ประกันชีวิต กับ ประกันสุขภาพ ต่างกันอย่างไร?
ประกันชีวิต จ่ายชดเชย การเสียชีวิต
ประกันสุขภาพ จ่ายค่ารักษา ป่วยไข้ หรือ อุบัติเหตุ
ประกันชีวิต
คุ้มครองมูลค่าชีวิต เช่น
หากหัวหน้าครอบครัว ผู้ซึ่งหารายได้ หลักมาเลี้ยงดูครอบครัว หากจากไปย่อมสร้างปัญหาให้กับผู้อยู่ในอุปการะ อยู่ในความดูแล
ประกันชีวิต มีแผนประกันมากมาย เพื่อตอบสนองความต้องการ และยังสามารถซื้อประกันสุขภาพ ประกันอุบุัติเหตุ และ ความคุ้มครองอื่นๆ เพิ่มเข้าไปได้อีกด้วย
รูปแบบสัญญาและการชำระเบี้ย
ประกันชีวิตแทบทุกประเภทจะมีมูลค่าเงินสดซึ่งสะสมอยู่ในกรมธรรม์ (ยกเว้นแบบชั่วระยะเวลา)
กำหนดระยะเวลาชำระเบี้ยและระยะเวลาคุ้มครองที่ชัดเจน
ประกันชีวิตจะเป็นสัญญาระยะยาวที่มีกำหนดระยะเวลาชำระเบี้ยและความคุ้มครองแน่นอน ต่างจากประกันสุขภาพที่เป็นสัญญาปีต่อปี ไม่ได้มีกำหนดว่าต้องชำระเบี้ยกี่ปี
ยกเว้น เงื่อนไขของประกันสุขภาพที่ถูกออกแบบเป็น package ทำร่วมกับประกันชีวิตเป็นแบบสำเร็จรูป โดยกำหนดว่าต้องชำระเบี้ย “อย่างน้อย” กี่ปี
ประกันสุขภาพ ที่อยู่ในสัญญาประกันชีวิต เป็นการชำระเบี้ยประกันภัยแบบสูญเปล่า (ไม่มีมูลค่าเงินสดสะสมอยู่ในกรมธรรม์) หากปีไหน ไม่ได้เคลมประกันสุขภาพเบี้ยประกันที่จ่ายไปนั้นก็สูญหายไป ไม่ได้รับคืนใดๆ เหมือนกับ ประกันรถยนต์ นั่นเอง
ประกันสุขภาพเป็นสัญญาปีต่อปี อาจจะชำระเบี้ยประกันเป็นรายเดือน ราย3เดือน หรือ ราย6เดือน รายปี ก็ได้ แล้วแต่เงื่อนไข แบบประกัน นโยบายของแต่ละบริษัทประกันภัย
ประกันชีวิตที่มีประกันสุขภาพ มีที่มาจาก 2 รูปแบบ คือ
1.ซื้อประกันชีวิตก่อน แล้วค่อยซื้อประกันสุขภาพเพิ่มพ่วงเข้าไป
2.แบบสำเร็จรูป ซื้อแบบประกันชีวิต พร้อมความคุ้มครองสุขภาพแบบสำเร็จรูปที่บริษัทประกันกำหนดไว้
อย่างไรก็ตาม ประกันสุขภาพที่ไม่ต้องซื้อพร้อมกับประกันชีวิต มีขายใน บริษัทประกันวินาศภัย
สังเกต บริษัทประกันวินาศภัย ชื่อบริษัทจะลงท้ายด้วย “ภัย” เช่น กรุงเทพประกันภัย
การนำเบี้ยประกันไปลดหย่อนภาษี
1.เบี้ยประกันชีวิตสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ ในกรณีที่แผนประกันชีวิตนั้นมีระยะเวลาตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป
2.รวมกันสูงสุดไม่เกิน 300,000 โดย 200,000 หลัง ต้องเป็นแบบบำนาญ
เบี้ยประกันสุขภาพที่จ่ายตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560
เป็นประกันชีวิตแบบคุ้มครองสุขภาพ ที่อยู่ในเกณฑ์ที่สรรพากรกำหนด ได้แก่
- ประกันสุขภาพ ที่คุ้มครองเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล เมื่อเจ็บป่วย ทุพพลภาพ
- ประกันภัยอุบัติเหตุ ที่ให้ความคุ้มครองการรักษาพยาบาล ทุพพลภาพและสูญเสียอวัยวะ
- การประกันภัยโรคร้ายแรง เช่น ประกันมะเร็ง ให้ความคุ้มครองด้านการรักษาพยาบาลเมื่อตรวจพบเจอมะเร็ง
- ประกันภัยที่ดูแลระยะยาว ที่ให้ความคุ้มครอง กรณีที่ผู้ทำประกันภัย ไม่สามารถทำภารกิจที่จำเป็นต่อการดำเนิน ชีวิตได้ อย่างน้อย 3 ใน 6 อย่าง อันประกอบด้วย
-การเปลี่ยนระหว่างนอน และนั่ง
-การเดิน
-การแต่งกาย
-การอาบน้ำ
-การทานอาหารติดต่อกันไม่น้อยกว่า180 วัน
-หรือมีคำวินิฉัยรับรองจากแพทย์ชัดเจน
โดยประกันจะจ่ายเป็นค่าชดเชยทดแทนแบบรายเดินหรือตามทุนประกันภัยที่ซื้อไว้ และจ่ายต่อเนื่องสูงสุด 24 – 36 เดือน
โดยรับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 15,000 บาท และเมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิตทั่วไป / เงินฝากแบบมีประกันชีวิต ต้องไม่เกิน 100,000 บาท