ค่าเสียหายส่วนแรก 1,000 บาท/จุด หรือ เหตุการณ์
เบี้ยรับประกันภัยรถยนต์ของไทย เมื่อเทียบกับ อัตราการเคลม และ ค่าใช้จ่ายในบริษัทที่เกิดขึ้น ติดลบ หรือ ก็คือขาดทุนจากการรับประกันภัยรถยนต์ ซึ่งหากบริหารจัดการไม่ดี บริษัทประกันภัยอาจปิดตัวลง
คปภ.จึงต้องออกข้อกำหนดเงื่อนไขการประกันภัยภัยเพื่อควบคุมอัตราการชดใช้สินไหม เพื่อให้บริษัทประกันภัย สามารถดำรงอยู่ได้ และยังคำนึงถึงความเป็นธรรมต่อผู้เอาประกันเป็นสำคัญอีกด้วย จึงกำหนดเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์กำหนดไว้ว่า ผู้เอาประกันต้องรับค่าเสียหายส่วนแรกจากเหตุการณ์หรืออุบัติเหตุที่เกิดขึ้น แม้ในหน้าตารางจะไม่ได้ระบุถึงค่าเสียหายส่วนแรก
สำนักงาน คปภ.มีคำสั่งนายทะเบียนปรับปรุงเงื่อนไขความคุ้มครองความเสียหายของตัวรถยนต์ที่ทำประกันภัย ให้ผู้เอาประกันภัยรับผิดชอบค่าเสียหายส่วนแรก(Deductible) ลดลงจากเดิมที่กำหนดไว้ 2,000 บาท เป็น 1,000 บาทของการเกิดอุบัติเหตุแต่ละครั้ง เมื่อรถยนต์ที่ทำประกันภัยได้รับความเสียหายที่ไม่ได้เกิดจากการชนหรือคว่ำ และ ในกรณีเกิดความเสียหายจากการชนแต่ไม่สามารถระบุคู่กรณีให้บริษัททราบได้
โดยให้เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2552 เป็นต้นไป
รถยนต์ที่ทำประกันภัยเมื่อเกิดอุบัติเหตุชนกับรถคันอื่นได้รับความเสียหาย โดยผู้เอาประกันภัยไม่ทราบคู่กรณีหรือไม่สามารถแจ้งรายละเอียดของรถคู่กรณีได้ ผู้เอาประกันภัยต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าซ่อมรถเองจำนวน 1,000 บาท และ กรณีรอยขีดข่วนต่างๆ ที่ไม่ได้เกิดความเสียหายจากการชนหรือคว่ำ ก็มีการเพิ่มเงื่อนไขให้ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบค่าเสียหายส่วนแรกเอง 1,000 บาทด้วยเช่นกัน
สำหรับความเสียหายจากการชนเสา รั้วบ้าน สัตว์เลี้ยง ต้นไม้ ที่สามารถระบุได้ชัดเจน ผู้เอาประกันภัยไม่ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายส่วนแรกเองแต่อย่างใด
เพราะมีคู่กรณี ซึ่งก็คือ รั้วบ้าน สัตว์เลี้ยง ต้นไม้ ฯลฯ นั่นเอง (คู่กรณีไม่ได้หมายถึง คู่กรณีที่เป็นคนขับคู่กรณี เพียงอย่างเดียว)
จำนวนเงินค่าเสียหายส่วนแรกที่ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบเอง เงื่อนไขกรมธรรม์ฯกำหนดไว้อย่างชัดเจนให้ผู้เอาประกันภัยรับผิดชอบต่อ อุบัติเหตุที่ เกิดขึ้นแต่ละครั้ง ดังนั้น หากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นครั้งเดียวแต่มีอุปกรณ์หลายชิ้นได้รับความเสียหาย ผู้เอาประกันภัยก็รับผิดชอบค่าซ่อมเพียง 1,000 บาทเท่านั้น และเพื่อให้เกิดความชัดเจนในทางปฏิบัติ และสามารถลดข้อพิพาทที่จะเกิดขึ้น สำนักงาน คปภ.ได้เร่งรัดให้มีการออกคู่มือตีความกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์
ประกาศคำสั่ง คปภ.ที่ 22/2551
เรื่อง การปรับปรุงเงื่อนไขกรมธรรม์รถยนต์ที่เริ่มมีผลคุ้มครองตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2552หมวดการคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์
ข้อ 4. ความเสียหายส่วนแรก ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบเองต่ออุบัติเหตุแต่ละครั้งดังนี้
(ก) 1,000 บาทแรกของความเสียหายอันมิได้เกิดจากการชนหรือคว่ำ หรือกรณีที่เกิดจากการชนแต่ผู้เอาประกันภัยไม่สามารถแจ้งให้บริษัททราบถึง คู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งได้
(ข) ……………….
