โฟลฟอกซ์ 4 หนทางรอดมะเร็งลำไส้ใหญ่

โฟลฟอกซ์ 4 หนทางรอดมะเร็งลำไส้ใหญ่

มะเร็งนับเป็นอีกโรคที่คร่าชีวิตผู้คนไปจากโลกนี้เป็นอันดับต้น ๆ จนดูเหมือนว่า ทุกวันนี้จะเป็นเรื่องปกติหากว่าใครสักคนจะป่วยเพราะโรคมะเร็ง

สหรัฐอเมริกาถือเป็นผู้นำของจำนวนผู้ป่วยโรคมะเร็งโดยเฉพาะในกลุ่มผู้ชาย โดยมีความถี่ผู้ป่วยอยู่ที่ 215-410 ต่อแสนคน ขณะที่ไทย จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ ตามมาติด ๆ

ผู้หญิงอเมริกายังคงมาเป็นอันดับหนึ่ง ตามมาด้วยญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และฟิลิปปินส์ ขณะที่หญิงไทยมีอัตราความถี่ของผู้ป่วยอยู่ที่ 105-144 ต่อแสนคนเท่านั้น

สถิติล่าสุดในปี ค.ศ. 2008 ชายไทยเป็นโรคมะเร็งตับเป็นอันดับหนึ่ง ตามมาด้วยมะเร็งปอด และมะเร็งลำไส้ใหญ่ ขณะที่ผู้หญิงมะเร็งปากมดลูกมาวิน ตามด้วยมะเร็งตับ มะเร็งเต้านม มะเร็งปอด และมะเร็งลำไส้ใหญ่

อัตราการเสียชีวิตที่ลดลงของมะเร็งลำไส้ใหญ่ ส่วนหนึ่งนอกจากจะเป็นเพราะความก้าวหน้าทางการรักษา ที่หากได้รับการผ่าตัดทันเวลาในช่วงระยะที่ 2 และ 3 ของโรคแล้ว ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้อัตราการเสียชีวิตและการกลับมาเป็นซ้ำของผู้ป่วยลดลงด้วย

“ผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะที่ 2 และ 3 ที่ได้รับการผ่าตัดแล้ว ร้อยละ 55 มีโอกาสที่จะเกิดโรคซ้ำ และหากเกิดโรคซ้ำก็มีโอกาสที่จะเสียชีวิตภายใน 5 ปี แต่ปัจจุบันการรักษาทางมะเร็งวิทยา ได้คิดค้นและค้นพบสูตรยาที่ช่วยเพิ่มโอกาสการมีชีวิตอยู่ของผู้ป่วยมะเร็งลำ ไส้ใหญ่ ระยะ 2 และ 3 ภายหลังจากการผ่าตัด” ศ.นพ.วรชัย รัตนธราธร หัวหน้าภาคมะเร็งวิทยา รพ.รามาธิบดี ระบุ

เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา วารสารทางการแพทย์ชื่อดัง เจอร์นัล ออฟ คลินิคอล ออฟ ออนโคโลจีได้ตีพิมพ์การศึกษา ชื่อ โมเสค เป็นครั้งที่สอง หลังจากก่อนหน้านี้การศึกษาชิ้นเดียวกันนี้ได้ตีพิมพ์ในวารสารนิว อิงแลนด์ เจอร์นัล ออฟ เมดิซีน ในปี ค.ศ. 2004

โมเสคเป็นการศึกษาโดยการสุ่มตัวอย่างแบบมีเงื่อนไขจำนวนกว่า 2,000 คน จากผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ที่เข้ารับการผ่า ตัดทั้งหมดในแถบยุโรป เพื่อแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของการ รักษาด้วยสูตรยาผสมระหว่างออกซาลิพลาทินและไฟว์-ฟลูโอรูราซิล พลัสลูโคโวริน ที่ทางการแพทย์เรียกสั้น ๆ ว่าสูตรโฟลฟอกซ์ 4 (FOLFOX4)

การตีพิมพ์ผลการศึกษาโมเสคอีกครั้งเพื่อยืนยันให้เห็นถึงประสิทธิภาพของยา ที่ยังคงอยู่จนถึงที่ 6 ปี ของการติดตามผล ว่าสามารถช่วยเพิ่มอัตราการมีชีวิตอยู่โดยปลอดจากโรคในปีที่ 5 หลังจากเสร็จสิ้นการรักษา มากกว่าการรักษาแบบเก่าถึงร้อยละ 7.5 และมีโอกาสอยู่รอดถึง 6 ปี มากกว่าร้อยละ 2.5

ซึ่งนั่นหมายถึงโอกาสการหายขาดจากโรคมะเร็งที่ดีขึ้นกว่าสูตรยาแบบเก่า เพราะโดยปกติแล้วการมีชีวิตอยู่โดยปลอดจากโรคที่ 5 ปี จะถือว่าหายจากโรคมะเร็ง ขณะที่ผลข้างเคียงของการรักษา พบว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ผู้ป่วยสามารถทนต่อยาได้ดี

เพื่อยืนยันว่า ผู้ป่วยชาวเอเชียจะสามารถทนต่อยาด้วยดีเหมือนคนยุโรปหรือไม่ เดือนมิถุนายน วารสารทางการแพทย์เอเชีย-แปซิฟิก ออฟ คลินิคอล ออนโคโลจี ได้ตีพิมพ์การศึกษาชื่อ เดอะ มาสคอต ซึ่งเป็นการศึกษาที่ทำในกลุ่มประเทศเอเชีย ประกอบด้วยไต้หวัน เกาหลีใต้ จีน ฮ่องกง และไทย

ผลการศึกษาพบว่า ผู้ป่วยชาวเอเชียสามารถทนต่อยาได้ดี และไม่พบผลข้างเคียงที่แตกต่างไปจากการศึกษาอื่น ๆ ซึ่งผู้ป่วยของไทยเองก็ได้ผลเช่นเดียวกัน

หัวหน้าภาคมะเร็งวิทยา รพ.รามาธิบดี ระบุว่า การให้ยาสูตรโฟลฟอกซ์ 4 ที่ว่าจะให้กับผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่หลังเข้ารับการผ่าตัด 4-8 สัปดาห์ โดยเป็นการให้ยาแบบฉีดทุก 2 สัปดาห์ตลอดระยะเวลา 6 เดือน ซึ่งผลข้างเคียงที่พบในผู้ป่วยมีเพียงอาการชาตามมือและเท้าเท่านั้น ซึ่งจะค่อย ๆ ทุเลาไปหลังการให้ยาจบลง

อัตราการเกิดโรคซ้ำที่ลดลงร้อยละ 22 หากมีการรักษาด้วยโฟลฟอกซ์ 4 อาจดูเป็นปริมาณที่ไม่มาก แต่นี่ก็เป็นอีกสัญญาณที่ดีของผู้ป่วยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ที่มีแนวโน้มว่าจะ หายขาดได้ในอนาคต แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับการดูแลสุขภาพของผู้ป่วยแต่ละคนด้วย.