ธนสินประกันภัย + สัมพันธ์ประกันภัย (2011)

ธนสินประกันภัย + สัมพันธ์ประกันภัย

จันทรา บูรณฤกษ์” สุดมึน พฤติกรรมธนสินประกันภัย แม้จะส่งเช็คเงินสดจำนวน 200 ล้านบาทให้กรมการประกันภัยตรวจเช็ค แต่กลับลงวันสั่งจ่ายวันที่ 22 มิ.ย. เพื่อยืดเวลา ย้ำหากเจอเช็คเด้ง ไม่ครบตามจำนวน เตรียมขออนุมัติถอนใบอนุญาตทันที พร้อมจี้บริษัท สัมพันธ์ประกันภัย พบขาดสภาพคล่องทางการเงินสูงถึงนับพันล้านบาท หากพ้น มิ.ย.นี้ ไม่ดำเนินการ สั่งฟันตามกฎหมาย

นางจันทรา บูรณฤกษ์ อธิบดีกรมการประกันภัย เปิดเผยว่า ทางกรมการประกันภัยอยู่ระหว่างการตรวจสอบเช็คเงินสดที่ทางบริษัท ธนสินประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้ส่งให้กรมฯ จำนวน 10 ใบ ใบละ 20 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 200 ล้านบาท ที่บริษัท ทวี บิลดิ้ง แอนด์ คอนสตรักชั่น ผู้ถือหุ้นรายใหม่ของธนสินประกันภัย สั่งจ่ายลงวันที่ 22 มิถุนายนนี้ เพื่อใช้ในการเพิ่มเงินกองทุนและจ่ายหนี้ค้างสินไหมทดแทน หากผลการตรวจเช็คเงินสดไม่มีเงินจริง กรมฯ ก็จะขอความเห็นชอบต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อขออนุมัติยึดใบอนุญาตการประกอบกิจการประกันภัย ตามประกาศคำสั่งนายทะเบียนทันที

ทั้งนี้ กรมฯ ได้กำหนดครั้งสุดท้ายให้บริษัทฯ ต้องเพิ่มเงินเข้ากองทุนให้ครบ 200 ล้านบาท ภายในวันที่ 20 มิถุนายน ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ถือหุ้นได้จัดส่งสลิปเช็คสั่งจ่ายมายืนยันต่อกรมฯ แต่ได้ลงวันที่สั่งจ่ายเป็นวันที่ 22 มิถุนายนนี้ ดังนั้น กรมฯ จำเป็นต้องเร่งดำเนินการตรวจสอบเป็นการเร่งด่วน คาดว่าจะรู้ผลเช็คทั้งหมดภายในวันพรุ่งนี้ (22 มิ.ย.) หากไม่มีเงินสดตามที่ได้ระบุไว้ กรมฯ จะไม่ต่อเวลาให้กับบริษัท ธนสินฯ อีกแล้ว และหากมีคำสั่งให้เพิกถอนใบอนุญาตการประกอบกิจการของธนสินประกันภัยแล้ว กรมฯ จะต้องดำเนินการ เพื่อรองรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับผู้เอาประกันของบริษัทฯ โดยให้สมาคมประกันวินาศภัย รับช่วงต่อลูกค้าที่กรมธรรม์ยังไม่หมดอายุ ซึ่งมีประมาณ 21,000 กรมธรรม์ พร้อมตั้งคณะกรรมการชำระบัญชีดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สินของธนสินประกันภัย เพื่อชำระหนี้ให้กับผู้เอาประกันภัยที่เหลือค้างชำระอีก 700 ราย ประมาณ 90 ล้านบาท อู่ในเครือของบริษัทฯ รวมทั้งอู่กลางที่รับซ่อมรถยนต์ให้กับธนสินประกันภัย

นอกจากนี้ กรมการประกันภัยอยู่ระหว่างตรวจสอบสภาพคล่องของบริษัท สัมพันธ์ประกันภัย จำกัด ที่มีปัญหาขาดสภาพคล่อง และประวิงการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้เอาประกันในช่วงที่ผ่านมานั้น ซึ่งกรมฯ ได้ให้เวลากับทางบริษัทฯ ถึงสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อนำเงินสดประมาณ 1,000 ล้านบาท สำหรับดำรงเงินในกองทุนตามกฎหมาย และเพิ่มสภาพคล่องการบริหารงานบริษัทฯ และแจ้งว่าได้มีผู้สนใจเข้าถือหุ้นในบริษัทฯ 4 ราย ซึ่งหากไม่ดำเนินการตามเวลาที่แจ้งไว้กับกรมฯ ก็จะเข้ากระบวนการดำเนินการตามกฎหมาย และอาจถึงขั้นยึดใบอนุญาต

อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากบุคคลที่จะเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนของสัมพันธ์ประกันภัย จะมีความเป็นมืออาชีพ และแสดงความจริงใจต่อการแก้ไขปัญหาและดำเนินการให้ธุรกิจดำเนินการต่อไปได้ ไม่เหมือนธนสินประกันภัย หลอกไปหลอกมาว่าจะมีบุคคลมาซื้อกิจการ และโยกโย้ต่อการทำแผนธุรกิจที่แจ้งไว้กับกรมฯ เชื่อว่าสัมพันธ์ฯ ไม่น่าจะมีปัญหาอย่างเดียวกัน