ในกรณีที่ผู้เอา ประกันภัยต้องรับผิดชอบตามข้อต่างๆดังกล่าวเกินกว่าหนึ่งข้อ ให้ถือว่าความรับผิดชอบแต่ละข้อเป็นความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้น.
การชน หมายถึง การที่รถยนต์ได้ปะทะ กระแทก โดนกันโดยแรง กับวัสดุอื่น ถึงขนาด บุบยุบ ยับย่น แยก แตกหัก ซึ่งจะมีร่องรอยความเสียหายอย่างชัดเจน.
การคว่ำ หมายถึง การที่รถยนต์ได้แฉลบเสียการทรงตัวถึงขนาดพลิกตะแคงหรือพลิกคว่ำกระแทกกับพื้นดิน.
ทั้งนี้การชนหรือคว่ำนั้นจะต้องมีความเสียหายที่ชัดเจนและสอดคล้องกับการแจ้งลักษณะการเกิดเหตุดังกล่าว
ไม่เสีย ค่าเสียหายส่วนแรก
รถชนกับพาหนะอื่นและแจ้งรายละเอียดคู่กรณีได้
รถชนเสา/ชนประตู
รถชนต้นไม้ยืนต้น /ชนเสาไฟฟ้า
รถชนกำแพง ชนฟุตบาธ รถชนราวสะพาน
ชนคน ชนสุนัข/ชนสัตว์
รถพลิกคว่ำ
รถชนกองดิน หรือชนหน้าผา
รถชนป้ายจราจร
รถชนทรัพย์สินอื่นใดที่ยึดแน่นตรึงตรากับพื้นดิน
เสีย ค่าความเสียหายส่วนแรก
รถถูกขีดข่วน/กลั่นแกล้ง
หินหรือวัสดุใดกระเด็นใส่
เฉี่ยวกิ่งไม้/สายไฟ/ลวดหนาม
รถตกหลุม / ครูดพื้นถนน
เหยียบตะปู / วัสดุมีคม /ยางฉีก
รถถูกละอองสี / หรือวัสดุใดหล่นมาโดนกระจก
รถแตกไถลตกข้างทางไม่พลิกคว่ำ
ถูกวัสดุในตัวรถกระแทกหรือกรีดโดน
ภัยธรรมชาติ / น้ำท่วม
รถถูกสัตว์กัดแทะหรือขีดข่วน
รถชนกับพาหนะอื่น แล้วคู่กรณีหลบหนี แจ้งรายละเอียดคู่กรณีไม่ได้
กรณีอื่นๆ แจ้งเหตุไม่ชัดเจน
ตามแนวทางปฎิบัตินี้ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง ถ้ามีความชัดเจนจากคู่มือตีความของ คปภ.
อย่างไรก็ตาม แต่ละบริษํทอาจมีความยืดหยุ่น ไม่เรียกเก็บค่าเสียหายส่วนแรกได้ด้วย ขึ้นอยุ่กับดุลพินิจของพนักงานบริษัทประกัน และที่สำคัญ ตัวแทน/นายหน้า ที่คอยช่วยเหลือ
ประกันรถยนต์ชั้น1 เป็นประกันภัยแบบ All risk คือ คุ้มครองทุกภัย เว้นแต่จะมีการยกเว้นเอาไว้ในกรมธรรม์ชัดเจน เช่น การก่อการร้าย แต่ก็มีบางบริษัทประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองภัยก่อการร้ายด้วย เช่น กรุงเทพประกันภัย อย่างไรก็ตามแม้ประกันแบบ All risk จะคุ้มครองภัยทุกอย่าง แต่ก็มีข้อยกเว้นที่เป็นมาตรฐาน เช่น ไม่คุ้มครองกรณีผู้เอาประกันประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง