สิ่งที่ควรรับประทานอย่างยิ่ง

สิ่งที่ควรรับประทานอย่างยิ่ง

ให้ทานผัก-ผลไม้ 5 สี โดยจากผลการวิจัยศึกษาค้นคว้าของ อ.สุรัตน์วดี จิวะจินดา แห่งศูนย์ปฎิบัติการวิจัย และ เรือนปลูกพืชทดลองมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน นครปฐม ได้นำพืชผักกว่า 100 ชนิด มาทดลองวิจัยซึ่งผลการวิจัยปรากฎว่า พืชสมุนไพรไทยกว่า 90 ชนิด มีผลยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง ไม่ให้เซลล์มะเร็งลุกลามขยายตัว (แต่ไม่ใช้กินเข้าไปแล้วจะหายจากโรคมะเร็ง) โดยทาง อ.สุรัตน์วดีได้แบ่งความสามารถของการต้านเซลล์มะเร็งของพืชผักไว้ 4 กลุ่ม ดังต่อไปนี้

- ประเภทที่1 ผักที่มีฤทธิ์การต้านทานการลุกลามของเซลล์มะเร็ง 30% ได้แก่ แครอท, ผักกูด, ยอดผักปลัง, ผักกาดแก้ว, กะหล่ำปลี, กะหล่ำม่วง, บวบงู, มะระจีน, สะตอ, ลูกเหนียง, ถั่วพู, กุยช่าย, หน่อไม้ฝรั่ง, สายบัว, พริก, มันฝรั่ง, ดอกโสน, หอมแดง, หอมหัวใหญ่, ต้นกระเทียม, ดอกกระเจี๊ยบ, มะกอก, เผือก, แตงโม, เห็ดหอม, เห็ดลม, เห็ดนางฟ้า

- ประเภทที่2 ผักที่มีฤทธิ์การต้านทานการลุกลามของเซลล์มะเร็ง 30-50% ได้แก่ ผักบุ้ง, บวบหอม, มะดัน, ขี้เหล็ก, เมล็ดกฐิน, มะขาม, มะขามเทศ, มะเดื่อ, มะเขือม่วง, มะเขือเทศ, มะเขือยาว, มะเขือพวง, มะอึก, กระเจี๊ยบมอญ

- ประเภทที่3 ผักที่มีฤทธิ์การต้านทานการลุกลามของเซลล์มะเร็ง 50-70% ได้แก่ หัวไชเท้า, ฟัก, สะระแหน่, ขี้เหล็ก(ดอก) , ยอดสะเดา(สด) , หยวกกล้วย, พริกหยวก, ผักชีลาว, ขิงอ่อน

- ประเภทที่4 ผักที่มีฤทธิ์การต้านทานการลุกลามของเซลล์มะเร็ง 70% เซลล์มะเร็งที่เคยขยายตัวได้ถึง 100% เมื่อเจอผักพวกนี้ไปจะทำให้การเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งลดลงถึง 30% ได้แก่ ผักขี้ขวง, (สะเดาดิน), ผักโขมหัด, มะระขี้นก, ใบมะม่วง, เพกา(มะริดไม้), ตังโอ๋, ดอกแก้วเมืองจีน, แขนงกะหล่ำ, ปีแช, ตะไคร้, ชะมวง, โหระพา, ใบยี่หร่า, แมงลัก, ถั่วลันเตา, แคบ้าน, ผักแว่น, ยอดสะเดา, พริกไทย, มะกรูด, มะแขว่น, ชะพลู, ใบพลู, ผักไผ่(ผักแผว), ใบยอ, ผักคาวทอง(พูลดาว), ผักแขยง, ขื่นฉ่าย, ใบบัวบก, ผักชี, ผักชีฝรั่ง, หอมแย้, กระชาย, ข่า, ขิงแก่
* จะเห็นได้ว่าผักพื้นบ้านไทย และ สมุนไพรไทยมีฤทธืต้านมะเร็งสูงกว่าพืชผักฝรั่ง เช่น แครอท, หน่อไม้ฝรั่ง, ผักกาดแก้ว, กะหล่ำปลี, หอมหัวใหญ่, และ มันฝรั่ง

1.ให้รับประทานธัญพืชรวม(Cereals) อันประกอบด้วย ข้าวซ้อมมือ ข้าวกล้อง ข้าวเหนียวดำ ข้าวบาร์เล่ย์ ข้าวโอ๊ต ข้าวบัควีต ข้าวสาลี ถั่วแดง ถั่วดำ ลูกเดือย เม็ดบัว งาดำ จมูกข้าวโพด ข้าวมอลต์ (ให้หลีกเลี่ยงการรับประทานถั่วลิสง ป้องกันการปนเปื้อนของ Aflatoxin) ให้นำเมล็ดธัญพืชไปต้มตุ๋นจนเปลื่อยแล้วนำน้ำมาดื่ม และ นำกากที่ได้ใส่เครื่องปั่น เหยาะซอสแมกกี้เพิ่มรสชาติ ผสมน้ำธัญพืชแล้วดื่มกิน จะเป็นประโยชน์ต่อร่างกายเพิ่มภูมิต้านทาน, เสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง, ช่วยในกระบวนการสร้างเม็ดเลือดขาว, เม็ดเลือดแดง, เกล็ดเลือด, และ T-cells

2.ให้ทานน้ำปั่น(น้ำเอนไซม์) ซึ่งประกอบด้วยแอปเปิ้ลเขียว, ฝรั่งปลอดสารพิษ, ข้าวโพดหวานดิบ, ใบแป๊ะตำปึง(ชาขนไก่ทองคำ), ว่านง้อก(ว่านพญาวานร), หญ้าปักกิ่ง, มะระขี้นก, ใบบัวบก, ใบยอ, ใบย่านาง, ผลไม้ตามฤดูกาลเพื่อแต่งรส เช่น ชมพู่, มะเฟือง, ทับทิม, สาลี่, ส้มโอ ไม่จำเป็นต้องทานทุกอย่างสะดวกทานอะไรก็ได้ แยกกากเสร็จแล้วควรทานทันที เพราะถ้าทิ้งไว้เอนไซม์จะเสื่อมสลาย ทานแล้วจะร่างกายแข็งแรง, เสริมภูมิต้านทาน, และ มีฤทธิ์ต้านมะเร็ง

3.ให้ทานมะเขือเทศ กระเทียม และ หัวหอม สาหร่ายทะเล เห็ดหอม ปลา และ เต้าหู้ เป็นประจำ ใน
- มะเขือเทศมีสารไลโคปีน(Lycopene) ซึ่งมีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ พบว่า มะเขือเทศช่วยชะลอการกระจายของมะเร็งต่อมลูกหมาก
- กระเทียม / หัวหอม จะให้สารประกอบแอลเลียม(Allium) และ Diarylsulfide ซึ่งจะไปเพิ่มปริมาณเอ็นไซม์ Glutathione-s-transferase ซึ่งมีหน้าที่ในการกำจัด และ ทำลายสารพิษในร่างกาย
- ซิลีเนียม(Selenium) พบมากในสาหร่ายทะเล เห็ดหอม เนื้อปลา และ ในเต้าหู้ ซิลีเนียมจะช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก