ผัก-ผลไม้ลดเสี่ยงมะเร็ง

ผัก-ผลไม้ลดเสี่ยงมะเร็ง

กระทรวงสาธารณสุข เผยข้อมูลน่าตกใจว่า คนไทยกินผักผลไม้น้อยมาก เฉลี่ยเพียงคนละ 275 กรัม หรือแค่ 2 ขีดกว่าๆ เท่านั้นในขณะที่ตามมาตรฐานสากลกำหนดการกินผักผลไม้ที่ให้ประโยชน์และ ป้องกันโรคได้ อย่างน้อยต้องไม่ต่ำกว่าวันละ 400 กรัม หรือ 4 ขีด ประมาณ 5 ทัพพี

ที่สำคัญผลไม้สดๆ ของไทยมีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีวิตามินแร่ธาตุที่สร้างภูมิคุ้มกันโรค และมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดภาวะเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง หากกินผัก,ผลไม้สดวันละ 500 กรัม เป็นประจำ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งที่อวัยวะต่างๆ ได้ 20%

การรณรงค์ให้คนไทยดื่มน้ำผลไม้เป็นเพียงการปรับพฤติกรรมจากการเคยดื่มน้ำ เปล่าไปดื่มน้ำผลไม้เท่านั้น และเมื่อวิเคราะห์ถึงผลที่จะได้ต่อสุขภาพที่จะทำให้สุขภาพดีจากน้ำผลไม้ นับว่ามีประโยชน์น้อยกว่ากินผลไม้สด

การแปรรูปผลไม้ที่เหลือจากการกินสดเพื่อเป็นน้ำผลไม้นั้น ควรส่งเสริมเพื่อส่งออกไปยังประเทศที่มีวัฒนธรรม และค่านิยมดื่มน้ำผลไม้แทนน้ำเปล่า

การกินส้มเขียวหวานสด 2 ผล ให้วิตามินซี 42 มก. ให้เบต้าแคโรทีน 82 มก. และใยอาหาร 1.3 กรัม แต่หากกินน้ำส้มคั้น 1 แก้ว จะให้วิตามินซีเพียง 26 มก. ส่วนเบต้าแคโรทีนและใยอาหารมีน้อยมากหรือเกือบไม่พบเลย เพราะได้แยกส่วนกากออกไปแล้ว ส่วนสับปะรดหากกิน 10 ชิ้นพอคำ ให้วิตามินซี 22 มก. แคลเซียม 17 มก. โพแทสเซียม 119 มก. และใยอาหาร 1.2 กรัม หากเป็นน้ำสับปะรด 1 แก้ว มีวิตามินซี 8 มก. แคลเซียม 13 มก.ไม่พบใยอาหารและโพแทสเซียมเลย ร่างกายจะไม่ได้ใยอาหารที่มีประโยชน์ในการช่วยขับถ่ายและขับไขมันคอเลสเตอร อลออกจากร่างกาย

จึงขอแนะนำให้คนไทยใส่ใจกินผลไม้สดตามฤดูกาลให้มากขึ้น และน้ำดื่มที่ดีที่สุดต่อสุขภาพคือ น้ำเปล่าที่สะอาด วันหนึ่งควรดื่มประมาณ 8-10 แก้ว ก็จะเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
แหล่งข่าว : หนังสือพิมพ์มติชน