INSURANCETHAI.NET
Thu 21/11/2024 19:32:52
Home » อัพเดทประกันภัย » สงครามราคา ของบริษัทประกันภัย ส่งผลต่อผู้ซื้อประกันในฐานะผู้บริโภคอย่างไร?\"you

สงครามราคา ของบริษัทประกันภัย ส่งผลต่อผู้ซื้อประกันในฐานะผู้บริโภคอย่างไร?

2018/01/08 2573👁️‍🗨️

เมื่อบริษัทประกันภัย แข่งขันกัน จนกลายเป็น สงครามราคา ตัดราคา หั่นราคา จะส่งผลกระทบต่อผู้ซื้อประกันในฐานะผู้บริโภคอย่างไร?

สงครามราคา (Price War) ราคาเป็น 1ใน 4P
การแข่งขันกันด้านราคา เช่น ลดราคาสินค้า เมื่อเกิดสงครามราคาขึ้นผู้ขายจะมุ่งกลกลยุทธ์ด้านราคาเป็นหลัก ลดราคาให้ต่ำลงไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเอาชนะคู่แข่งได้ ทำให้สินค้าชนิดนั้นมีราคาถูกลง และ ผู้บริโภคจะได้ประโยชน์จากการแข่งขันนี้ ในช่วงเวลาที่เกิดสงครามราคาดังกล่าว

ผลดี
ได้เบี้ยประกันที่ถูกลง และ อาจจะได้รับความคุ้มครองที่มากขึ้น บริการที่ให้ประโยชน์ได้มากขึ้น

เมื่อตลาดเกิดการแข่งกัน ด้านราคา (สงครามราคา)จนถึงจุดที่ ไม่เกิดกำไร หรือ หนักกว่านั้น ขาดทุน เพราะทุกธุรกิจมีต้นทุนแต่ละบริษัทมีต้นที่ต่างกัน รวมถึงการชดเชยต่อการขาดทุนที่ต่างกันด้วย หากยังทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จะส่งผลกระทบต่อฐานะการเงิน สภาพคล่องของกิจการ ขาดทุนจนไม่สามารถฟื้นได้ นำไปสู่การล้มละลายในเวลาต่อมา

แต่ก่อนจะถึงจุดนั้น บางบริษัทก็มีอาการออกมาให้ได้เห็นกัน เช่น เคลมยาก เรื่องมาก พยายามลดค่าใช้ต่างๆ ลดการส่งเอกสาร หรือ เอาเปรียบลูกค้า เพื่อต้องการจ่ายให้น้อยที่สุดนั่นเอง ซึ่งสามารถย้อนดูอดีตที่ผ่านมาของบริษัทเหล่านั้นได้ (ดูรายชื่อบริษัทประกันวินาศภัยหน้าเว็บไซต์ insurancethai.net)

ผลเสีย ก็จะตกกับผู้บริโภคต่อไป พูดได้ว่ากระทบกันทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตาม ถ้าเรามีข้อมูลในมือที่มากพอ ติดตามข่าวสาร เกียวกับประกันภัย เหตุการณ์อย่างนั้นจะไม่เกิดกับเราอย่างแน่นอน

หลักการตลาด 4P คือ หรือ ส่วนผสมทางการตลาด นำมาใช้เป็นกลยุทธ์ในการวางแผนการตลาด เป็นการวางแผนในแต่ละส่วนให้เข้ากันอย่างเหมาะสม

ผลิตภัณฑ์ (Product) สินค้าหรือบริการ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำให้เกิดรายได้หรือผลตอบแทน ต้องคำนึงถึงปัจจัยต่างๆเช่น ความต้องการของลูกค้า คุณภาพสินค้า รูปแบบผลิตภัณฑ์ ความสามารถในการแข่งขันกับคู่แข่งในตลาด

ราคา (Price) การตั้งราคาขาย การตั้งราคาขาย เป็นเทคนิคอย่างหนึ่งที่ทำให้ต่อสู้กับคู่แข่งขันในธุรกิจประเภทเดียวกันได้ เช่น กำหนดให้มีส่วนลดเมื่อซื้อตามจำนวน กำหนดราคาตามขนาดและปริมาณของสินค้า (ซื้อประกันรถยนต์หลายคัน เป็นลักษณะ Feed) กำหนดการใช้งานจริง กำหนดตามการใช้บริการ (กรณีประกันภัย เช่น ไม่มีเคลมมีส่วนลดให้) ตามการใช้งาน (ประกันภัย เช่น ประกันตามไมล์การใช้งาน ,ประกันภัยผ่าน Application เปิด-ปิด เมื่อจะใช้งานรถยนต์) ตามอาชีพ หรือ ตามความเสี่ยงของลูกค้า (ประกันภัย เช่น กลุ่มข้าราชการเบี้ยประกันถูกกว่าทั่วไป)

3 Price Tier

วิธีเพิ่มมูลค่าการขายต่อบิล หรือ ต่อ 1 Sales Close) คือ นำเสนอเป็น 3 price tier ในการเสนอขายสินค้าและบริการ
ตัวอย่างการทำ Price tier เช่น แบ่งเป็น
– Basic plan (ราคาถูก)
– Pro plan (ราคากลาง)
– Business plan (ราคาสูงสุด)
 จากสถิติ ผู้มุ่งหวังมีแนวโน้มซื้อแพ็กเกจราคากลางมากที่สุด รองลงมาคือแพ็กเกจราคาสูงสุด ในขณะที่แพ็กเกจถูกสุดกลับไม่ค่อยถูกซื้อ

ช่องทางการจัดจำหน่าย (Place) การนำสินค้าไปให้ถึงมือของลูกค้า ความมีประสิทธิภาพ ความถูกต้อง ความปลอดภัย และความรวดเร็ว วิธีขายหรือกระจายสินค้าที่สามารถทำให้เกิดผลกำไรมากที่สุด ต้องกระจายสินค้าให้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด

การส่งเสริมการตลาด (Promotion) เป้าหมายหลัก คือ การทำให้สินค้าหรือบริการถูกซื้อมากที่สุด โดยอาจทำการโฆษณาผ่านสื่อในรูปแบบต่างๆ (เช่น สื่อ Social online ) กิจกรรมเพื่อส่งเสริมการขาย การบริการ หรือขายตรงโดยการนำเสนอของพนักงาน สำหรับการประกันภัย อาจมีช่องทางการขายต่างๆ เช่น ช่องทางตรง ช่องทางผ่านตัวแทน/นายหน้า ช่องทางธนาคาร ฯลฯ





สอบถาม บริษัทประกันภัย เจ้าของผลิตภัณฑ์ หรือ ตัวแทน/นายหน้า ทั่วประเทศ



คอมเม้นท์ที่เพจ 💸 สินเชื่อ




up arrow