช้ไขควงตัวเล็ก ๆ แหย่เข้าไปในรู ใต้หูจับเปิดรถ แล้วเขี่ยสลักล็อกประตูรถ เปิดประตูเข้าไปในรถ ใช้วิธีต่อไฟฟ้าสายตรง เพื่อติดเครื่องยนต์ ขับหลบหนีไป |
ซื้อรถใหม่ |
หากท่านมีรถใหม่ ควรติดตั้งอุปกรณ์ กันโขมยเพิ่มเติม เช่น เปลี่ยนกุญแจใหม่ ติดตั้ง ชุดล็อคเกียร์ ล็อคครัช ล็อคพวงมาลัย และสัญญาณกันโขมย คนร้ายชอบโขมยรถใหม่ๆ เนื่องจาก ขายต่อได้ง่าย มีราคาสูง โดนเฉพาะ บรรดารถ ยอดนิยมต่างๆ อาทิ รถปิคอัพ รถขับเคลื่อน 4 ล้อ และรถเก๋งรุ่นใหม่ๆ เมื่อเจ้าของรถได้รถมาใหม่ มักยัง ไม่ติดตั้งอุปกรณ์กันโขมย เมื่อจอดไว้ใน ที่ไม่ปลอดภัย คนร้ายฉวยโอกาส โจรกรรมรถ ไปได้โดยง่ายๆ |
ซื้อรถมือสอง |
เมื่อท่านจะ ตกลงซื้อรถเก่า จากเจ้าของ หรือจากผู้ขาย ตามเต็นท์ขายรถ ต้องขอ หมายเลขเครื่อง หมายเลขตัวถัง และสำเนาทะเบียนรถ มาตรวจสอบ กับทะเบียนรถ ในท้องถิ่นที่ รถนั้นจดทะเบียน ไว้เสียก่อน เพราะอาจเป็นรถ ที่ไม่ถูกต้อง หรือโขมย มาสวมทะเบียน เมื่อซื้อรถมาแล้ว ควรต้องเปลี่ยนกูญแจ และติดตั้งอุปกรณ์ กันโขมยเช่นเดียวกับ รถใหม่ พึงระมัดระวัง ระลึกอยู่เสมอว่า คนร้ายจ้องรอโอกาส โขมยรถของ ท่านอยู่ |
จอดรถต้องระวัง |
การจอดรถไม่ว่าจะจอดในที่ ส่วนบุคคล ที่สาธารณะ แม้จอดทิ้งไว้ ระยะสั้นหรือ นานเพียงใด เพื่อไปทำธุระ หรือทำงาน ก็ตาม ไม่ควร จอดไว้ห่างไกล ควรมีคนเฝ้า ดูแลหรือยาม รปภ. ก่อนทิ้งรถ ควรไปตรวจสอบ การล็อคกุญแจประตู และใช้ อุปกรณ์ กันโขมย ให้ครบถ้วน อย่าทิ้งทรัพย์สิน สิ่งของมีค่า ไว้ในรถ ล่อตาคนร้าย บางครั้งรถ ไม่หายแต่ ของหาย |
จอดรถในบ้าน-นอกบ้าน |
จอดรถในบ้านต้องเอาท้ายรถออกนอกบ้าน ล็อครถและใฃ้อุปกรณ์กันโขมย- ติดตั้งโคมไฟให้ส่องสว่างให้มองเห็นทั้งในและนอกรั้วบ้านหากจำเป็นต้องจอดรถ นอกบ้าน ควรจอดชิดขอบทางหน้าบ้าน ให้มองเห็นได้ ล็อคกุญแจและอุปกรณ์กันโขมย- ควรร่วมมือกับเพื่อนบ้านใกล้เคียงช่วยกันจ้างยามรักษาความปลอดถัย คอยดูแล และให้ทุกคนในบ้านช่วยกันดูแล ซึ่งกันและกันด้วย หากมีความจำเป็นต้องจอดรถยนต์ไว้บนถนนหน้าบ้าน ควรมียาม รักษาความ ปลอดภัย เผ้าดูแลรถ ตลอดเวลา โดยประสาน ความร่วมมือ กับเพื่อนบ้าน ใกล้เคียง ที่ใช้รถ และจอดรถไว้ ในลักษณะเดียวกัน เพื่อช่วยเหลือกัน ในเรื่องค่าจ้าง ของยามรักษา ความปลอดภัยข้อควรระวังในการจอด– อย่าจอดรถทิ้งไว้ค้างคืนบนถนน ไม่ว่าจะมีเครื่องป้องกันการโจรกรรมรถชนิดใดก็ตาม- อย่าทิ้งกุญแจรถไว้ที่รถ เมื่อจอดรถลงไปทำธุระไม่ว่ากรณีใดก็ตาม |
