ข้อควรรู้เกี่ยวกับประกันชีวิต
ข้อควรรู้เกี่ยวกับประกันชีวิต
ควรปฏิบัติอย่างไรเมื่อได้รับกรมธรรม์?
หลังจากที่ได้รับกรมธรรม์ ต้องตรวจสอบความถูกต้องของกรมธรรม์ให้เรียบร้อย เช่น แบบประกัน ชื่อ นามสกุล ชื่อผู้รับประโยชน์ หากมีข้อผิดพลาด ให้แจ้งตัวแทนหรือบริษัทฯ เพื่อแก้ไขให้ถูกต้อง และ ควรอ่านกรมธรรม์ หากมีข้อสงสัยให้สอบถามจาก ตัวแทนที่ให้บริการ
หากผู้เอาประกันชีวิตไม่เปิดเผยความจริงหรือแถลง ข้อความเท็จ จะเกิดผลอย่างไรในกรมธรรม์?
การไม่เปิดเผยข้อความจริงหรือการแถลงข้อความจริง อาจส่งผลให้บริษัทฯ สามารถเรียก เบี้ยประกันที่สูงขึ้นได้ ถ้าบริษัทฯทราบข้อความจริงนั้น ๆ หรือสามารถบอกปัดไม่รับประกัน โดยให้ถือว่า สัญญานั้นเป็นโมฆียะ บริษัทฯ มีสิทธิ์บอกล้างสัญญาได้ภายใน 1 เดือน นับจากวันที่ทราบว่ามีการปกปิดความจริง หรือหากไม่ทราบ บริษัทฯ ต้องบอกล้างภายใน 2 ปี นับแต่วันทำสัญญา มิฉะนั้นสิทธิ์ในการบอกล้างจะหมดไป
หากชำระเบี้ยประกันภัยแล้ว ยังไม่ได้รับกรมธรรม์ จะได้รับความคุ้มครองหรือไม่?
ความคุ้มครองของกรมธรรม์จะเริ่มมีผลตั้งแต่ที่บริษัทรับใบคำขอและเบี้ยประกันภัยงวดแรก จากผู้เอาประกัน ซึ่งถ้าหากผลการพิจารณารับประกันอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ผู้เอาประกันก็จะได้รับความคุ้มครองทันที ถึงแม้ว่าจะยังไม่ได้รับกรมธรรม์ก็ตาม
การชำระเบี้ยประกันภัยผ่านตัวแทน จะได้รับอะไรเป็นหลักฐานบ้าง?
ทุกครั้งที่ชำระเบี้ยประกันภัยผ่านตัวแทน จะได้รับใบรับเงินชั่วคราว แต่หากชำระเบี้ยที่บริษัทประกันฯ ก็จะได้รับใบเสร็จตัวจริง
ถ้ากรมธรรม์หาย ต้องทำอย่างไร?
หากกรมธรรม์หาย ให้แจ้งความ ณ สถานีตำรวจในท้องที่ที่ทำกรมธรรม์หาย และ นำหลักฐานใบแจ้งความมายังบริษัทฯ เพื่อออกกรมธรรม์ใหม่
สำหรับ กรุงเทพประกันชีวิต ค่าออกกรมธรรม์ปัจจุบันอยู่ที่ 200 บาท
หากติดต่อตัวแทนไม่ได้ ต้องปฏิบัติอย่างไร?
ในกรณีที่ติดต่อตัวแทนไม่ได้ คุณสามารถใช้บริการได้ที่สาขาที่ทำประกันชีวิต หรือ สำนักงานใหญ่
สำหรับ บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด(มหาชน) โทร. (02)777-8000 , (02)777-8888 , customer sevice (02)777-8222
การเปลี่ยนแปลงที่อยู่ ชื่อ / สกุล ถ้าไม่แจ้งให้บริษัท ฯ ทราบจะมีผลอย่างไรบ้าง?
ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงชื่อ – สกุล และที่อยู่ ควรแจ้งให้บริษัทฯ ทราบทุกครั้ง เพื่อบริษัทฯ จะได้จัดส่งข่าวสารที่เป็นประโยชน์ถึงท่านได้อย่างต่อเนื่อง อาทิ การเตือนการชำระเบี้ยประกันภัย การแจ้งรับเงินปันผล (ถ้ามี) การแจ้งรับเงินครบกำหนดสัญญา หรือ ข่าวสารสำคัญอื่น ๆของบริษัทฯ
ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงผู้รับประโยชน์ จะต้องทำอย่างไรบ้าง?
ในกรณีที่ผู้รับประโยชน์เดิมยังไม่แสดงความจำนงเป็นผู้รับประโยชน์กับบริษัทฯ โดยตรง คุณสามารถยื่นคำร้องขอเปลี่ยนแปลง ผู้รับประโยชน์กับบริษัทฯ ได้ทันที แต่ถ้าผู้รับประโยชน์เดิมได้แสดงความจำนงเป็นผู้รับประโยชน์กับบริษัทฯ แล้ว การเปลี่ยนแปลงจะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับคำยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้รับประโยชน์เดิมก่อน
*ผู้รับประโยชน์ :ผู้ที่มีสิทธิ์ได้รับค่าสินไหมทดแทนตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ซึ่งผู้รับ ประโยชน์และผู้เอาประกันอาจเป็นบุคคลเดียวกันก็ได้
กรมธรรม์ฉบับเดียวกัน สามารถย้ายบริษัทได้หรือไม่?
คุณไม่สามารถย้ายกรมธรรม์จากบริษัทหนึ่งไปยังอีกบริษัทหนึ่งได้ เนื่องจากแต่ละบริษัทมีแบบประกันลักษณะความคุ้มครองผลประโยชน์อื่น ๆ และอัตราเบี้ยประกันภัยที่แตกต่างกันไป ที่สำคัญคือ มันเป็นคนละบริษัทกัน เหมือนคุณซื้อ สินค้าร้านหนึ่งเเล้วจะไปเปลี่ยนกับอีกร้านหนึ่ง
ถ้าทำประกันชีวิตไว้มากกว่า 1 บริษัท จะเรียกร้องเงินสินไหมได้ทุกกรมธรรม์หรือไม่?
ในกรณีนี้สามารถเรียกร้องสินไหมได้ทุกกรมธรรม์ แต่ต้องพิจารณาเป็นสัญญาๆ ตาม หลักเกณฑ์ดังนี้
– ด้านการประกันชีวิตและอุบัติเหตุ สามารถเรียกร้องได้เต็มผลประโยชน์ทุกกรมธรรม์
– การประกันสุขภาพ จะเรียกร้องได้ทุกกรมธรรม์ แต่จำนวนเงินสูงสุดจากทุกกรมธรรม์ รวมกันแล้วต้องไม่เกินค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นจริง
การประกันชีวิตนอกเหนือจากจะประกันชีวิตตัวเองแล้ว สามารถเอาประกันชีวิตผู้อื่นอีกได้หรือไม่?
ได้แต่ผู้เอาประกันจะต้องมีความสัมพันธ์หรือมีความเกี่ยวข้องกับผู้ถูกเอาประกันมากพอสมควร นั่นคือจะต้องเป็นบุคคลที่มีส่วนได้ซึ่งกันและกัน เช่นมีความสัมพันธ์ทางสายโลหิตหรือการสมรส หรือ โดยการติดต่อทางธุรกิจต่อกันเท่านั้น
ทำอย่างไร หากกรมธรรม์ขาดผลบังคับ?
หากกรมธรรม์ขาดผลบังคับ คุณสามารถขอต่ออายุกรมธรรม์ฉบับนั้นกับบริษัทฯ ได้ภายใน ระยะเวลา 5 ปีนับตั้งแต่วันที่กรมธรรม์ขาดอายุ โดยแถลงประวัติสุขภาพ และชำระเบี้ยประกันภัยงวดที่ค้างชำระอยู่ทั้งหมดพร้อมด้วยหนี้สินอื่นๆ ก่อน (ถ้ามี) แล้วยื่นเรื่องขอต่ออายุไปยังบริษัท