INSURANCETHAI.NET
Mon 18/11/2024 2:24:44
Home » ประกันรถยนต์ » ค่าเสียหายส่วนแรก (Excess)\"you

ค่าเสียหายส่วนแรก (Excess)

2012/08/08 1900👁️‍🗨️

ความรับผิดชอบค่าเสียหายส่วนแรก (หมวดการคุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์) คืออะไร

สำนักงานคณะกรรมการ การกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้มีการปรับปรุงเงื่อนไข ความคุ้มครองของการประกันภัยรถยนต์
ทั้ง ประกันภัยตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 และประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจทุกประเภท

โดยนำหลัก Cash before cover คือ กรมธรรม์ประกันภัยจะเริ่มมีผลคุ้มครองก็ต่อเมื่อผู้เอาประกันภัยได้ชำระ ดอกเบี้ยประกันภัยเรียบร้อยแล้ว และการเพิ่มเงื่อนไข ความคุ้มครอง ที่เอาประโยชน์แก่ผู้ทำประกันภัย โดยลดความรับผิดชอบค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible or Excess) 1.000 บาท จากเดิมที่กำหนดไว้ 2,000 บาท ของการเกิดอุบัติเหตุแต่ละครั้ง ซึ่งมีเฉพาะการประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจประเภท 1 เท่านั้น

ความรับผิดชอบค่าเสียหายส่วนแรก เป็นการให้ผู้เอาประกันภัยร่วมรับผิดชอบ จ่ายค่าซ่อมรถยนต์เมื่อรถยนต์เกิด ความเสียหาย ในกรณีที่เกิดการชนขึ้นจริง แต่ไม่สามารถระบุคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่ง ให้บริษัทที่รับประกันภัยทราบได้ หรือกรณีที่ไม่ได้เกิดจากการชนหรือคว่ำ เช่น จอดรถไว้ข้างถนนแล้วมาพบภายหลังว่ารถถูกชน กันชนท้ายและตัวรถเกิดความเสียหาย คิดเป็นมูลค่า 10,000 บาท กรณีนี้ ผู้เอาประกันภัยจะต้องร่วมรับผิดชอบในการจ่ายค่าเสียหาย 1,000 บาท ส่วนอีก 9,000 บาท บริษัทประกันภัยจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าเสียหายดังกล่าว

กรณีที่ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบค่าเสียหายส่วนแรก คือ

– เกิดการชนกับรถ (ทุกประเภท) และไม่สามารถแจ้งรายละเอียดของรถคู่กรณีได้ เช่น ทะเบียนรถ
– เฉี่ยวกิ่งไม้ต้นไม้ กองวัสดุ หรือวัตถุใดๆ ที่ทำให้รถเป็นรอยครูด หรือขีดข่วน
– ไถลตกข้างทาง
– ถูกขีดข่วน หรือกลั่นแกล้ง
– โดนหิน หรือวัตถุอื่นๆ กระเด็นใส่ หรือตกใส่รถ ทำให้พื้นผิวสีของรถเสียหาย
– ถูกสัตว์กัดแทะเป็นรอยขีดข่วน
– ถูกละอองสีหรือปูน วัสดุอื่นๆ ตกใส่ โดยไม่ทราบผู้กระทำ
– ตกหลุมและครูดไปกับพื้นถนน ทำให้เกิดความเสียหายต่อตัวรถ
– ไม่สามารถแจ้งลักษณะการเกิดเหตุได้ชัดเจน
– ไม่สามารถแจ้งวัน เวลา และสถานที่ ที่รถได้รับความเสียหายได้อย่างชัดเจน
– ถูกทุบกระจกรถ โดยไม่สามารถแจ้งคู่กรณีหรือผู้ที่กระทำได้

ส่วนกรณีที่ผู้เอาประกันไม่ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายส่วนแรก คือ

– ชนคน สุนัข และสัตว์อื่นๆ
– ชนเสา ประตู รั้ว ต้นไม้ เสาไฟฟ้า กำแพง หรือวัตถุอื่นๆ จนทำให้ตัวรถและอุปกรณ์ต่างๆ บุบ แตก ร้าว อย่างชัดเจน
– ชนราวสะพาน ขอบทาง ทางเท้า หรือกองดิน ทำให้รถมีรอยบุบยุบ
– พลิกคว่ำ พลิกตะแคง ตกข้างทาง
– ถูกโจรกรรม ลักทรัพย์อุปกรณ์ภายในรถ
– ไฟไหม้ตัวรถและอุปกรณ์ภายในรถ
– กระจกรถแตก ร้าว โดยสามารถแจ้งสาเหตุของการแตกร้าวนั้นได้
– ภัยน้ำท่วม และลมพายุ

อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับรถที่ทำประกันภัยทุกครั้งควรแจ้งให้บริษัทประกัน ภัยทราบทันที ไม่ว่าจะเสียหายมากน้อยเพียงใดก็ตาม และต้องแจ้งวัน เวลา สถานที่ให้ชัดเจน รวมทั้งลักษณะความเสียหาย เพื่อเจ้าหน้าที่ของบริษัทประกันภัยจะได้ดำเนินการตรวจสอบความเสียหาย หรือมีข้อมูลได้อย่างครบถ้วน จากนั้นจึงสามารถนำรถยนต์เข้าศูนย์บริการซ่อมทันที

ความเสียหายส่วนแรก หรือที่หลายคนมักจะเรียกในหลายรูปแบบเช่น ค่า deduct, ค่า excess หมายถึงจำนวนเงินค่าความเสียหายในแต่ละครั้งที่ผู้เอาประกันภัยตกลงรับ ผิดชอบเองในกรณีที่เกิดความเสียหายขึ้นจากอุบัติเหตุจากรถ ค่าเสียหายส่วนแรกแบ่งได้ 2 ประเภท ดังนี้

1. ความเสียหายส่วนแรกโดยสมัครใจ สำหรับเจ้าของรถที่มีความเชื่อมั่นในตนเอง และมีความระมัดระวังในการขับรถอาจเลือกรับผิดชอบความเสียหายส่วนแรกเอง ซึ่งสามารถเลือกได้ 2 ประเภทความคุ้มครอง คือ คุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์ (รถเราเอง) และคุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สินบุคคลภายนอก (รถหรือทรัพย์ สินของบุคคลภายนอก) โดยบริษัทประกันภัยจะลดเบี้ยประกันภัยให้เป็นจำนวนเงินตามเงื่อนไขในสัญญา

ความเสียหายโดยสมัครใจนี้ เช่น ประกันภัยรถยนต์ 3 พลัส หรือประกันภัยรถยนต์ 2 พลัส ถือเป็นตัวอย่างของความเสียหายส่วนแรกโดยสมัครใจ เพราะกรมธรรมธ์ทั้ง 2 ประเภทนี้หากผู้เอาประกันเป็นฝ่ายผิดจะต้องรับผิดชอบเองส่วนหนึ่ง ปกติแล้วคือ 2,000 บาท

2. ความเสียหายส่วนแรกในกรณีผิดสัญญา เป็นความเสียหายที่ไม่ได้เป็นไปตามสัญญากรมธรรมธ์ กล่าวคือกรมธรรม์ระบุอีกแบบหนึ่ง แต่ในความเป็นจริงเป็นอีกแบบหนึ่ง กรณีเช่นนี้บริษัทประกันยังคงรับผิดในความเสียหาย แต่อาจจะเรียกเก็บเบี้ยเพิ่มกับผู้เอาประกัน เบี้ยเพิ่มส่วนนี้อาจเรียกได้ว่าค่าเสียหายส่วนแรก หรือค่าธรรมเนียมกรณีผิดเงื่อนไขการรับประกัน ซึ่งมีดังนี้

2.1 กรณีกรมธรรม์แบบระบุชื่อ โดยปกติเราสามารถระบุผู้ขับขี่ได้ 2 คนเผื่อทำให้เบี้ยถูกลง แต่ตอนเกิดอุบัติเหตุ ปรากฎว่ามีบุคคลอื่นขับขี่ ไม่ใช่ 2 คนที่ระบุไว้ในกรมธรรมธ์แถมเป็นฝ่ายผิดด้วย หากเกิดกรณีนี้ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายส่วนแรกต่อความเสียหายดังนี้
6,000 บาทแรก สำหรับความเสียหายต่อตัวรถยนต์คันเอาประกันภัย
2,000 บาทแรก สำหรับความเสียหายต่อทรัพย์สินบุคคลภายนอก
2.2 กรณีใช้รถผิดประเภท จะเกิดขึ้นในกรณีผู้ซื้อประกัน ซื้อประกันภัยรถยนต์ โดยระบุไว้ว่ารถยนตืดังกล่าวเป็นรถยนต์ส่วนบุคคล แต่ตอนเกิดอุบัติเหตุพบว่าเอารถไปรับจ้าง ซึ่งมีความเสี่ยงสูงกว่ารถยนต์ส่วนบุคคล กรณีเช่นนี้ หากบริษัทพิสูจน์ได้ว่ามีการใช้รถยนต์ผิดประเภท ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบเอง ดังนี้ 2,000 บาทแรก สำหรับความเสียหายต่อทรัพย์สินบุคคลภายนอก






คอมเม้นท์ที่เพจ 💸 สินเชื่อ




up arrow