ยางรถยนต์
ยางรถยนต์ คือ อุปกรณ์หลักส่วนควบของรถยนต์ ทำหน้าที่รองรับน้ำหนักรถยนต์และใช้ในการขับเคลื่อนให้รถยนต์ไปได้อย่างนิ่มนวลและปลอดภัย ถ้าไม่มีล้อและยาง รถยนต์ก็ไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ ยางรถยนต์ประดิษฐ์ขึ้นในปี พ.ศ. 2382 โดย ชาร์ลส์ กูดเยียร์ ชาวอเมริกัน เขาค้นพบว่าเนื้อยางเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถที่จะทนทานต่อสภาพดินฟ้าอากาศได้ เขาจึงได้นำยางดิบผสมกับกำมะถันและตะกั่วแล้วลนด้วยไฟ
ปัจจุบัน ยางรถยนต์ ทำมาจากยางธรรมชาติผสมกับยางสังเคราะห์ ผงคาร์บอน น้ำมัน สารเคมี และอื่นๆ เสริมความแข็งแรงด้วยชั้นของผ้าใบที่ทำมาจากเส้นด้ายไนลอน หรือโพลีเอสเตอร์ และเส้นลวดเหล็ก
โครงสร้าง-ยางรถยนต์ ประกอบด้วย หน้ายาง ไหล่ยาง แก้มยาง ขอบยางและดอกยาก
หน้ายาง เป็นส่วนที่สัมผัสกับถนน เพื่อใช้ในการขับเคลื่อน หรือยึดเกาะถนน หน้ายางของรถยนต์ทั่วไปจะทำเป็นดอกยางและร่องยางเอาไว้เพื่อใช้ในการรีดน้ำออกจากผิวถนนและผลักดันกับผิวถนน ยกเว้นยางรถแข่งที่เป็นทางเรียบและแห้ง หน้ายางจะไม่มีดอกยาง
ไหล่ยาง เป็นส่วนต่อระหว่างหน้ายางกับแก้มยาง ไหล่ยางจะช่วยในการระบายความร้อนออกจากหน้ายางและแก้มยาง
แก้มยาง เป็นส่วนที่เป็นชั้นผ้าใบหุ้มด้วยยางและมีลมดันจากภายในเพื่อให้ยางรถยนต์รักษารูปร่าง แก้มยางเป็นส่วนที่มีการรับแรงกดจากน้ำหนักรถและเพื่อรักษารุปร่าง แก้มยางเป็นส่วนที่มีการับแรงกดจากน้ำหนักรถและแรงดันด้านข้างจากการเลี้ยวรถ นอกจากนี้แก้มยางยังเป็นส่วนที่ทำให้เกิดความยืดหยุ่น และเกิดความนุ่มนวลในการขับขี่
ขอบยาง เป็นส่วนที่รัดกับขอบของกระทะล้อให้ยางและล้อกระทะล้อยึดติดเป็นชิ้นส่วนเดียวกัน และป้องกันการรั่วซึมของลมออกจากยาง (กรณียางรถยนต์ที่ไม่มียางใน) โครงสร้างของยางรถยนต์ เมื่อแยกตามลักษณะของการจัดวางเส้นใยของชั้นผ้าใบ จะมีอยู่ด้วยกัน 3 แบบ คือ แบบไดอะโกนัลไบแอส (diagonal bias) แบบเบลต์ไบแอส (belted bias) และแบบเรเดียล (radail)
ดอกยาง ดอกยางแบ่งออกเป็น 2 แบบ
1.ดอกยางแบบ 2 ทิศทาง เป็นลักษณะของลายดอกยางที่จะสามารถสลับยางได้ในทุกตำแหน่งล้อของรถ ลักษณะดอกยางทั้ง 2 ด้านจะสวนทิศทางกัน หากเป็นการขับขี่ทั่วไป ไม่เน้นความเร็วสูง ดอกยางลักษณะนี้สามารถตอบสนองความต้องการได้อย่างดี
2.ดอกยางทิศทางแบบทิศทางเดียว ลายของดอกยางจะถูกบังคับให้หมุนไปในทิศทางเดียวเท่านั้น โดยมีลูกศรบอกทิศทางการหมุนอยู่ที่แก้มยางทั้ง 2 ด้าน ดังนั้น การสลับยางจะสลับได้เพียงด้านเดียวเท่านั้น เช่น สลับด้านหน้าขวากับหลังขวา หรือด้านหน้าซ้ายกับหลังซ้าย เว้นแต่จะถอดตัวยางออกจากกระทะล้อเดิมไปใส่กับกระทะล้อฝั่งตรงกันข้าม แต่ต้องจัดวางทิศทางการหมุนของดอกยางให้ถูกต้องเช่นเดิม มิเช่นนั้นแล้วจะทำให้ทิศทางการหมุนของยางเปลี่ยนกลับทิศทาง ทำให้ประสิทธิภาพของยางลดลง จุดเด่นของดอกยางแบบทิศทางเดียว คือ สามารถไล่น้ำออกจากหน้ายางได้รวดเร็วกว่าแบบ 2 ทิศทาง ป้องกันอาการเหินน้ำ (Hydroplaning) ซึ่งจะทำให้ควบคุมบังคับรถได้ลำบาก และเกิดการลื่นไถลได้ง่าย
