ทนายความฝ่าฝืนมรรยาททนายความ-โทษ
1096

ทนายความฝ่าฝืนมรรยาททนายความ-โทษ

ทนายความที่ทำการฝ่าฝืนมรรยาททนายความ มี 3 สถาน ซึ่งเรียงตามลำดับโทษที่เบาที่สุด ไปจนถึงโทษที่หนักที่สุด ดังนี้ คือ
          1. ภาคทัณฑ์
          2. ห้ามทำการเป็นทนายความ มีกำหนดไม่เกินสามปี
          3. ลบชื่อออกจากทะเบียนทนายความ

ข้อบังคับสภาทนายความ
ว่าด้วยมรรยาททนายความ
พ.ศ. 2529
----------
    อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 27 (3) (จ) และมาตรา 51 และด้วยความเห็นชอบของสภา
นายกพิเศษแห่งสภาทนายความตามมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ. 2528 คณะกรรมการ
สภาทนายความออกข้อบังคับว่าด้วยมรรยาทความไว้ดังต่อไปนี้
                                  หมวด 1
                                  บททั่วไป
                                ----------
    ข้อ 1 ข้อบังคับนี้เรียกว่า  `ข้อบังคับสภาทนายความว่าด้วยมรรยาททนายความ พ.ศ. 2529'
    ข้อ 2 ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
    ข้อ 3 ให้ยกเลิกบทบัญญัติว่าด้วยมรรยาททนายความและการแต่งกายของทนายความตามข้อบังคับ
ของเนติบัณฑิตยสภา  และตามบทกฎหมายอื่นที่ใช้บังคับอยู่ก่อนวันที่ข้อบังคับนี้ใช้บังคับ
    ข้อ 4 ทนายความผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับข้อใดข้อหนึ่งดังจะกล่าวต่อไปนี้ ให้ถือว่าทนาย
ความผู้นั้นประพฤติผิดมรรยาททนายความ
                                  หมวด 2
                            มรรยาทต่อศาลและในศาล
                                ----------
    ข้อ 5 ไม่รับหน้าที่เมื่อผู้พิพากษาได้ขอแรงให้เป็นทนายความแก้ต่างในคดีอาญา เว้นแต่จะมีข้อแก้
ตัวโดยสมควร
    ข้อ 6 ไม่เคารพยำเกรงอำนาจศาล หรือกระทำการใดอันเป็นการดูหมิ่นศาลหรือผู้พิพากษาในศาล
หรือนอกศาล อันเป็นการทำให้เสื่อมเสียอำนาจศาลหรือผู้พิพากษา
    ข้อ 7 กล่าวความ หรือทำเอกสารหรือหลักฐานเท็จ หรือใช้กลอุบายลวงให้ศาลหลง หรือกระทำ
การใดเพื่อทราบคำสั่ง หรือคำพิพากษาของศาลที่ยังไม่เปิดเผย
    ข้อ 8 สมรู้เป็นใจโดยทางตรงหรือทางอ้อม  เพื่อทำพยานหลักฐานเท็จ หรือเสี้ยมสอนพยานให้
เบิกความเท็จ หรือโดยปกปิดซ่อนงำอำพรางพยานหลักฐานใด ๆ ซึ่งควรนำมายื่นต่อศาล  หรือสัญญาจะให้
สินบนแก่เจ้าพนักงาน หรือสมรู้เป็นใจในการให้สินบนแก่เจ้าพนักงาน
                                  หมวด 3
                              มรรยาทต่อตัวความ
                                ----------
    ข้อ 9 กระทำการใดอันเป็นการยุยงส่งเสริมให้มีการฟ้องร้องคดีกันในกรณีอันหามูลมิได้
    ข้อ 10 ใช้อุบายอย่างใดอย่างหนึ่งดังกล่าวต่อไปนี้  เพื่อจูงใจให้ผู้ใดมอบคดีให้ว่าต่าง หรือแก้ต่าง
          (1) หลอกลวงให้เขาหลงว่าคดีนั้นจะชนะ เมื่อตนรู้สึกแก่ใจว่าจะแพ้
