เลือกใช้ประกันของตัวเอง หรือ ประกันของคู่กรณี
รถยนต์ถูกคู่กรณี ชนเสียหาย คู่กรณียอมรับผิด ยินดีชดใช้ค่าเสียหาย
คุณเป็นฝ่ายถูก ให้ประกันของตัวเองเป็นผู้ดูแลการเคลมครั้งนี้
โดยทั่วไปก็ทำกันอย่างนั้น เพราะ ประกันของตนเองมีข้อมูลรถยนต์ ที่เราได้ทำประกันไว้ และสิ่งที่เราคิดกัน คือ การเคลมโดยให้ประกันตัวเองเป็นผู้ดูแลน่าจะดีกว่า
ในบางครั้ง บริษัทประกันของคุณเอง จะจัดการให้รถยนต์ของคุณซ่อมในอู่เครือของบริษัทตนเอง พร้อมกับคุมราคา อย่างเข้มข้นเช่นกัน แม้จะไล่เบี้ยกับประกันคู่กรณีได้ก็ตาม เพราะการไล่เบี้ยประกัน กับประกันคู่กรณี มีกติกาข้อตกลงกันอยู่ ไม่ว่าจะเป็น ความสมเหตุสมผลของการอนุมัติเคลม ในแต่ละรายการ และ ต้องชี้แจงได้โดยละเอียดเพียงพอ ถึงที่มาที่ไปของ รายการและราคาที่อนุมัติไปว่าสมควรหรือไม่ ประเด็นนี้เอง ที่ทำให้บริษัทประกันภัยแม้จะเป็นบริษัทประกันที่เราทำอยู่ก็ตาม และ แม้เราจะเป็นฝ่ายถูกต้องก็ตาม ก็ยังคงต้องถูกประกันของตัวเองบีบราคา กับอู่ซ่อม ถ้าเป็นอู่ซ่อมในเครือคุณอาจจะไม่ทราบรายละเอียดมากนัก จนกว่าอู่จะบอกคุณ หรือ ขอดูจากรายการซ่อม และราคาที่เสนอไปตั้งแต่แรก
หากเป็นอู่นอกเครือ อู่จะบอกข้อมูลต่างๆ ให้คุณทราบตลอด (ก็คุณไปใช้บริการเขานี่นา) ราคาที่อู่เสนอนั้นจะถูกคุมราคาโดยประกันของคุณเอง และ อย่างเข้มข้นเช่นกัน
ทางทีมงาน insurancethai.net มีความเห็นต่อกรณีการคุมราคาที่เข้มข้นดังดล่าว ดังนี้
1. การเคลมไล่เบี้ยจากประกันคู่กรณีมีข้อตกลงกันอยู่แล้ว ในเรื่องราคา ความเหมาะสม ระเบียบที่ใช้ปฏิบัติต่อกัน
2. บางครั้งเราอาจคิดว่าประกันของเรา จะทะเลาะกับประกันคู่กรณี แทนเรา ข้อนี้เป็นไปได้ค่อนข้างยาก เพราะ การทะเลาะกับบุคคลนั้นง่ายกว่าทะเลาะหรือมีปัญหากับนิติบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อต่างก็เป็นบริษัทประกันด้วยกันแล้ว ก็เอาเเปรียบต่อกันได้ยาก และ ประกอบกับจะมีผลเสียกับบริษัทมากกว่าในภายหน้าเพราะเมื่อต้องมีการไล่เบี้ยกันจากบริษัทคู่กรณีบ้าง ซึ่งย่อมเกิดขึ้นตลอดเวลาตราบเท่าที่ดำเนินธุรกิจประกัน
3. การหวังว่าประกันของเราเองจะช่วยเหลือเรา รักษาสิทธิ์เราให้มากขึ้นกว่ามาตรฐานปกตินั้น แทบเป็นไปไม่ได้ ด้วยเหตุผลข้างต้น และ อีกเหตุผลคือ เจ้าหน้าที่ที่ทำเรื่องเคลม ไม่ได้รู้จักเราเป็นการส่วนตัว ทำงานตามนโยบายบริษัทฯ มีเหตุผลอะไรที่จะช่วยคุณแล้วทำให้ตัวเองต้องลำบาก ทำงานยากขึ้น
แม้จะเป็นดังนั้น แต่ก็ยังควรเคลมกับประกันของบริษัทที่เราทำไว้ เพราะ มีแนวโน้มที่จะดูแลดีกว่า เพราะ เวลาคุณถือใบเคลมเข้าไป แล้ว ในนั้น เขียนไว้ว่า เป็นรถประกัน หรือ รถคู่กรณี ซึ่งจะต่างกันในแง่การบริการ รถคู่กรณีอาจอนุมัติซ่อมช้าถึงช้ามาก บางทีจอดทิ้งไว้เป็นสัปดาห์ ต้องรอพนักงานเคลมมาถ่ายรูป มาคุมราคา กว่าจะซ่อมได้ แต่ถ้าเป็นประกันเราเอง อนุมัติซ่อมเร็ว