ระวังการนำรถไปซ่อม-รับบริการ |
– แก็งค์คนร้ายอาจจะเป็นช่างซ่อมรถหรือผู้ให้บริการตามอู่ซ่อมรถ หรือสถานบริการบำรุงรักษารถ มีความชำนาญระบบกลไก ของรถ อาจลักลอบทำกุญแจผี หรือทำลายระบบกันโขมย แล้วติดตามไปโจรกรรมรถของท่านในภายหลัง จึงควรระมัดระวัง- ควรอยู่ดูแลการซ่อมหรือการบริการอื่นๆ อย่างใกล้ชิด- หากจำเป็นต้องทิ้งรถไว้ให้ซ่อม หรือบำรุงรักษา จะต้องเป็น ผู้คุ้นเคยหรือ ไว้ใจได้เท่านั้น |
กุญแจรถ เรื่องสำคัญ |
มีรถบางชนิด ใช้กุญแจ รถดอกเดียวกัน สำหรับเปิด ประตู ติดเครื่องยนต์ เปิดลิ้นชัก และฝาน้ำมัน ดังนั้นเมื่อ ฝาน้ำมันหาย อาจเป็นไป ได้ว่าคนร้าย ได้นำไปเพื่อ ทำแบบ สร้างกุญแจปลอม สำหรับ นำมาใช้ใน การโจรกรรม ฉะนั้น หากฝาถังน้ำมันหาย ควรรีบเปลี่ยนกุญแจ ที่ใช้กับรถ เสียใหม่ โดยใช้ กุญแจที่ใช้ เฉพาะแห่งเท่านั้น และเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ |
ระวัง การใช้อุปกรณ์กันขโมย |
เมื่อติดตั้งอุปกรณ์ กันโขมยแล้ว การใช้อุปกรณ์ ต้องเก็บเป็นความลับเฉพาะผู้ที่ไว้ใจได้ เพราะอุปกรณ์บางอย่างใช้รหัสเฉพาะหรือ สัญญาณรีโมท การไปจอกรถในที่ต่างๆ จึงควรระวังคนร้าย อาจคอยสังเกตวิธีการใช้อุปกรณ์กันโขมยของท่านและติดตามไปหาโอกาสโจรกรรมรถ ของท่านในภายหลัง |
รถคุณถูกติดตามจะทำอย่างไร |
กรณีสังเกตรู้ว่า มีผู้ขับรถ ติดตาม รถท่านให้สันนิษฐานว่า เป็นคนร้าย ไว้ก่อน เพราะอาจ ตามไป ฉวยโอกาส โขมยรถ เมื่อท่านจอดรถ ทิ้งไว้ ในที่ไม่ปลอดภัยหรือ อาจประทุษ ร้ายต่อ ชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของท่าน ดังนั้น เมื่อรู้ว่า ถูกติดตาม จึงควรป้องกัน โดยพยายาม ขับรถ เข้าไปใน เขตชุมชน ขอความ ช่วยเหลือ และแจ้งเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ที่ใกล้ที่สุด โดยด่วน |
จดจำตำหนิรูปพรรณ |
ท่านควรจดจำข้อมูล รายละเอียด เกี่ยวกับรถของท่าน ไว้ให้มากที่สุด โดยเฉพาะ ตำหนิ รูปพรรณ พิเศษอื่นๆ โดยถ่าย เอกสารทะเบียนรถเก็บไว้ รวมทั้งถ่ายรูปรถ องท่าน ให้ปรากฏรอยตำหนิพิเศษ เก็บรักษาไว้เป็นหลักฐาน กรณีรถหายจะได้นำมาแจ้งให้ตำรวจตรวจสอบ สกัดจับได้อย่างรวดเร็ ทันการณ์ หากรถของท่านยังไม่มีตำหนิควรทำขึ้นไว้ในจุดที่ผู้อื่นไม่สามารถสังเกตเห็น และจดจำไว้ให้แม่นยำ |
รถจักรยานยนต์ต้องล็อคล้อล่ามโซ่ |
เนื่องจากมีสถิติ รถจักรยานยนต์ หายมากที่สุด เพราะคนร้าย โขมยไปได้ง่าย หรือยกขึ้น รถอื่น ได้สะดวก การจอด รถจักรยานยนต์ นอกจากจะ ล็อคกุญแจคอ กุญแจล้อแล้ว ควรล่ามโซ่ ไว้ให้แข็งแรงด้วย และอย่า จอดทิ้งไว้ ในที่เปลี่ยว หรือที่ลับตา |
ใช้กุญแจพิเศษ |
คนร้ายจะใช้เหล็กที่แข็งเป็น พิเศษ ทำเป็นหยักหรือร่องถี่ๆ มีขนาดความหนาเท่ากับกุญแจรถทั่ว ๆ ไป กุญแจพิเศษนี้มีความแข็งมากเป็นพิเศษ เมื่อใส่เข้าไปในรูกุญแจประตูรถแล้วบิดด้วยความแรง ความแข็งของกุญแจพิเศษจะงัดร่อง ในกุญแจประตูรถให้หักหรือไม่อยู่ในสภาพเดิม สามารถเปิดประตูเข้าไปในรถได้ ต่อไฟฟ้า สายตรงเพื่อติดเครื่องยนต์แล้วขับหลบหนีไป |
ใช้คีมบิดยวงกุญแจ |
คนร้ายจะใช้คีมที่มีความ เหมาะสม ในการคีบยวงกุญแจ ประตู อาศัยแรงบีบที่แน่น และมั่นคง บิดด้วยความแรงดึงเอายวงกุญแจประตูรถออกไป แล้วนำไปจ้าง ช่างทำกุญแจปลอม เพื่อโจรกรรมรถคันนี้ต่อไป |
ใช้กลอุบายรับจ้างขับรถ |
คนร้ายจะใช้วิธีการง่าย ๆ โดยไปรับจ้างเป็น คนขับรถตามสำนักงานจัดหางาน เมื่อได้รถแล้วก็จะขับรถให้นายจ้างประมาณ 6 – 7 วัน ได้โอกาสก็จะขับรถหลบหนีไป |
จี้หรือชิงรถซึ่งหน้า |
คนร้ายประเภทนี้ จะใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ปฏิบัติการครั้งละ 2 คน (ขับขี่ 1 คน และซ้อนท้าย 1 คน) ติดตามสะกดรอยรถ ตามใบสั่ง เมื่อเจ้าของรถหรือเหยื่อขับรถคนเดียว ไปจอด หรือผ่านไปในเส้นทางที่เปลี่ยว หรือลับตาคน คนร้ายก็จะใช้วิธีขับรถจักรยานยนต์ ไปเฉี่ยวรถของเหยื่อ เมื่อเหยื่อ ซึ่งเป็นเจ้าของรถหยุด รถลงตรวจสอบความเสียหาย คนร้าย จะใช้อาวุธปืนหรือมีดปลายแหลม จี้ให้ลงจากรถ และส่งกุญแจรถให้ คนร้ายก็จะขับขี่รถเอาไปซึ่งหน้า ทิ้งผู้เสียหาย (เจ้าของรถ) ไว้ในที่ เกิดเหตุ |
