ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ ประกันคุ้มครองไหม?

ผู้ขับขี่รถประกันไม่มีใบอนุญาตขับขี่ หรือมีแต่ถูกตัดสิทธิ์ หากเกิดเหตุ บริษัทคุ้มครองหรือไม่?
– ตัวรถคันเอาประกัน ไม่ได้รับความคุ้มครอง ตามเงื่อนไขกรมธรรม์
– ทรัพย์สินบุคคลภายนอก ได้รับความคุ้มครอง

กรณี ผู้ขับขี่รถยนต์ ไม่มีใบอนุญาตขับขี่  หรือ เคยมีแต่ถูกตัดสิทธิ์ ถูกยกเลิก หากเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ บริษัทประกันจะไม่จ่ายสินไหมทดแทน สำหรับ รถยนต์คันที่เอาประกัน (คันที่เกิดเหตุ) แต่ยังคงคุ้มครอง ทรัพย์สินบุคคลภายนอก

ที่กล่าวมาข้างต้น นั้นหมายถึง ในกรณี ผู้ขับขี่เป็นฝ่ายผิด
หากเป็นฝ่ายถูก คือ มีคันอื่นมาชน อย่างนี้ประกัน คู่กรณีต้องรับผิดชอบ

กรณี มีประกันชั้น1 ทั้ง 2ฝ่าย

คัน A ไปชน คัน B (คัน A เป็นฝ่ายผิด)
ประกัน A จะรับผิดชอบค่าเสียหาย ทั้งหมด ตามเงื่อนไข จ่ายทั้ง คัน A และ คัน B

กรณี มีประกันฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

กรณี คันA มีประกันชั้น1 คันB ไม่มีประกัน

คัน A ไปชน คัน B (คัน A เป็นฝ่ายผิด)
ประกัน A จะรับผิดชอบค่าเสียหาย ทั้งหมด ตามเงื่อนไข จ่ายทั้ง คัน A และ คัน B

คัน B ไปชน คันA (คัน B เป็นฝ่ายผิด)
เนื่องจาก B เป็นฝ่ายผิด และ ไม่ได้ทำประกันไว้ ผู้ขับรถB จะต้องรับผิดชอบ ชดใช้ค่าเสียหาย ให้ คัน A และ ซ่อม รถคัน B เอง

กรณี ไม่มีประกันทุกฝ่ายใด

คนผิด จ่ายค่าเสียหาย ให้ฝ่ายถูก ตกลงเจรจากัน หากไม่ลงตัวก็ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกันตามกฏหมาย

เราจะเห็นว่า ……
ถ้ารถยนต์ไม่มีประกัน นอกจาก จะยุ่งยากเมื่อเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์แล้ว ยังเสี่ยงต่อการเสียหาย ซึ่งไม่มีใครช่วยจ่ายให้ นั่นเป็นสาเหตุที่ต้อง หาใครสักคนมาจ่ายแทนเรา โดยแลกด้วยการจ่ายเงินให้เขา ซึ่งก็คือ บริษัทประกัน นั่นเอง

การมีประกัน จึงเป็นการ “จำกัดความเสียหาย” ซึ่งเป็นการบริหารความเสี่ยง ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของ ธุรกิจประกันภัย นั่นเอง และ นอกเหนือจากนี้ เมื่อเกิดเหตุ ไม่ต้องเสียเวลา เสียความรู้สึก ทะเลาะ เจรจากับคู่กรณี  และไม่ได้รับความสะดวก

ความสะดวก : มีเหตุชนกัน ประกันคุยกันเอง จบ!, ถ้าคู่กรณีไม่มีประกัน ประกันก็ไปไล่เบี้ยแทนเรา ไม่ต้องไปทะเลาะ หรือ ดำเนินการเรียกร้องเอง (ถ้าจะมีก็ ทะเลาะกับบริษัทของเราเอง นั่นเเหละ ภ้าเลือกบริษัทประกันที่มีปัญหา)

ไม่เสียเวลา : หากคุณไม่มีประกัน และคู่กรณี ก็ไม่มีประกัน ในบางกรณี อาจต้องมีการฟ้องร้องกัน ถึง 3ศาล กว่าจะรู้ผลแพ้ชนะ เงินก็ต้องจ่ายซ่อมกันเองก่อน

จะดีกว่าไหม? ถ้าทุกคนซื้อประกันรถยนต์ อย่างน้อยๆ ก็ควรมีประกันชั้น3