ปฏิวัติวงการลงทุน ETF ตัวแรกที่ใช้ AI สามารถชนะดัชนี S&P 500 ได้
1378
ปฏิวัติวงการลงทุน ETF ตัวแรกที่ใช้ AI สามารถชนะดัชนี S&P 500 ได้
ปฏิวัติวงการลงทุน ETF ตัวแรกที่ใช้ AI สามารถชนะดัชนี S&P 500 ได้ อาจได้ยิน AI (Artificial Intelligence) จะเข้ามาปฏิวัติวงการลงทุนแทนมนุษย์ แต่ก็ยังไม่มีผลิตภัณฑ์ออกมาเป็นรูปเป็นร่างเท่าไหร่ หรือไม่ก็ใช้กันในภายองค์กรอย่างวาณิชธนกิจเท่านั้น ตอนนี้เราได้ ETF (กองทุนเปิดที่จดทะเบียนและซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์) ตัวใหม่ที่มี AI ทำงานให้อย่างแน่นอนแล้ว แถมผลตอบแทนนั้นดีมากๆด้วย โดย ETF ตัวดังกล่าวชื่อว่า AI Powered Equity ETF โดยตัวย่อสำหรับซื้อขายชื่อว่า AIEQ โดย ETF ตัวนี้เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยบริษัทที่สร้างตัว ETF ตัวนี้นั้นชื่อว่า EquBot โดยร่วมมือกับ ETF Managers Group ซึ่งเป็นผู้อำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ เบื้องหลังของ ETF ตัวนี้คือ IBM Watson โดยทาง EquBot ได้ว่าจ้าง IBM เพื่อที่จะนำโมเดลการลงทุนที่ออกแบบไว้ไปใช้งานในระบบของ IBM Watson อนึ่งทาง EquBot นั้นเป็น Startup สาย FinTech ในโปรแกรมของ IBM Global Entrepreneur ด้วย ฉะนั้นการใช้ IBM Watson ของ EquBot นั้นเป็นเรื่องสะดวกมากยิ่งขึ้นไปอีก โมเดลการลงทุนของ AI ตัวนี้เป็นยังไงบ้าง โมเดลการลงทุนของเจ้า ETF ตัวนี้คือระบบจะหาหุ้นและ REIT (ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์) ที่จะลงทุนในแต่ละวันจากตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกาทั้งสองตลาดกว่า 6,000 หลักทรัพย์ เงื่อนไขดูว่าบริษัทที่จะลงทุนนั้นมีความเป็นไปได้ที่จะเกี่ยวข้องหรือได้ผลประโยชน์กับเศรษฐกิจในช่วงนั้นหรือไม่ เทรนด์ต่างๆ เช่นบริษัทมีเหตุการณ์อะไรพิเศษหรือเปล่า มีกำไรพิเศษหรือไม่แล้วนำผลลัพธ์คือหุ้นที่เลือกลงทุนใส่เข้ามาใน ETF โดยหุ้นที่เลือกมาจะมีประมาณ 30-70 ตัว ลงทุนในหุ้นหรือ REIT ที่เลือกมาแต่ละตัวจะสูงสุดแค่ 10% หลังจากนั้นจะมีการ Rebalance ตัว ETF โดยมนุษย์อีกรอบ โดยทาง ETF Managers Group ผลงาน 3 วันหลังเปิดตัว เอาชนะดัชนี S&P 500 แบบใสๆ ผลตอบแทน 2 วันหลังจากเปิดตัว ETF ตัวนี้คือ 0.8% เอาชนะดัชนี S&P 500 ที่มีผลตอบแทน 0.32% รวมไปถึงชนะดัชนี NASDAQ ที่มีผลตอบแทนสองวันที่ 0.1% โดย Michael Hartnett นักวิเคราะห์กลยุทธ์การลงทุนชื่อดังของ Bank Of America Merrill Lynch Global Research กล่าวว่า ETF ตัวนี้มาได้ถูกเวลามากๆ โดยเฉพาะอาทิตย์ที่เปิดตัว ETF ตัวนี้เงินได้ไหลเข้า ETF สูงสุดในรอบ 38 สัปดาห์ และจนถึงตอนนี้ ETF ตัวนี้ก็ยังชนะดัชนี S&P 500 ได้ นักลงทุนในสหรัฐสามารถเข้าถึงการลงทุนโดย AI ได้ง่ายยิ่งขึ้น ปกติการลงทุนผ่านกองทุนที่มี AI (หรือโฆษณาว่ามี AI ซึ่งใช้จริงๆ หรือเปล่าอีกเรื่อง) นั้นส่วนใหญ่จะต้องใช้เงินจำนวนมหาศาล อย่างที่ไทยของเรามีบริษัทหลักทรัพย์เจ้าหนึ่งเปิดตัวแต่ต้องใช้เงินจำนวนหลักล้านบาทขึ้นไป ซึ่งเป็นข้อจำกัดของรายย่อย ซึ่งในสหรัฐอเมริกาเพียงแค่เราซื้อ ETF ตัวนี้ ก็สามารถมี AI ช่วยเราในการลงทุนได้ และค่าธรรมเนียมบริหารของ ETF ตัวนี้คือ 0.75% ต่อปี ซึ่งถือว่าพอรับได้ ตอนนี้ได้แต่หวังและภาวนาว่าบริษัทหลักทรัพย์ในประเทศไทยจะทำ ETF ประเภทนี้ออกมาตอบโจทย์นักลงทุนชาวไทย ที่มา – Business Insider, Bloomberg
INSURANCETHAI.NET