ตัวแทนประกันชีวิต อาชีพหนังหน้าไฟ!?
ว่ากันว่า .. งานขายประกันชีวิตเป็น งานแห่งการปฏิเสธ เพราะเมื่อเสนอขาย จะมีคนปฏิเสธมากกว่าตอบรับนั่นเอง เอาเข้าจริงแล้วงานขายทุกอย่างก็ล้วนเป็นลักษณะดังกล่าว เพียงแต่ประกันชีวิตอาจจะถูกปฏิเสธมากเป็นพิเศษ เนื่องจากมีกระบวนการวิธีการขายที่แตกต่างจากการเสนอขายสินค้าทั่วไป และ เป็นสินค้าที่ไม่มีตัวตน ไม่สมารถจับต้องพิสูจน์ให้ดูได้ง่าย การซื้อขายจึงมักอาศัยความไว้วางใจเป็นหลัก ถ้าไม่ไว้วางใจก็ไม่ต้องคุยต่อ เพราะรังแต่จะมีข้อสงสัย ระเเวงแคลงใจ วุ่นวายเต็มไปหมด พอเหอะ .. ไปซื้อกับบริษัทตรงก็เป็นทางออกที่ดีสำหรับใครที่เป็นแบบนี้
อาชีพประกันชีวิต โดนทั้งขึ้นทั้งล่อง เคลมได้ ก็ชมบริษัทประกันภัย เคลมไม่ได้ก็อาจจะด่าตัวแทน หรือ แม้แต่ เมื่อผู้ขอเอาประกันสมัคร ทำประกัน แล้วบริษัทประกัน ปฏิเสธการรับประกัน ด้วยเหตุผลสุขภาพ เป็นโรค เสี่ยง อ้วน ฯลฯ หรือ มีการยกเว้นความคุ้มครองบางอย่าง … ตัวแทนก็โดนด่า ด่านแรกที่จะรับไปก่อน เพราะผู้ขอเอาประกัน จะด่า call center ก็ไม่ใช่เรื่อง เพราะไม่ได้รู้เห็น จะด่าเจ้าหน้ารับประกันก็ไม่มีเบอร์โทรติดต่อ เพราะบริษัทประกันมักจะกันไว้ เพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว ) แม้แต่ตัวแทนเองก็อาจจะไม่ได้เบอร์นั้น เช่นกัน) ดังนั้น ตัวแทนนี่เเหละ ด่าง่ายสุด
ในด้านของบริษัทประกัน ยอดไม่ถึงเป้าก็โดนต่อว่า บีบบังคับ ด้วยสารพัดวิธี ขู่ตัดสัญญา บังคับให้ต้องเข้าออฟฟิศ ฯลฯ
หนังหน้าไฟ หรือ หมายถึง เเพะรับบาป
ตัวแทนประกันชีวิต ไม่ใช่ พนักงานบริษัทประกันชีวิต ไม่ได้สวัสดิการใด ได้เพียงคอมมิสชั่น จากการขายประกัน โบนัสปลยปีหากทำยอดเกินเกณฑ์ ทำเป้าไม่ได้ก็ถูกบริษัทกดดัน หนักเข้าก็บีบบังคับ ข่มขู่ตัดสัญญา
ตัวแทนประกันชีวิต เป็นอาชีพที่ต้องมีใบอนุญาต ต้องสอบใบอนุญาติเพื่อให้มา และ ต่อใบอนุญาติ ก่อนต่ใบอนุญาต ก็ต้องอบรม 30 -50 ชั่วโมง แล้วตัวแทนประกันชีวิตก็ใช้ความและประสบการณ์ เวลา ความสามารถของตัวเอง ในการหาลูกค้า และ บริการลูกค้าของเขา
สถานะที่แท้จริงของตัวแทนประกันชีวิต ต่อบริษัทประกันชีวิตที่เขาสังกัด คือ ตัวแทนประกันชีวิตเป็น contractor หรือ คู่สัญญา แต่ไม่ใช่ คู่ค้า (พาร์ทเนอร์ , partners) ของบริษัทประกัน ถ้าขายได้ก็มีรายได้ ขายไม่ได้ก็อด บริษัทประกันชีวิตไม่รับผิดชอบใดๆ