ข้อคำนึงในการเปลี่ยนขนาดยางรถยนต์
โดยปกติแล้ว ยางรถยนต์ที่ติดรถออกมาจากโรงงานประกอบของรถแต่ละยี่ห้อแต่ละรุ่นนั้น เป็นยางรถยนต์ที่เหมาะสมกับการใช้งานที่สุด ที่ทางบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ได้ทดสอบแล้ว แต่เนื่องจากผู้ขับขี่แต่ละรายอาจมีความต้องการที่แตกต่างกัน เช่น ต้องการให้เกาะถนนดีขึ้นเมื่อขับรถด้วยความเร็วสูงกว่าปกติ เพื่อความนุ่มนวลที่เพิ่มมากขึ้น ผู้ขับขี่จึงต้องการเปลี่ยนขนาดยางรถยนต์ให้เหมาะสมและตรงกับลักษณะการใช้งาน ซึ่งการเปลี่ยนยางรถยนต์ใหม่แทนยางรถยนต์ชุดเก่า ให้มีขนาดที่ถูกต้องเหมาะสมเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง โดยการเปลี่ยนขนาดยางรถยนต์ที่ขนาดยางรถยนต์เส้นใหม่ มีความแตกต่างไปจากขนาดยางรถยนต์เส้นเดิมนั้น
สิ่งที่จะต้องคำนึงถึงมีอยู่ 2 ประการ คือ
1) ความสามารถในการรับน้ำหนัก ต้องใกล้เคียงยางรถยนต์ขนาดเดิม
2) ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของยางรถยนต์ ต้องใกล้เคียงยางรถยนต์ขนาดเดิม
การเปลี่ยนขนาดยางรถยนต์ไม่ถูกต้องจะก่อให้เกิดผลเสีย ดังนี้
ขนาดยางรถยนต์เล็กไป
– ความสามารถในการรับน้ำหนักลดลง
– สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง
– มาตรวัดความเร็วคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง
– มาตรวัดระยะทางคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง
ขนาดยางรถยนต์ใหญ่ไป
– ยางรถยนต์เสียดสีกับส่วนหนึ่งส่วนใดของรถ
– พวงมาลัยหนักขณะใช้ความเร็วต่ำ
– มาตรวัดความเร็วคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง
– มาตรวัดระยะทางคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง
ยางรถแข่ง Formula 1
การแข่งขันรถยนต์ทางเลียบ Formula 1 จะเห็นได้ว่า…ยางรถยนต์ที่ใช้เฉพาะสำหรับการแข่งขัน ไม่มี ดอกยางรถยนต์ มันบ่งบอกถึงการเกาะถนนของยางรถยนต์ ในขณะที่ขับรถยนต์ด้วยความเร็วสูง หน้ายางรถแข่งเรียบ ไม่มีดอกยาง พื้นที่สัมผัสของหน้ายางกับถนนเต็มพื้นที่ นั่นคือ หน้าสัมผัสยางรถยนต์กับถนนมาก การเกาะถนนย่อมมากตามไปด้วย สำหรับทางเรียบแห้งเท่านั้น กรณีเกิดฝนตกระหว่างทำการแข่งขัน ก็จะต้องรีบนำรถแข่งเข้า COCKPIT เปลี่ยนยางให้เหมาะกับสภาพพื้นสนามแข่งขัน
ยางรถยนต์ที่ไม่มีดอกยาง เหมาะสำหรับทางเรียบแห้งเท่านั้น ถ้าเจอสภาพถนนที่เปียก จะร่อนหรือแฉลบ ยากต่อการควบคุมการขับเคลื่อนรถยนต์ ยางรถยนต์ทั่วๆ ไป จึงจำเป็นต้องมีดอกยาง เพราะเราไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่า สภาพถนนข้างหน้าจะเปียก มีน้ำท่วมขัง หรือไม่?
