ดีกว่าเดิม เริ่มล้าสมัย ..วันนี้ต้องดีกว่า 10 เท่า
1417

ดีกว่าเดิม เริ่มล้าสมัย ..วันนี้ต้องดีกว่า 10 เท่า

โจทย์ท้าทายเศรษฐีหน้าใหม่ ‘ดีกว่าเดิม เริ่มล้าสมัย’ ..วันนี้ต้องดีกว่า 10 เท่า ..แล้วเราจะเริ่มคิดอย่างไร ?

‘เราจะอยู่ในอย่างไร ในโลกของยักษ์ใหญ่ และ Disrupt Business อย่าง Amazon’

ทุกคนวันนี้หลักการทำธุรกิจยุคใหม่ ก็คือ สร้างธุรกิจให้ Disrupt ..แปลแบบบ้านๆ ก็ คือ ‘จะฆ่าธุรกิจเดิมอย่างไร ?’ - ฟังเหมือนสงครามเลย แต่จริงๆ ไม่ใช่

ถ้าเรามาแกะวิธีคิดของ เจ้าของ Amazon อย่าง Jeff Bezos จะพบเลยว่า ...ธุรกิจในโลกยุคนี้ มันวางอยู่บนพื้นฐานที่ง่ายมากๆ เลย

ก็คือ Amazon มีหลักการง่ายๆ 3 ข้อคือ

1. ขายสินค้าให้ถูกที่สุด
2. ส่งสินค้าให้เร็วที่สุด
3. มีตัวเลือกของสินค้าหลากหลายที่สุด

คำว่า Disrupt ในความหมายที่ Jeff Bazos อธิบายก็คือ ‘Customer Adoption’ ...ลูกค้ายอมรับและใช้ - นี่คือ Disrupt ของจริง !!

เพราะมันไม่มีประโยชน์เลยที่จะทำธุรกิจด้วย Technology ที่สุดล้ำ สินค้าที่สุดไฮเทค แต่ถ้าลูกค้า ไม่ใช้ ไม่ยอมรับ ก็จบ

ดังนั้น โจทย์ที่สำคัญของธุรกิจตั้งแต่อดีตจนถึงอนาคต ก็ยังคงเหมือนเดิม นั่นคือ การทำสินค้าและบริการที่คนใช้ ...และหลักๆ ก็คือ สินค้าและบริการนั่นต้อง แก้ปัญหาอะไรบางอย่าง หรือ สร้างประโยชน์อะไรบางอย่าง

ซึ่ง ‘แก้ปัญหา’ และ ‘การสร้างประโยชน์’ ที่พูดถึง ต้องคุ้มค่า ให้ลูกค้าเปลี่ยนมาใช้

เพราะถ้าคิดให้ดี ก่อนที่จะเกิดธุรกิจใหม่ สินค้าใหม่ ..ลูกค้าต้องเคยใช้สินค้าเดิมอยู่แล้ว

ยกตัวอย่าง มือถือ มันมีอยู่แล้ว ..แต่การที่คนเปลี่ยนจากมือถือธรรมดา มาใช้ Smartphone เพราะมันดีกว่า คุ้มกว่า

คนเดินช็อปปิ้งอยู่แล้วที่ร้าน จะให้เปลี่ยนมาซื้อออนไลน์ ต้องคุ้มกว่า

อย่างเราคุยกันว่า ต่อไปคนจะเปลี่ยนรถยนต์จากใช้น้ำมัน ไปใช้รถไฟฟ้า ..ขึ้นอยู่กับ ไฟฟ้าต้องดีกว่า คุ้มกว่า

ถ้าเราเคยอ่านหนังสือ Zero to One ของ Peter Thiel เขาชี้ชัดเข้าไปอีกว่า ‘การที่คนจะยอมทิ้งสิ่งเก่า แล้วเปลี่ยนไปใช้สิ่งใหม่ ...สิ่งนั้นต้องดีกว่าเดิม 10 เท่า’

ใช่!! 10 เท่า คือ ดีกว่าอย่างชัดเจน ..

คนเลิกใช้รถม้า มาใช้รถยนต์ เพราะมันดีกว่า สะดวกกว่า อย่างชัดเจน

มาดูรอบๆ ตัว เราต้องมาสำรวจว่า อะไรบ้างที่ดีกว่าเดิม 10 เท่า เพราะนั่นจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่

ผมจำได้ ช่วงที่ Smartphone ออกมาใหม่ๆ มันห่วยมาก ..ตอนนั้นคนส่วนใหญ่ก็ยังคงเลือกใช้มือถือแบบเดิม ..แต่พอ iPhone มานั่นแหละ ที่มันเปลี่ยนทั้งอุตสาหกรรม จากมือถือมีปุ่ม กลายเป็นไร้ปุ่ม ดังนั้น จุด Tipping Point ของมือถืออยู่ที่ iPhone

ที่ยกเรื่องนี้ขึ้นมาเล่า ก็เพราะ ทุกวันนี้เรากำลัง ถึงจุด Tipping Point ของการเปลี่ยนแปลงของเกือบทุกอุตสาหกรรม

..สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ เศรษฐีใหม่ นักธุรกิจใหม่ จะเกิดขึ้นจำนวนมาก ...และเกิดจากใครก็ตามที่เข้าใจ และ สร้างจุด Tipping Point ของการเปลี่ยนแปลงในแต่ละอุตสาหกรรม

แน่นอน !! ถ้าคุณจะขายสินค้า คุณจะคิดแบบ Amazon ไม่ได้ ที่ ‘ถูก - ส่งเร็ว - ตัวเลือกมาก’ ..เพราะเขายึดหัวหาดไปแล้ว

....คนที่จะเป็น Amazon คนต่อไป ก็ต้อง เป็นอะไรก็ได้ที่ Amazon ทำไม่ได้ เช่น ‘แพง - Slow Life - ห้ามเลือก’ ก็มีคนทำแล้ว พวก ร้านอาหารญี่ปุ่นแบบ Omakase หรือ Luxury ก็ทำแล้ว

ใช่ คิดเร็วๆ เหมือนจะไม่มี แต่เชื่อเถอะว่า โอกาสหรือธุรกิจที่เราคิดว่าไม่มี มันก็เปลี่ยนตลอดเวลา ...สิ่งใหม่ ก็จะมาแทนสิ่งเก่า ไปเรื่อยๆ ...ดังนั้น ทำการบ้านให้เยอะขึ้น

ลองตอบคำถามนี้ซิว่า ในจุดที่คุณอยู่ ในงานที่คุณทำ อะไรที่กำลังจะเปลี่ยนแปลง 10 เท่า สิ่งนั้นแหละคือ โอกาสทองของยุคนี้นั่นเอง

#ภาววิทย์กลิ่นประทุม



INSURANCETHAI.NET
Line+