เบี้ยประกันสุขภาพบิดามารดา
เบี้ยประกันสุขภาพบิดามารดา ใช้เป็นค่าลดหย่อนได้ ตามที่จ่ายจริง รวมสูงสุดปีละ ฿15,000 สำหรับคนที่จ่ายเบี้ยประกันสุขภาพบิดามารดา*1
เบี้ยประกันสุขภาพบิดามารดาเป็นสิทธิประโยชน์สำหรับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
สิทธิประโยชน์ที่ได้รับ
การจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพบิดามารดาสามารถนำเบี้ยประกันสุขภาพที่จ่ายให้ทั้งพ่อและแม่นั้นไปใช้เป็นค่าลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง รวมที่จ่ายให้ทุกคนสามารถใช้ลดหย่อนได้สูงสุดปีละไม่เกิน ฿15,000
ถ้าคู่สมรสของคุณไม่มีเงินได้ เบี้ยประกันสุขภาพพ่อแม่ของคู่สมรสก็นำไปใช้หักลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง รวมสูงสุดปีละไม่เกิน ฿15,000
ถ้ามีคุณจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพบิดามารดาร่วมกันพี่น้องคนอื่นด้วย สิทธิประโยชน์ที่ได้รับจะเฉลี่ยตามจำนวนพี่น้องที่จ่ายร่วมกัน เช่น จ่ายเบี้ยประกันสุขภาพบิดามารดาไปจริง ฿15,000 และมีคุณกับพี่น้องคนอื่นร่วมกันจ่ายทั้งหมดรวม 3 คน แต่ละคนจะมีสิทธิหักลดหย่อนเบี้ยประกันสุขภาพบิดามารดาได้คนละ ฿5,000 (เบี้ยประกันสุขภาพบิดามารดา ฿15,000 ÷ 3 คน)
เงื่อนไขการรับสิทธิ
พ่อแม่เรา
คุณเองก็มีสิทธิหักลดหย่อนเบี้ยประกันสุขภาพบิดามารดาได้ถ้าทำตามเงื่อนไขทั้งหมดต่อไปนี้
A คุณเป็นลูกแท้ๆ ที่ถูกต้องตามกฎหมายของพ่อแม่ (ลูกบุญธรรมไม่มีสิทธิหักลดหย่อน)
B พ่อแม่มีรายได้ทั้งปีภาษีไม่เกิน ฿30,000 (ถ้า ฿30,000 พอดีก็ยังไม่ผิดเงื่อนไข)
C อย่างน้อยต้องมีเราหรือพ่อแม่เราคนใดคนหนึ่งที่อยู่ในประเทศไทยครบ 180 วันในปีภาษีนั้น
D เป็นความคุ้มครองพ่อแม่อย่างใดอย่างหนึ่ง ได้แก่
– เป็นประกันภัยคุ้มครองการรักษาพยาบาลอันเกิดจากการเจ็บป่วยและการบาดเจ็บ การชดเชยการทุพพลภาพและการสูญเสียอวัยวะ เนื่องจากการเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บ;
– เป็นประกันภัยอุบัติเหตุที่คุ้มครองเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล การทุพพลภาพ การสูญเสียอวัยวะ และการแตกหักของกระดูกด้วย;
– เป็นประกันภัยโรคร้ายแรง (Critical Illnesses); หรือ
– เป็นประกันภัยแบบดูแลระยะยาว (Long Term Care)
พ่อแม่คู่สมรส
คุณเองก็มีสิทธิหักลดหย่อนเบี้ยประกันสุขภาพพ่อแม่คู่สมรสได้ถ้าทำตามเงื่อนไขทั้งหมดต่อไปนี้
A คู่สมรสไม่มีรายได้เลยตลอดปีภาษีนั้น
B คู่สมรสของคุณเป็นลูกแท้ๆ ที่ถูกต้องตามกฎหมายของพ่อแม่ (ลูกบุญธรรมไม่มีสิทธิหักลดหย่อน)
C พ่อแม่มีรายได้ทั้งปีภาษีไม่เกิน ฿30,000 (฿30,000 พอดีก็ยังไม่ผิดเงื่อนไข)
D อย่างน้อยต้องมีเราหรือพ่อแม่เราคนใดคนหนึ่งที่อยู่ในประเทศไทยครบ 180 วันในปีภาษีนั้น
E เป็นความคุ้มครองพ่อแม่อย่างใดอย่างหนึ่ง ได้แก่
1.เป็นประกันภัยคุ้มครองการรักษาพยาบาลอันเกิดจากการเจ็บป่วยและการบาดเจ็บ การชดเชยการทุพพลภาพและการสูญเสียอวัยวะ เนื่องจากการเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บ;
2.เป็นประกันภัยอุบัติเหตุที่คุ้มครองเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล การทุพพลภาพ การสูญเสียอวัยวะ และการแตกหักของกระดูกด้วย;
3.เป็นประกันภัยโรคร้ายแรง (Critical Illnesses); หรือ
4. เป็นประกันภัยแบบดูแลระยะยาว (Long Term Care)
หลักฐานที่ต้องใช้
ใบเสร็จหรือหนังสือรับรองการชำระเบี้ยประกันสุขภาพจากบริษัทประกัน
เรื่องที่มักเข้าใจผิดกันบ่อย
เบี้ยประกันสุขภาพที่จ่ายสำหรับทำประกันสุขภาพให้ ตัวเอง ลูก คู่สมรสหรือคนอื่นที่ไม่ใช่พ่อแม่ ไม่สามารถใช้หักลดหย่อนภาษีได้ เพราะกฎหมายให้สิทธิประโยชน์สำหรับประกันสุขภาพที่ทำให้พ่อแม่เท่านั้น
เบี้ยประกันชีวิตที่จ่ายสำหรับทำประกันชีวิตให้พ่อแม่ ไม่สามารถใช้หักลดหย่อนภาษีได้ เพราะกฎหมายให้สิทธิที่เกี่ยวกับการทำประกันให้พ่อแม่เฉพาะเบี้ยประกันสุขภาพเท่านั้น แต่ถ้าเป็นเบี้ยประกันชีวิตที่จ่ายสำหรับทำประกันชีวิตให้ตัวเองหรือคู่สมรสที่ไม่มีรายได้สามารถให้หักลดหย่อนภาษีได้อยู่
บางคนเข้าใจผิดว่าถ้าจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพให้ทั้งพ่อและแม่ก็สามารถลดหย่อนได้สูงสุด ฿30,000 (ลดหย่อน ฿15,000 ต่อพ่อหรือแม่หนึ่งคน) ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากกฎหมายกำหนดให้ผู้เสียภาษี 1 คนสามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนนี้ได้ตามที่จ่ายจริงสำหรับ พ่อแม่ทุกคนรวมกัน สูงสุดไม่เกิน ฿15,000 เท่านั้น
อ้างอิง
*1 :ข้อ 1 ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 162)