10 โรค สำหรับพนักงานออฟฟิศ
605
10 โรค สำหรับพนักงานออฟฟิศ
10 โรคสำหรับพนักงานออฟฟิศ
พนักงานออฟฟิตทั้งหลายเคยรู้มั้ยคะว่ากำลังเสี่ยงต่อโรคร้ายต่างๆ มากมายนะคะ เพราะว่าชาวออฟฟิตไม่ค่อยจะได้ออกกำลังกาย ไม่ค่อยได้เดินไปไหน นั่งอยู่หน้าคอมฯ ตลอดเวลานั่นเอง
1. โรคผมร่วง
ไม่ใช่แค่ 1 แต่มันร่วงถึง 30 เส้นต่อวัน เหอะ ๆ อาการมันก็มีสาเหตุมาจากความเครียดของท่านพนักงานทั้งหลายนั่นแหละ ยิ่งเครียดยิ่งร่วง ยิ่งร่วง = = " โอยยิ่งเครียด
แต่อีกปัจจัยหนึ่งที่คุณอาจไม่เคยคิด นั่นก็คือการขาดแสงอาทิตย์
จริงหรือ ?? สังเกตหรือไม่ ส่วนใหญ่แล้วพนักงานฯจะไม่ค่อยได้รับแสงแดดในยามเข้า แดดในยามเช้าจะช่วยให้เราสังเคราะห์วิตามิน K ที่จำเป็นต่อร่างกาย รวมถึงหนังศีรษะด้วย
2. อาการปวดหัว, ไมเกรน, อัลไซเมอร์, เบลอเป็นกิจวัตร
สาเหตุ ก็คงทราบโดยทั่วไปด้วยว่าเกิดจากความเครียด ( ตัวนี้จะเจอในอีกหลาย ๆโรค - - " )
แต่สาเหตุอีกประการที่น่าสนใจคือ การรับประทาน ท่านที่มีอาการดังกล่าวทานสิ่งเหล่านี้หรือไม่
แอลกอฮอล์ คาร์เฟอีน ( กาแฟ น้ำอัดลม ยาชูกำลัง ) อาหารไขมันสูง อาหารประเภทเนื้อสัตว์ 90% ของอาหารหลัก ถึงแม้ว่าอาการอัลไซเมอร์จะเป็นอาการสมองเสื่อมโดยไม่ทราบสาเหตุ แต่สาเหตุหลัก ๆ ของอาการสมองเสื่อมอื่น ๆ ก็คือ การรับประทานอาหารดังกล่าว อีกสาเหตุหนึ่งที่น่าสนใจคือการขาดการออกกำลังกาย โดยปรกติเราต้องออกกำลังกายประมาณ 10 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เป็นอย่างน้อย
(ไม่นับการยกช้อน หรือเดินจากห้องนอนไปยังโต๊ะทานข้าว รวมทั้งการเคี้ยวอาหารและการหายใจ)
แต่พนักงานเงินเดือนเอาเวลาไหนไปออกกำลังกายล่ะ แค่ทำงานก็ฟุบแร้ว
3. อาการปวดตา น้ำตาแห้ง หน้าจอดับ เอ๊ย... เรตินาผิดปรกติ
นอกจากความเครียดแล้วก็เหตุใหญ่ ๆ ก็คือ การนั่งหน้าจอเกินวันละ 6 ชั่วโมง และการเพ่งอยู่หน้าจอในที่มืด ( ดูเวปอะไรหนอต้องเพ่งในที่มืด ) รวมทั้งการขาดวิตามิน A และ B - complex
* มีบางคนบอกว่าในพริกมีวิตามิน A เลยซดเข้าไปเป็นถ้วย ๆ เออ สายตาดี แต่กระเพาะพัง
หมายเหตุ : การอกหักบ่อย ๆ กระเทือนต่อสายตานะเอ้อ ร้องให้ตาบวมงี้หรืออินเลิฟมากไปก็ระวังตาบอดน๊า
4. อาการไซนัส เป็นหวัด คัดจมูก ภูมิแพ้
ก็วัน ๆ จำศีลอยู่แต่ในห้องปรับอากาศ ถ้าเครื่องปรับอากาศเป็นรุ่นประหยัด ประหยัดส่วนประกอบ ไม่มีตัวกรองอากาศที่มีประสิทธิ์ภาพ หรือมีแต่ในห้องเจ้านาย อาการเหล่านี้จะถามหาแน่นอน ควรออกไปสูดอากาศข้างนอก...นอก กทม.บ้างนะ ปอดน้อย ๆ จะได้ไม่พังก่อนเวลาอันควร
5. ปากเหม็น
อันเนื่องมาจาก ความเครียด แบคทีเรียจะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพในภาวะที่คุณเครียดและมีอาหาร อาหารพวก กาแฟ แอลกอฮอล์รวมทั้งการพูดจาที่น้อยกว่าปรกติ
(สำหรับบางท่านที่มีปัญหากับการสื่อสารกับมนุษย์ )ทำให้น้ำลาย...บูด... ในยามเช้า เพราะในตอนกลางคืนคงไม่มีใครอุตริพูดหรอกนะ
น้ำลายจะไม่ถูกบีบออกมาในยามที่เราไม่ได้ขยับปาก ดังนั้นปากจึงแห้ง และแบคทีเรียก็จะย่อยน้ำลาย และฟันฟางของท่าน ๆ แล้วปล่อยแก๊สออกมา อาการฟันผุก็เป็น เหตุหนึ่งที่ทำให้ปากเหม็นได้