ออฟเซ็ต ( Offset , ET ) คืออะไร ?
ค่า Offset คือค่าระยะห่าง ระหว่าง เส้นแบ่งครึ่งล้อ ตามแนวขวาง กับ หน้าแปลนของล้อ (Hub Mounting Surface) โดยมีหน่วยเป็น มิลลิเมตร
ค่า Offset ส่งผลอะไรกับรถของเรา ?
ค่า Offset จะส่งผลโดยตรงกับระยะหรือตำแหน่งของล้อ ว่าจะยื่นออก หรือ หุบเข้า ไปในตัวรถของท่าน ดังนั้น การเลือกล้อที่มีค่า Offset ที่ถูกต้องเหมาะสมจึงมีความจำเป็น อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ค่า Offset ของล้อ ที่เราจะพูดถึง โดยปกติระบุเป็น 3 ค่าด้วยกัน
ค่าออฟเซ็ต เท่ากับศูนย์ Zero Offset (0)
คือค่า ระยะห่างของ หน้าแปลนล้อ ( Hub Mounting Surface ) ตรงกับ เส้นแบ่งครึ่งของ ล้อตามแนวขวางของล้อพอดี
ค่า ออฟเซ็ต เป็นบวก Positive (+)
คือระยะห่างของเส้นแบ่งครึ่งล้อวัดไปถึงหน้าแปลนล้อโดยมีทิศทางไปนอกตัวรถ วัดได้เป็นระยะเท่าไรนั้นถือค่าเป็นบวก(+) เช่น +20, +30, +38, +45 เป็นต้น ซึ่งมักพบกับล้อที่ใช้กับรถขับเคลื่อนล้อหน้าเสียส่วนใหญ่
ค่าออฟเซ็ต เป็นลบ Negative (-)
คือระยะห่างของเส้นแบ่งครึ่งล้อวัดไปถึงหน้าแปลนล้อ หรือพูดง่ายๆ ว่าหน้าแปลนของล้อมีระยะเกินเส้นแบ่งครึ่งล้อไปในทิศทางเข้าในตัวรถ วัดได้เป็นระยะเท่าไรนั้นถือค่าเป็น (-) เช่น -5, -10, -20 เป็นต้น ซึ่งรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหลังมักกำหนดให้ใช้ล้อแม็กที่มีค่าออฟเซ็ตเป็นลบหรือก็บวกไม่มาก
เรื่องนี้หากมีการเลือกค่า offset ที่ไม่ตรงกับรถนั้นๆ ก็จะมีผลกระทบตามมาเช่นกัน หรือหากมีการเปลี่ยนขนาดความกว้างของล้อ ค่า Offset ก็เปลี่ยนไปด้วย ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษาหรือรู้ถึงค่า Offset สำหรับรถของท่านควรมีตัวเลขอยู่ที่เท่าไร ? เพื่อจะได้ไม่สร้างปัญหาให้แก่ตัวรถของท่าน
เราจะรู้ได้อย่างไร ว่าล้อของเรามีค่า Offset เท่าไร ?
การดูค่า offset ล้อแม็ก ของเราด้วยตนเอง โดยปกติ ล้อแม็ก ส่วนใหญ่ จะมีตัวเลขบ่งบอกไว้ที่ตัวล้อเองเลย ซึ่งเรามักสังเกตุเห็น ตัวเลขที่มักจะตามตัวอักษร เช่น “ ET 38 ” ก็หมายถึง offsET 38 นั่นเอง หรือบางที ก็อาจมีเฉพาะตัวเลขลอยๆ ไม่มีตัวอักษรนำหน้าก็มี เช่น ” 45 ” ก็หมายถึง Offset = 45 เหมือนกัน ดูตัวอย่าง ที่รูปภาพด้านล่าง