ผู้บริหารคิวบีอีประกันภัยเข้าพบคปภ.ชี้แจงปมร่อนจม.ถึงคู่ค้าจนสะพัดโซเชียลมีเดีย

ผู้บริหารคิวบีอีประกันภัยเข้าพบคปภ.ชี้แจงปมร่อนจม.ถึงคู่ค้าจนสะพัดโลกโซเชียลมีเดีย

ในโลกโซเชียลมีเดียได้มีการแพร่สะพัดของจดหมายเวียนถึงคู่ค่าธุรกิจของบริษัทคิวบีอีประกันภัย(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)ส่ง ต่อๆกันในแวดวงบริษัทประกันภัย ไม่เว้นแม้แต่สำนักงานคปภ. ก็ได้รับ โดยเป็นจดหมายระบุลงวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ.2560 ซึ่งลงนามโดยนายเชน ไมเคิล ชไนเดอร์ กรรมการและผู้จัดการทั่วไปของ บมจ.คิวบีอี ประกันภัย(ประเทศไทย) มีไปถึงคู่ค้าธุรกิจ โดยชี้แจงถึงความจำนงของกลุ่มคิวบีอีมีการตัดสินใจในเชิงกลยุทธ์ที่จะขายธุรกิจในประเทศไทย ทำให้เป็นที่คาใจและวิพากษ์วิจารณ์กันแพร่หลายในแวดวงประกันภัยอยู่นานหลายวันทีเดียวว่า จดหมายดังกล่าวเป็นของจริงหรือไม่

ล่าสุด มีรายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.)แจ้งเข้ามาว่า ทางผู้บริหารบมจ.คิวบีอีฯได้เดินทางเข้ามาชี้แจงกับทางคปภ.แล้วเมื่อวันอังคารที่ 22 สิงหาคม 2560 ที่ผ่านมา ซึ่งทางดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคปภ.ได้ให้ผู้ช่วยเลขาฯคปภ.ทั้ง 3 สายคือ
- สายกฎหมาย
- สายวิเคราะห์และตรวจสอบ
- สายกำกับและลงทุนได้พูดคุยและรับฟังคำชี้แจง

“บรรยากาศการพูดคุยไม่ได้เป็นลักษณะซีเรียสแต่อย่างใด ทางผู้บริหารบมจ.คิวบีอีฯก็มาชี้แจงให้เราทราบว่า เขามีเจตจำนงอย่างงี้ เพียงแต่ต้องการหาพาร์ทเนอร์มาซื้อ จึงจำเป็นต้องมีกระบวนการแจ้งสื่อสารให้กับทั้งโบรกเกอร์และคู่ค้าได้รับทราบและเข้าใจตรงกัน ซึ่งทางคปภ.ก็บอกพร้อมกับแนะนำไปว่า สิ่งที่บริษัทต้องทำมีอะไรบ้าง ในขั้นตอนหรือกระบวนการตามกฎหมายของคปภ. ซึ่งทางผู้บริหารบริษัทก็รับทราบ โดยมีที่ปรึกษาของบริษัทได้รับฟังและร่วมหารือกับทางเราจนเข้าใจดีแล้ว”แหล่งข่าวคปภ. กล่าว

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาฯคปภ. กล่าวยืนยันว่า ทางผู้บริหารบมจ.คิวบีอีฯเข้ามาพบและชี้แจงให้ทางคปภ.ได้รับทราบแล้ว โดยคปภ.ขอยืนยันว่า บริษัทไม่ได้มีปัญหาเรื่องฐานะการเงิน หรือได้ถูกคำสั่งให้ปิดกิจการแต่ประการใด เพราะฉะนั้นขอให้ประชาชนได้สบายใจและโปรดอย่าวิตกกังวลแต่อย่างใด โดยบริษัทคิวบีอีประกันภัยฯไม่ได้ละเลยลูกค้า ยังดูแลรับผิดชอบลูกค้าเก่าอยู่ เพียงแต่ไม่ขยายรับประกันลูกค้าใหม่ โดยทางผู้บริหารได้ชี้แจงให้คปภ.รับทราบสาเหตุที่จะขายธุรกิจก็เพราะว่า ประเทศไทยอาจจะไม่เหมาะสำหรับธุรกิจของเขา จึงได้ตัดสินใจเข้าสู่กระบวนการหาผุ้สนใจเข้ามาซื้อธุรกิจแล้วเดินหน้าต่อไป โดยทางกลุ่มคิวบีอีอาจจะเห็นว่าที่อื่นอาจจะทำกำไรให้กลุ่มของเขามากกว่า จึงอยากนำเงินไปลงทุนที่อื่น