ถอดรหัสพันธุกรรมมนุษย์

ถอดรหัสพันธุกรรมมนุษย์
จุดเริ่มต้นความฝันอันสูงสุดของมนุษย์ คือการคาดหวังที่จะมีชีวิตยืนยาวและแข็งแรง อีกทั้งสามารถพิชิตโรคร้าย ด้วยการผ่านอำนาจของพันธุกรรมศาสตร์และ DNA ทั่วร่างกายของเราทุกคนมีรหัสชีวิตหนึ่งเดียวที่เรียกว่า DNA ซึ่งมันเป็นตัวกำหนดการมีตัวตนของเราจากนาทีที่เกิดจนถึงนาทีที่หมดลมหายใจ ซึ่งโอกาสที่เราจะอายุยืน แข็งแรงและมีชีวิตที่ปราศจากโรคภัย มันมาพร้อมกับการถอดรหัสพันธุกรรมนี้

การป้องกันโรคร้ายเป็นความฝันด้านการแพทย์มานาน และพันธุกรรมศาสตร์อาจทำให้ฝันนั้นกลายเป็นจริง พวกเขาหวังว่าเด็กๆ ทุกคนที่เกิดตอนนี้ เมื่อถึงเวลาที่พวกเขาเติบโตเราจะสามารถอ่านส่วนประกอบด้านพันธุกรรมทุกส่วนของเด็กเหล่านั้นได้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากโรคร้ายที่สำคัญให้พวกเขา มันเป็นการเตือนภัยล่วงหน้าเพื่อเตรียมตัวรับมือ

ในด้านการวิจัยทางการแพทย์ การฉีดสเตมเซลล์เข้าไปในผู้ป่วย เพื่อซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกาย ยกตัวอย่างเช่นถ้าหัวใจวาย มันจะซ่อมแซมเนื้อเยื่อหัวใจ ถ้าเป็นอัมพฤกษ์จะซ่อมแซมเนื้อเยื่อสมอง ซึ่ง “สเต็มเซลล์ (Stem cell)” หรือที่เรียกย่อกันในปัจจุบันว่า ES cell (Embryonic stem cell) คือเซลล์ต้นกำเนิด ที่สามารถเป็นแหล่งสร้างเซลล์ของลูกหลานได้ โดย ES cellของ มนุษย์จะเป็นเซลล์ต้นแบบที่จะเพิ่มจำนวนและเปลี่ยนแปลงไปเป็นอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย

ประโยชน์ที่สำคัญคือนำมาใช้ในการรักษาผู้ป่วย โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะเพาะเลี้ยง ES cell ของ มนุษย์และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นอวัยวะแต่ละส่วน จากนั้นจึงจะนำมาใช้เป็นอวัยวะทดแทนให้กับผู้ป่วย แทนการใช้อวัยวะที่ได้มาจากการบริจาคในปัจจุบัน

อย่างอวัยวะที่ไม่มีสเต็มเซลล์ของตัวเอง เช่นหัวใจ หัวใจที่ตายหรือเสียหายไม่อาจฟื้นฟูใหม่ได้ แต่สเต็มเซลล์จากอีกส่วนของร่างกายจะเลียนแบบในการสร้างเซลล์หัวใจใหม่ได้ โดยมันจะช่วยให้การไหลของเลือดไปที่หัวใจดีขึ้นและปรับปรุงการทำงานของหัวใจที่ล้มเหลว ผู้ป่วยด้วยโรคหัวใจบางรายจะใช้สเต็มเซลล์ในไขกระดูกและถูกดูดออกโดยใช้เข็มฉีดยา เพื่อกรองและแยกเซลล์อื่นๆ ออกจากนั้นมันจะถูกฉีดเข้าไปในหัวใจที่อ่อนแรงระหว่างเนื้อเยื่อที่ตายแล้วและยังมีชีวิตอยู่ สภาพแวดล้อมใหม่นี้จะโน้มน้าวให้สเต็มเซลล์เปลี่ยนเป็นเซลล์หัวใจใหม่สเต็มเซลล์สามารถหลั่งสารที่สำคัญหลายอย่างออกมาช่วยในการเติบโตของเส้นเลือดและยังเปลี่ยนเส้นเลือดบางส่วนให้กลายเป็นกล้ามเนื้อหัวใจ ภายใน 16 สัปดาห์ หลังจากฉีดสเต็มเซลล์เข้าไปกล้ามเนื้อหัวใจที่เคยอ่อนแอเปลี่ยนเป็นหัวใจที่ปกติ

แต่ทั้งหมดนี้ก็ยังอยู่ในขั้นทดลอง แต่กระนั้นแพทย์กำลังก้าวต่อไปกับการทดลองเพื่อยืนยันข้อมูลเพราะการซ่อมแซมหัวใจดูเหมือนจะเป็นวิธีที่วิเศษในการฟื้นฟูอวัยวะ ในอนาคตเราอาจสามารถข้ามขั้นตอนการซ่อมแซมอวัยวะของสเต็มเซลล์นี้ เป็นการสร้างหัวใจใหม่ขึ้นมาแทนก็เป็นได้