การประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
ตามโครงการสานพลังประชารัฐ เพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนา อัตราเบี้ยประกันภัยไร่ละ 65 บาท พื้นที่เป้าหมาย 2 ล้านไร่ ใน 33 จังหวัด ครอบคลุมเกษตรกรผู้เอาประกันภัยประมาณ 150,000 ราย รวมวงเงินไม่เกิน 130 ล้านบาท จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
ตั้งแต่วันที่ 12 ตุลาคม 2561โดยมีบริษัทประกันภัยที่เข้าร่วมโครงการแล้วจำนวน 14 บริษัท ได้แก่
บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท กรุงไทยพานิชประกันภัย จำกัด(มหาชน) บริษัท ซมโปะ ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท เทเวศประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท นวกิจประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ฟอลคอนประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท มิตซุย สุมิโตโม อินชัวรันส์ จำกัด สาขาประเทศไทย บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท ศรีอยุธยา เจเนอรัล ประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) และบริษัท แอกซ่าประกันภัย จำกัด (มหาชน) ซึ่งสามารถรับประกันภัยได้แล้ว
สำหรับรายย่อย (ไมโครอินชัวรันส์) จะให้ความคุ้มครองตามแนวทางเดียวกับกรมธรรม์ประกันภัยข้าวนาปี โดยค่าสินไหมทดแทนกำหนดไว้ 1,500 บาทต่อไร่ สำหรับความเสียหายจากน้ำท่วมหรือฝนตกหนัก ภัยแล้ง ฝนแล้ง หรือฝนทิ้งช่วง ลมพายุหรือพายุไต้ฝุ่น ภัยอากาศหนาวหรือน้ำค้างแข็ง ลูกเห็บ ไฟไหม้ หรือภัยจากช้างป่า ยกเว้นความเสียหายจากศัตรูพืช หรือโรคระบาด ค่าสินไหมทดแทนจำนวน 750 บาทต่อไร่ โดยเบี้ยประกันภัยอยู่ที่ 65 บาทต่อไร่ (รวมอาการแสตมป์และภาษีมูลค่าเพิ่ม)
อนาคตจะขยายไป การประกันภัยพืชผลชนิดอื่นๆ นอกจากนี้ยังมี การประกันภัยทุเรียน
การประกันภัยโคนม และอยู่ในระหว่างการจัดทำโครงการศึกษาวิจัยเรื่องกฎหมายแม่บทการประกันภัยพืชผลและผลิตภัณฑ์ประกันภัยพืชผลทางการเกษตรอื่นๆ