          (2) อวดอ้างว่าตนมีความรู้ยิ่งกว่าทนายความคนอื่น
          (3) อวดอ้างว่าเกี่ยวเป็นสมัครพรรคพวกรู้จักคุ้นเคยกับผู้ใดอันกระทำให้เขาหลงว่าตน
สามารถจะทำให้เขาได้รับผลเป็นพิเศษนอกจากทางว่าความ  หรือหลอกลวงว่าจะชักนำจูงใจให้ผู้นั้นช่วย
เหลือคดีในทางใด ๆ ได้ หรือแอบอ้างขู่ว่าถ้าไม่ให้ตนว่าคดีนั้นจะหาหนทางให้ผู้นั้นกระทำให้คดีของเขา
เป็นแพ้
    ข้อ 11 เปิดเผยความลับของลูกความที่ได้รู้ในหน้าที่ของทนายความ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจาก
ลูกความนั้นแล้ว หรือโดยอำนาจศาล
    ข้อ 12 กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งดังกล่าวต่อไปนี้  อันอาจทำให้เสื่อมเสียประโยชน์ของลูก
ความ
          (1) จงใจขาดนัด หรือทอดทิ้งคดี
          (2) จงใจละเว้นหน้าที่ที่ควรกระทำอันเกี่ยวแก่การดำเนินคดีแห่งลูกความของตน  หรือ
ปิดบังข้อความที่ควรแจ้งให้ลูกความทราบ
    ข้อ 13 ได้รับปรึกษาหารือ  หรือได้รู้เรื่องกรณีแห่งคดีใดโดยหน้าที่อันเกี่ยวข้องกับคู่ความฝ่ายหนึ่ง
แล้วภายหลังไปรับเป็นทนายความหรือใช้ความรู้ที่ได้มานั้นช่วยเหลือคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งซึ่งเป็นปรปักษ์อยู่ใน
กรณีเดียวกัน
    ข้อ 14 ได้รับเป็นทนายความแล้ว ภายหลังใช้อุบายด้วยประการใด ๆ โดยปราศจากเหตุผลอันสม
ควร เพื่อจะให้ตนได้รับประโยชน์นอกเหนือจากที่ลูกความได้ตกลงสัญญาให้
    ข้อ 15 กระทำการใดอันเป็นการฉ้อโกง ยักยอก หรือตระบัดสินลูกความ หรือครอบครอง หรือ
หน่วงเหนี่ยว เงินหรือทรัพย์สินของลูกความที่ตนได้รับมาโดยหน้าที่อันเกี่ยวข้องไว้นานเกินกว่าเหตุ โดยมิ
ได้รับความยินยอมจากลูกความ เว้นแต่จะมีเหตุอันสมควร
                                  หมวด 4
              มรรยาทต่อทนายความด้วยกัน ต่อประชาชนผู้มีอรรถคดี และอื่น ๆ
                                ----------
    ข้อ 16 แย่ง หรือทำการใดในลักษณะประมูลคดีที่มีทนายความอื่นว่าต่างแก้ต่างอยู่แล้วมาว่า หรือ
รับ หรือสัญญาว่าจะรับว่าต่าง แก้ต่างในคดีที่รู้ว่ามีทนายความอื่นว่าอยู่แล้ว เว้นแต่
          (1) ได้รับความยินยอมจากทนายความที่ว่าความอยู่ในเรื่องนั้นแล้ว
          (2) มีเหตุผลอันควรเชื่อว่าตัวความได้ถอนทนายความคนก่อนจากการเป็นทนายความของ
เขาแล้ว หรือ
          (3) ทนายความผู้ว่าความในเรื่องนั้นปฏิเสธ  หรือแสดงความไม่สมัครใจที่จะว่าความใน
คดีนั้นต่อไปแล้ว
    ข้อ 17 ประกาศโฆษณา หรือยอมให้ผู้อื่นประกาศโฆษณาใด ๆ ดังต่อไปนี้
          (1) อัตราค่าจ้างว่าความ หรือแจ้งว่าไม่เรียกร้องค่าจ้างว่าความ  เว้นแต่การประกาศ
โฆษณาของทนายความเกี่ยวกับการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายซึ่งดำเนินการโดยสภาทนายความเอง
