ซื้อประกัน วิธีไหน?
สำหรับ ประกันชีวิต
โดยทั่วไป จะมีช่องทางหลัก ดังนี้
1. ซื้อประกันชีวิต กับตัวแทนประกัน (มักเป็น ใบอนุญาต ตัวแทนประกันชีวิต )
2. ซื้อประกันชีวิต กับธนาคาร (มักเป็น ใบอนุญาต นายหน้าประกันชีวิต)
3. ซื้อประกันชีวิต กับบริษัทประกันโดยตรง เช่น ทางเว็บไซต์
สำหรับประกันวินาศภัย
มีช่องทางการขายมากมาย แต่แบ่งได้เป็น 3 ประเภท
1. ตัวแทน
2. นายหน้า
3. บริษัทประกันภัย(เจ้าของผลิตภัณฑ์)
โดยทั่วไปจะซื้อประกันวินาศภัย ผ่าน ช่องทางที่2 (นายหน้า) ซึ่งมีจำนวนมาก ทั้ง นายหน้าบุคคล และ นายหน้า นิติบุคคล
นายหน้าบุคคล เช่น บุคคลทั่วไป ที่ได้รับใบอนุญาต
นายหน้านิติบุคคล เช่น บุคคลที่จดทะเบียนบริษัท กลายเป็น บริษัทนายหน้า นั่นเอง เช่น บริษัทนายหน้าทั่วไป BigC,Lotus,ธนาคาร, ค่ายรถยนต์ต่างๆ,in-house broker
ถ้าคุณจะซื้อประกันสุขภาพ/ ประกันรถยนต์ / ประกันบ้าน คุณจะทำอย่างไร?
1. ใช้เวลาหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต เปรียบเทียบ ศึกษาเอง แล้วติดต่อ ซื้อตรงกับบริษัทประกันภัย
กลุ่มนี้มักจะไม่ค่อย ไว้วางใจ หรือ เห็นความสำคัญของ ระบบตัวกลาง ตัวแทน/นายหน้า
2. ใช้เวลาหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต เปรียบเทียบ ศึกษาเอง แล้วติดต่อ ซื้อกับ ตัวแทน/นายหน้า
กลุ่มนี้ส่วนมากจะ Shop ราคาของ ตัวแทน/นายหน้า แต่ละเจ้าเพื่อเปรียบเทียบ ราคาและผลประโยชน์
3. ติดต่อ นายหน้า (โบรกเกอร์ ) ให้ทำข้อเสนอและพิจารณาเลือกอีกครั้ง ซึ่งกลุ่มนี้ มักมาจาก คนรอบตัวที่ตัวเองรู้จักหรือได้รับการแนะนำ บอกต่อ
4. ซื้อประกันจาก การแถม/ถูกบังคับซื้อพ่วง แล้วก็มีการต่ออายุเรื่อยมา
เช่น ประกันรถยนต์ ,ประกันบ้าน, ประกันอุบัติเหตุ(บัตรเครดิต เอทีเอ็ม ฯลฯ), ประกันเดินทาง ประกันชีวิต (กู้ซื้อบ้าน) ฯลฯ
5. กลุ่มที่ได้สิทธิพิเศษจาก สวัสดิการต่างๆ ของบริษัทที่ตัวเองทำงาน รวมถึง การเอารถยนต์ของตัวเอง พ่วงเข้าไปใน Feed รถของบริษัทที่ตนทำงานอยู่ ซึ่งอาจจะได้เบี้ยที่ถูกกว่าท้องตลาด และดูแลโดย นายหน้าประกันภัย ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้ จะไม่ค่อยกังวล เกี่ยวกับการบริการของ นายหน้าประกันภัย และ รวมถึงบริษัทประกันภัย แม้บางบริษัทประกันภัยจะ มีชื่อชั้นที่ไม่ดีนัก แต่ก็อาจจะบริการลูกค้ารถที่เป็นลักษณะ Feed หรือ เป็น กลุ่ม (3คันขึ้นไป) พิเศษกว่า ลูกค้ารายเดี่ยวนั่นเอง
นอกจากนี้ ยังมี ลูกค้ากลุ่ม Brand Royalty ซึ่งมีความจงรักภักดีต่อสินค้าสูง ยึดติดใน Brand หรือ ยี่ห้อของประกันภัยที่ตนเองใช้
จะติดต่อ ซื้อตรงบริษัทประกันที่ชื่นชอบ ไม่สนใจเบี้ยประกัน ความคุ้มครอง ฯลฯ
กลุ่มที่3 นั้นได้รับความสะดวกสบาย ในการหาซื้อประกันภัย ไม่ต้องเสียเวลา และ เรียนรู้เปรียบเทียบด้วยตัวเอง เพียงแค่ให้ นายหน้าประกันภัย ทำข้อเสนอสรุปมาเป็นตาราง ให้เลือกแบบง่ายๆ ซึ่งหากได้พบเจอนายหน้า ที่มีความเป็นมืออาชีพและมีความซื่อสัตย์ต่อลูกค้า จะทำให้คุณไม่ต้องยุ่งวุ่นวายกับเรื่องประกัน ปัญหาทุกอย่าง แค่เพียงส่งต่อให้เขาจัดการให้ การแจ้งเตือนต่างๆ การเสนอข้อเสนอใหม่ให้โดยไม่ต้องร้องขอ(กรณีประกันรถยนต์ปีต่ออายุเบี้ยแพงขึ้น) ต่อประกันโดยไม่ต้องโอนเงินให้ก่อน ดูแลบริการ กัน ด้วยความไว้วางใจกัน มีความยืดหยุ่นสูง
กลุ่มที่ 4 จะพบเจอปัญหากับประกัน มากที่สุด เพราะขาดคนดูแลอย่างจริงจัง มีปัญหาก็ไม่รู้จะไปปรึกษาใคร อาจจะตั้งกระทู้ถาม ในเว็บบอร์ด หรือ สื่อ Social ต่างๆ และกลุ่มนี้เอง จะเป็นกลุ่มที่ เกลียดบริษัทประกันมากที่สุด
กลุ่มลูกค้าที่ไม่มีตัวแทน/นายหน้า ดูแล จะเป็นลูกค้าที่ “ไม่มีเจ้า (เจ้าภาพ,คนรับผิดชอบดูแล)” เมื่อพบเจอปัญหา อาจจะไม่ได้รับความใส่ใจ จากบริษัทประกันเท่าที่ควร ซึ่งต่างกับ ลูกค้า ที่มี ตัวแทน/นายหน้า คอยดูแล บริษัทประกัน จะให้ความสำคัญมากขึ้น เพราะ ตัวแทน/นายหน้า มีความรู้ ทั้งในด้านสินค้า เงื่อนไข ความคุ้มครอง ระบบการทำงาน ของบริษํัทประกันภัย นั้นๆ รวมถึง ช่องทางการติดต่อกับ บุคคลในแผนกต่างๆ ที่เกียวข้องได้ รู้นิสัยใจคอของพนักงาน ของบริษัทประกัน คนไหนเป็นอย่างไร คนไหนรับผิดชอบ คนไหนคุยได้ คนไหน รับปากแล้วไม่ทำ แต่ละเรื่องต้องคุยกับใคร ต่างๆเหล่านี้ ซึ่งคนทั่วไปเข้าไม่ถึง ถ้าคุณมี ตัวแทน/นายหน้า เขาจะคอยดูแลช่วยเหลือ ตรวจสอบ ทวงถาม ร้องเรียน เรียกร้องฯลฯ
หากคุณไม่มีตัวแทน/นายหน้า
– คุณจะต้องดำเนินการเอง ไฟท์เอง
– ไม่มีใครอยู่ข้างคุณ แถมอีกฝั่ง ยังเป็น บริษัทประกันภัย ซึ่งเป็นคู่กรณีของคุณ ผู้ซึ่งผู้ร่างสัญญาประกันภัยเอง และในขณะเดียวกันก็เป็นผู้จ่ายเคลม