ตัวเเทนกรุงเทพประกันชีวิต แห่ย้ายค่าย ไป AACP! (2555)
127

ตัวเเทนกรุงเทพประกันชีวิต แห่ย้ายค่าย ไป AACP! (2555)

ตัวเเทนกรุงเทพประกันชีวิต แห่ย้ายค่าย ไป AACP! (2555)

เป็นตัวเเทนประกันชีวิตมาตั้งหลายปี ลูกค้าในมือมีเป็นร้อยเป็นพัน เเล้วไฉนอยู่ๆ หนีไปย้ายค่ายซะงั้น?
ทุกอย่าง บนโลก ล้วนไม่จีรัง สิ่งที่เคยดี เมื่อเวลาผ่านไปอาจจะไม่ดี คนที่มีความคิดย่อม พิจารณาด้วยเหตุผล เเล้วจึงลงมือทำ

ทำไมได้ยินข่าวตัวเเทน ย้ายค่าย เเล้วย้ายไปทำไม?

คำตอบง่ายๆ ของการย้ายค่ายของตัวเเทน โดยมองในภาพรวมคือ ผลประโยชน์ และความมั่นคงในงาน พูดง่ายๆ นั่นก็คือ อนาคต นั่นเอง
ที่ไหน มีอนาคต ดีกว่า มีโอกาสก็ควรหยิบฉวยไว้ อย่าปล่อยให้โอกาสดีๆในชีวิตผ่านไป เหมือนครั้งหนึ่งซึ่ง ตัวเเทนหลายๆคนเข้ามา ในวงการประกันชีวิต ด้วยเพราะโอกาสที่ผ่านมา

ต้องยอมรับว่า ไม่มีบริษัทไหนดีที่สุด มั่นคงที่สุด ด้วยเหตุผลดังกล่าว ในการเลือกบริษัท คู่ค้า ที่จะทำงานด้วยจึงต้องเลือกบริษัทที่ สามารถฝากอนาคตไว้ได้ดีที่สุด เฉกเช่นเดียวกับบริษัทประกันชีวิตเอง ก็เลือกตัวเเทนด้วยเหมือนกัน ดังนั้นเมื่อมีโอกาสผ่านเข้ามาให้คุณเลือก ให้คุณได้ตัดสินใจ อย่าได้ลังเล จงรีบตรวจสอบสถานการณ์ ปัจจุบันของคุณ วิเคราะห์ SWOT เเล้วตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลต่างๆที่มีอยู่ในมือ เท่าที่หาได้ เพื่อประโยชน์สูงสุดในการตัดสินใจ

AACP เป็นบริษัทประกันชีวิต อันดับ3 (Ranking3) ในประเทศไทย จาก บริษัทประกันชีวิต25 แห่งทั่วประเทศ

โดยการย้ายค่าย เบื้องต้นตัวเเทนจะได้ผลประโยชน์เพิ่มขึ้นจากการขายประกัน เช่น เพิ่มขึ้นอีก 15% ของเบี้ยประกัน ใน 3 ปีแรกของการย้ายมา
นอกจากนั้น หากเป็นผู้จัดการ ก็จะได้ค่าบริหารเพิ่มขึ้นอีก 17% เป็นต้น จึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไม ตัวเเทน กรุงเทพประกันชีวิต จึงแห่ย้ายค่ายกันมาที่ AACP

เหตุการณ์ดังกล่าว จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าไม่มีเเรงผลัก และเเรงดูด ที่เพียงพอ

เเรงผลัก
- การขาดซึ่งการพัฒนาระบบ ต่างๆของบริษัท
- การให้ความสำคัญกับตัวเเทน หรือ นโยบายบริษัท มีทิศทางที่ไม่สอดคล้องกับอนาคตตัวเเทน คืออยู่ไปก็ไร้อนาคต แถมยังกดดันอีกหลายเรื่อง เช่น การทำยอด การตัดโค๊ด กึ่งบังคับเข้าประชุม (ที่จริงไม่ได้ประชุมหรอก ให้เข้ามาเป็นไม้ประดับนะแล เดี๋ยวนี้ข้อมูลต่างๆรับรู้ได้ผ่านช่องทางอินเตอร์เน็ต เว็บ หรือ แม้ประทั่งการถ่ายทอดสด Live สดๆ เช่น ทาง Youtube Channel หรือ Facebook Live) และระเบียบยิบย่อย ไร้สาระเสียเวลา

แรงดูด
- ที่ใหม่มีค่าตอบเเทนดีกว่า
- มีระบบดีกว่า เช่น ระบบโปรแกรม เว็บแอพพลิเคชั่น เครื่องมือ ช่วยเหลือ สนับสนุนตัวแทน โดยรวม คือมีนโยบายที่เป็นมิตรกับอนาคตตัวเเทนมากกว่านั่นเอง

ยกตัวอย่างข้อดีของ AACP
- ระบบการส่งงาน สามารถคีย์ข้อมูลส่งได้เลย เเล้วค่อยส่งเอกสารตามหลังไป
(กรุงเทพประกันชีวิตยังทำไม่ได้ ตอนนี้เริ่มทำได้แล้ว (2559))

- การเปลี่ยนแปลงข้อมูลผู้เอาประกัน สามารถส่งผ่านโดยใช้ระบบอินเตอร์เน็ตเข้ามาช่วย กรอกรายละเอียดเเละส่งได้เลย เอกสารก็ค่อยส่งกันภายหลัง (กรุงเทพประกันชีวิต ยังทำไม่ได้ แต่สามารถส่งอีเมล์ เข้าไปได้)