มอมยาคนขับรถยนต์รับจ้าง |
คนร้าย จะแบ่งการทำงานออกเป็น 2 ขั้นตอน ขั้นแรก คนร้ายซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง จำนวน 4 – 5 คน จะไปว่าจ้างรถยนต์ (ตามใบสั่ง ที่ต้องการ) เพื่อไปเที่ยวน้ำตก หรือสถานท่องเที่ยว ในต่างอำเภอหรือจังหวัด เสร็จงาน ก็จะจ่ายเงินให้คนขับตามปกติ ขั้นที่สอง เป็นห้วงระยะเวลา 4 – 5 วัน จากขั้นแรก คนร้ายชุดเดิม จะว่าจ้างรถไปเที่ยวเหมือนเดิม แต่จะนัดหมายกับคนร้ายพวกเดียวกัน 1 – 2 คน ไปรอ ณ. จุดที่กำหนดเพื่อรอรับรถ ใกล้บริเวณจุดที่กำหนด คนร้ายที่เป็นผู้หญิง จะพยายามหาโอกาส ในช่วงที่คนขับรถ รับประทานอาหารร่วมกัน ใส่ยานอนหลับ หรือยาชนิดอื่นที่ทำให้มึนเมาหมดสต ิลงไปในเครื่องดื่ม หรืออาหาร เพื่อมอม คนขับรถให้หมดสติ ต่อจากนั้น ก็จะส่งคนขับรถไปนอนที่โรงแรม ซึ่งได้จองไว้ล่วงหน้า แล้วนำกุญแจรถให้กับคนร้าย ซึ่งรออยู่แล้วขับรถหลบหนีไป วิธีการนี้ค่อนข้างจะ เป็นวิธีใหม่ในการโจรกรรมรถ |
รถยนต์ที่มีล็อกพวงมาลัยอัตโนมัติ |
คนร้ายจะใช้เท้าถีบและใช้มือดึงพวงมาลัย ให้สลักล็อกพวงมาลัยหักหรือหลุด |
รถยนต์ที่ใช้โซ่ล่ามพวงมาลัยกับคันเบรค |
คนร้ายจะใช้กรรไกรตัดเหล็กขนาด ใหญ่และคมตัดโซ่หรือทำลายกุญแจโดยการใช้น้ำกรดหยอดลงในรูกุญแจ แล้วใช้เหล็กงัดทำลายกุญแจ |
รถยนต์ที่มีอุปกรณ์ล็อกคลัชและเบรค |
คนร้ายจะใช้วิธีทำลายกุญแจ แบบใช้ น้ำกรดหยอด หรือเหล็กงัด หรือใช้วิธีตัดแผ่นรองเท้าที่คันคลัชและเบรคออก |
รถยนต์ที่ติดตั้งสัญญาณส่งเสียง |
คนร้ายจะศึกษาล่วงหน้าว่า เจ้าของรถทำไว้ อย่างไร เช่น ติดตั้งสัญญาณไว้ที่ประตู ถ้าเปิดประตูสัญญาณจะดัง คนร้ายก็จะใช้วิธี ทุบกระจกประตู หรือถอดกระจกหลังรถเพื่อเข้าไปในรถโดยไม่ต้องเปิดประตู |
รถยนต์ตัดสวิทซ์หรือตัดวงจรไฟฟ้า |
คนร้ายก็จะใช้วิธีศึกษาการ ใช้ของเจ้าของ รถมาก่อนทำการโจรกรรม ถ้าไม่สามารถทำได้ คนร้ายจะมีลูกมือเป็นช่างไฟฟ้า ทำงานในอู่ซ่อมรถมาก่อนเป็นผู้ดำเนินการต่อวงจรใหม่ โดยไม่ต้องคำนึงถึงสวิทซ์ ติดวงจรลับที่ทำไว้ |
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