หลักการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน (Principle of Indemnity)
หมายถึง เมื่อเกิดความเสียหายขึ้นอันเป็นผลโดยตรงจากภัยที่ทำประกันภัยไว้ ผู้รับประกันภัยต้องชดใช้ค่าสินไหม ให้แก่ผู้มีสิทธิได้รับ ตามความเสียหายแท้จริงที่เกิดขึ้น รวมทั้งค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการที่ผู้เอาประกันภัยได้จ่ายไปเพื่อรักษาทรัพย์ ไม่ให้เกิดความเสียหายสูงจากภัยที่เกิดขึ้น แต่ค่าสินไหมทดแทนนั้น ต้องไม่เกินจำนวนเงินที่เอาประกันภัยไว้
ตัวอย่าง
ผู้เอาประกันภัยทำประกันอัคคีภัยบ้านโดยมีทุนประกัน1 ล้านบาท
เมื่อเกิดเพลิงไหม้บางส่วนและประเมินความเสียหาย 500,000 บาท
ผู้เอาประกันภัยจะได้เงินค่าสินไหมทดแทนตามที่เสียหายจริงคือ 500,000 บาท
ถ้าเพลิงไหม้เสียหายทั่งหมดหรือทั้งหลัง บริษัทประกันภัยจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนเท่ากับจำนวนทุนที่เอาประกันภัยไว้คือ 1 ล้านบาท
แนวคิดนี้เป็นการเป็นการป้องกันมิให้ผู้เอาประกันภัยหรือผู้รับประโยชน์หวังผลกำไรจากการเกิดเหตุที่เอาประกันภัยไว้ จึงกำหนดให้ผู้รับประกันภัย ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามความเสียหายที่ เกิดขึ้นจริงเท่านั้น และป้องกันไม่ให้เกิดภัยขึ้นเพราะความไม่ซื่อสัตย์ของผู้เอาประกันภัย ซึ่งหลักการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจะจะปรากฏในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 877 ที่บัญญัติว่า “ผู้รับประกันภัยจำต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทน” ดังนี้คือ
1.เพื่อจำนวนวินาศภัย อันแท้จริง
2.เพื่อความบุบสลาย อันเกิดแก่ ทรัพย์สิน ซึ่งได้เอาประกันภัยไว้ เพราะได้จัดการ ตามสมควร เพื่อป้องปัด ความวินาศภัย
3.เพื่อบรรดาค่าใช้จ่าย อันสมควร ซึ่งได้เสียไป เพื่อรักษา ทรัพย์สิน ซึ่งเอาประกันภัยไว้นั้น มิให้วินาศ
อันจำนวนวินาศจริงนั้น ท่านให้ตีราคา ณ สถานที่ และ ในเวลา ซึ่งเหตุวินาศภัยนั้น ได้เกิดขึ้น อนึ่ง จำนวนเงิน ซึ่ง ได้เอาประกันภัยไว้นั้น ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า เป็นหลักประมาณ อันถูกต้อง ในการตีราคา เช่นว่านั้น
การชดใช้ค่าเสียหายตามความเป็นจริงนี้ยึดหลักปฏิบัติเพื่อให้ผู้เอาประกันภัยกลับคืนสู่สถานะเดิมเหมือนเมื่อก่อนเกิดวินาศภัยโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะกระทำได้โดยวิธีการดังนี้
1.การจ่ายเป็นตัวเงิน (Cash Payment) วิธีการจ่ายค่าสินไหมทดแทนเป็นตัวเงินนี้เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดและก่อให้เกิดสภาพคล่อง
2.การซ่อมแซม (Repair) วิธีนี้จะเหมาะในกรณีที่เกิดความเสียหายเพียงบางส่วนและอยู่ในวิสัยที่จะซ่อมแซมให้กลับคืนสู่สภาพเดิมได้
3.การหาของมาทดแทน (Replacement) เป็นการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนที่ผู้รับประกันภัยจะต้องหาสิ่งที่เป็นชนิด ประเภท และคุณภาพเดียวกับทรัพย์สินที่เอาประกันภัยมาทดแทนให้ โดยจะไม่จ่ายเป็นตัวเงินให้ผู้เอาประกันภัยไปหาซื้อเองหรือจะไม่ซ่อมแซมให้ เพราะทรัพย์สินที่เอาประกันภัยชนิดนั้นอาจเป็นทรัพย์สินที่โดยสภาพของกานใช้สอยไม่สามารถซ่อมแซมให้กลับคืนสู่สภาพเดิมได้วิธีนี้มักใช้กับสังหาริมทรัพย์
4.การทำให้กลับคืนสู่สภาพเดิม (Reinstatement) การจ่ายค่าสินไหมทดแทนด้วยวิธีนี้เป็นการทำให้ทรัพย์สินที่เอาประกันภัยไว้กลับคืนสู่สภาพเดิมเหมือนก่อนเกิดวินาศภัย ซึ่งไม่สามารถกระทำได้โดยวิธีซ่อมแซมหรือหาของทดแทน เช่น โรงงานถูกเพลิงไหม้หรือระเบิดเสียหายทั้งหมด ผู้รับประกันภัยจะก่อสร้างโรงงานนั้นขึ้นใหม่ เพื่อให้โรงงานนั้นสามารถใช้ประโยชน์ได้เหมือนเดิม
หลักการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามความเป็นจริงนี้เป็นหลักชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันวินาศภัย ไม่สามารถนำมาใช้กับการประกันชีวิตได้