หรือโดยสถาบัน สมาคม องค์การ หรือส่วนราชการใดที่เกี่ยวข้อง หรือ
          (2) ชื่อ คุณวุฒิ ตำแหน่ง ถิ่นที่อยู่ หรือสำนักงาน อันเป็นไปในทางโอ้อวดเป็นเชิงชักชวน
ให้ผู้มีอรรถคดีมาหาเพื่อเป็นทนายความว่าต่าง หรือแก้ต่างให้ เว้นแต่การแสดงชื่อ คุณวุฒิ หรืออื่น ๆ
ดังกล่าวตามสมควรโดยสุภาพ
    ข้อ 18 ประกอบอาชีพ ดำเนินธุรกิจ หรือประพฤติตนอันเป็นการฝ่าฝืนต่อศีลธรรมอันดี หรือเป็นการ
เสื่อมเสียต่อศักดิ์ศรีและเกียรติคุณของทนายความ
    ข้อ 19 ยินยอมตกลง หรือให้คำมั่นสัญญาว่าจะให้ค่านายหน้าหรือบำเหน็จรางวัลใด ๆ ด้วยทรัพย์สิน
หรือประโยชน์ใด ๆ แก่ผู้ที่หาคดีความหรือนำคดีความมาให้  หรือมีคนประจำสำนักงานดำเนินการจัดหา
คดีความมาให้ว่า โดยทนายความผู้นั้นคิดค่าส่วนลดของค่าจ้างให้ หรือให้เงินเดือน หรือเงินจำนวนหนึ่ง
จำนวนใด หรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อย่างใด ๆ แก่ผู้ที่หาคดีความมาให้นั้น แม้บุคคลผู้หาคดีความมาให้
โดยลักษณะดังกล่าวจะเป็นเสมียนหรือลูกจ้างประจำสำนักงานของทนายความผู้นั้นก็ตาม
                                  หมวด 5
                            มรรยาทในการแต่งกาย
                                ----------
    ข้อ 20 ในเวลาว่าความ ทนายความจะต้องแต่งกายสุภาพเรียบร้อยตามหลักเกณฑ์ต่อไปนี้
          (1) ทนายความชาย แต่งตามแบบสากลนิยม เป็นชุดสีขาว หรือสีอื่นที่ไม่ฉูดฉาด เชิ้ตขาว
ผ้าผูกคอสีดำหรือสีอื่นที่สุภาพไม่ฉูดฉาดแบบเงื่อนกะลาสี  หรือแต่งเสื้อชุดไทยแบบแขนสั้นหรือยาวสีสุภาพ
ไม่มีลวดลายแทนเสื้อชุดสากลก็ได้ รองเท้าหุ้มส้นสีขาว น้ำตาลหรือดำ ถุงเท้าสีคล้ายคลึงกับรองเท้า
          (2) ทนายความหญิง แต่งตามแบบสากลนิยม กระโปรงและเสื้อสีสุภาพไม่ฉูดฉาด รองเท้า
หุ้มส้น
          (3) ทนายความที่มีสิทธิแต่งเครื่องแบบราชการ  จะแต่งเครื่องแบบราชการก็ได้
          (4) ในขณะว่าความ ทนายความที่มีสิทธิสวมเสื้อครุยเนติบัณฑิต ต้องสวมเสื้อครุยนั้นด้วย
                                  หมวด 6
                มรรยาทในการปฏิบัติตามคำสั่งตามกฎหมายและข้อบังคับ
                                ----------
    ข้อ 21 ทนายความจะต้องปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัดเพื่อให้เป็นไปตามคำสั่งของสภานายกพิเศษแห่ง
สภาทนายความ  คณะกรรมการสภาทนายความ  และคณะกรรมการมรรยาททนายความ  ตลอดจนบรรดา
ข้อบังคับหรือข้อกำหนดที่บุคคลหรือคณะบุคคลดังกล่าวได้สั่งหรือมีไว้ แล้วแต่กรณี ตามอำนาจห้าที่ซึ่งมีอยู่ตาม
บทบัญญัติแห่งกฎหมาย
                              ประกาศ ณ วันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2529
                                        ประธาน ดวงรัตน์
                                        นายกสภาทนายความ



INSURANCETHAI.NET
Line+