- การเก็บเงินเบี้ยประกันโดยจ่ายผ่านบัตรเครดิต ตัวเเทนไม่ต้องถูกหัก 1.5% , 2%
(กรุงเทพประกันชีวิต หักค่าธรรมเนียมดังกล่าวจากตัวเเทนของเขา หรือ จะเรียกว่าผลักภาระไปให้ตัวเเทนประกันชีวิตก็ได้)

- เห็นความสำคัญของการทำงานกับบริษัท โดย aacp มีการจ่ายผลประโยชน์ให้ตัวเเทนของเขาในระดับที่สูงขึ้นหากทำงานกับบริษัทเป็นเวลานานมากขึ้น
(กรุงเทพประกันชีวิต ยังไม่มีระบบดังกล่าว โดยเฉพาะ ส่วนงานสะสมเงินเดือน (ขายรายเดือน) ทำงาน 1 เดือน กับ 10 ปีก็มีค่าเท่ากัน)

และอื่นๆอีกมากมาย
;D

สรุปง่ายๆ ที่เป็นเช่นนี้ เพราะทิศทางของบริษัท ซึ่งเป็นผลมากจาก นโยบายบริษัท ซึ่งออกมาจาก วิสัยทัศน์ของผู้บริหาร

เเล้วผู้บริษัทกรุงเทพประกันชีวิต ไม่รู้ ไม่เข้าใจ เรื่องเหล่านี้หรือ?
อาจจะรู้หรือไม่รู้ เเต่ตอนนี้ กรุงเทพประกันชีวิต หันไป ทุ่มตลาดตรง bancassurance คือให้แบงก์ เป็นคนขายประกัน ซึ่งในกรณีนี้กรุงเทพประกันชีวิตเลือกธนาคารกรุงเทพ บริษัทในเครือของเขา นั่นเอง เข้าใจว่า เบี้ยประกันรวมสูงกว่า ช่องทางตัวแทน

เนื่องจากการขายประกันผ่านเเบงก์นั้น ทำได้ง่าย เเละแบงก์มีฐานตลาดที่ใหญ่มาก อยู่ในมือ
เมื่อเทียบกับ การขายประกันผ่านตัวเเทนเเล้ว ต้องเสียค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ทั้งคอมมิสชั่น ค่าบริหาร โบนัส ฯลฯ

แต่ระยะยาวสินค้าที่ชื่อว่า "ประกันชีวิต" ยังคงต้องใช้ตัวเเทน ยิ่งกับประเทศที่ยังไม่พัฒนา หรือ กำลังพัฒนาด้วยเเล้ว
เพราะประกันชีวิตยังต้องการ การดูเเละ การติดต่อสัมพันธ์กัน ลองถามๆ ตัวเเทนดูว่า ส่วนมากเเล้ว ที่ลูกค้าทำประกันชีวิต กับ เขา เพราะ บริษัท หรือ เพราะ ตัวเเทนขาย ตัวเเทนเเนะนำ
กว่า 90% ตอบได้เลยว่า ที่ลูกค้าซื้อประกันนั้น เหตุผลเพระาตัวเเทนเป็นหลัก ไม่ใช่ซื้อเพราะยี่ห้อบริษัท (บางบริษัทสำคัญตัวเองผิดไป)
ต้องไม่ลืมว่า ธุรกิจประกันชีวิตนั้นในประเทศไทยมีบริษัทให้เลือกว่า 25 บริษัท เเละเป็นธุรกิจที่ไม่ผูกขาด นั่นคือมีการเเข่งขัน บริษัทไหน ไม่พํฒนา บริษัทไหนมีนโยบายที่เป็นปฏิปักษ์กับคู่ค้า (ลูกค้า ,ตัวเเทน) ย่อมต้องพบกับความล้มเหลวในที่สุด

ล่าสุด ข่าววงในพบว่า
สถานการณ์ของกรุงเทพประกันชีวิต ขณะนี้ ( ปี 2012 ) ที่สำนักงานใหญ่ มีคนสมัครสอบเพียง 11 คน ขาดสอบ 4 คน ไม่ผ่าน 4 คน หลุดมาได้ 3 คน
จากเมื่อก่อนสอบกันทีเป็นร้อยๆคน มันเกิดอะไรขึ้นกับ BLA (bangkok life assurance , กรุงเทพประกันชีวิต)
วันนี้คนเข้าเดือนนึงไม่ถึงสิบ แต่ลาออกเป็นร้อย
วันนี้สโลแกน ที่ว่า "มั่นคง อบอุ่น ให้คุณมั่นใจ" มันเป็นอย่างนั้นจริงๆหรือเปล่า สำหรับตัวเเทน
ที่เเน่ๆ ณ เวลานี้ บริษัทกรุงเทพประกันชีวิต หันไปทุ่มตลาดแบงก์แอสชัวรันส์แล้ว ด้วยเบี้ยประกันที่มากกว่า ผลงานของตัวเเทนหลายเหล่าตัว

จึงเป็นที่เเน่ชัดว่า ทิศทางบริษัทกรุงเทพประกันชีวิตนั้น ปัจจุบันได้เปลี่ยนไปเเล้วจาก ช่องทางการขายเดิม คือ ตัวเเทน ไปเป็น ช่องทางธนาคาร
อนิจจัง ไหนว่ากันว่า งานขายประกันเป็นเหมือนเจ้าของธุรกิจ

;D



INSURANCETHAI.NET
Line+