6. อาการปวดคอ ปวดไหล่ ปวดข้อ ปวดนิ้ว
โดยมากเกิดจากอาการนั่งทำงานผิดท่าทางนั่งเก้าอี้โต๊ะที่ไม่รองรับต่อการทำงาน หรือถูกภรรยาที่บ้านซ้อม แต่ท่านรู้หรือไม่ แม้ท่านนั่งถูกท่าแล้ว แต่หากนั่งเป็นเวลานาน ๆก็เมื่อย
7. อาการ....อ้วน
นึกถึงลูกโป่ง ถ้าเราใส่น้ำเข้าไปโดยเจาะรูให้มันออกน้อย ๆ มันก็บวมขึ้น ๆ ๆ ๆ เช่นกัน ทุกวันเรากินอาหารอย่างน้อย 3 มื้อ มีพลังงานมากมายเข้าแต่ออกน้อยนิดมานก็อ้วนเป็นธรรมดา โดยที่ยาลดความอ้วยยี่ห้อไหนก็ช่วยไม่ได้ ยกเว้นยานั้นจะทำให้ไขมันในตัวท่านเปลี่ยนเป็นพลังงานทั้งหมด ( ไขมัน 1 กรัมให้พลังงาน 9 กิโลแคลลอรี่ ในตัวท่านมีกี่กรัมล่ะ แปลงเป็นพลังงานความร้อนแค่ครึ่งตัว ไฟก็ไหม้สำนักงานแล้ว ) อาหารประเภท ฟาดดูด ( พิมพ์ไม่ผิด ๆ )เช่น แฮมเบอร์เกอร์ น้ำอัดลม พิซซ่า ก็เป็นส่วนสำคัญ งานด่วน แล้วกินด่วน ก็อ้วนด่วน รวมทั้งก ารกินอาหารแบบกินไปทำงานไป จะทำให้อิ่มช้าและกินได้มาก ( มันไม่รู้จะอิ่มตอนไหน เห็นยุ่ง ๆ อยู่ไม่อยากขัด)
8. อาการโรคกระเพาะ กระเพาะคราก ท้องอืด ท้องเฟ้อ เรอเหม็นเปรี้ยว
เคี้ยว.... ไม่ต้องโปรโมต ( แต่ไม่รวมท้องไม่มีพ่อนะ ) มันมาอีกแล้วครับ ...ความเครียด ตัวการหลัก แต่การนอนไม่พอ ก็มีส่วนทำให้เกิดอาการเหล่านี้ด้วยเช่นกัน
การกินอาหารแบบเร่งรีบ ทำให้กระเพาะ และระบบขับถ่ายทำงานได้ไม่มีประสิทธิ์ภาพ และการกินไม่เป็นเวลา กินกาแฟ ....
9. ริดสีดวง
ปัจจัยที่ทําให้เกิดริดสีดวงทวารหนัก คือ การยืนหรือนั่งติดต่อกันนาน, แรงเบ่งในช่วงการถ่ายอุจจาระซึ่งเกิดจากการท้องผูกหรือท้องเสีย, การตั้งครรภ์, การกระทบกระเทือน, ความอ้วน, กรรมพันธ์, ความเสื่อมตามธรรมชาติของผนังเส้นเลือด
สาเหตุเนื่องจากมีภาวะความดันในหลอดเลือดดำสูง เนื่องจากสาเหตุต่างๆเช่น ท้องผูก การนั่งนานๆ ตั้งครรภ์ น้ำหนักมาก การทานอาหารที่มีกากน้อย ไอเรื้อรัง เป็นต้น นอกจากนี้ยังพบอีกว่าโรคในช่องท้อง เช่น ตับแข็ง ก้อนเนื้องอกในช่องท้อง มะเร็งลำไส้ใหญ่ ต่อมลูกหมากโต ก็มีผลกระทบต่อหลอดเลือดดำที่ทวารหนักด้วย
เกิดจากการที่ท่านนั่งกันวันหนึ่ง ๆ กี่ชั่วโมงกัน ไหนจะ OT อีก บั้นท้ายท่านก็รับการกดทับ เส้นเลือดดำบริเวณปลายลำไส้ก็เกิดอาการเลือดคั่ง บวมเป่งสิทีนี้ ยิ่งน้ำหนักมาก อาการก็เป็นไว ควรลุกเดินบ้าง ลุกไปเชียงใหม่ลำปาง แพร่ น่าน พะเยา สุโขทัย ปัตตานี ยะลา สงขลา อุดรธานี ศรีษะเกษ
ให้ไปพักร้อนมั่ง ชีวิตเฉลี่ยตั้ง 60 ปีขอแค่ 7 วันต่อปีคงไม่มากเนอะอย่างไรพักผ่อนกันบ้าง
ข้อปฏิบัติตนเมื่อเป็นโรคริดสีดวงทวาร
1. รับประทานอาหารที่มีกากใยมากๆ
2. หลีกเลี่ยงการนั่งหรือยืนนานๆ
3. ถ่ายอุจจาระให้เป็นเวลา
4. หลีกเลี่ยงการเบ่งอุจจาระ
5. สามารถประคบเย็นได้เมื่อเริ่มต้นมีอาการปวด
6. หลีกเลี่ยงการใช้ยาระบายที่ระคายเคือง
7. นั่งแช่ใน hot sit baths วันละ 1-2 ครั้ง นาน 20-30 นาที
8. ซับทวารหนักเบาๆแทนการเช็ดถู
9. ไม่ถ่ายอุจจาระนานเกินไป
10. ควบคุมอาการท้องเสีย
ทำตัวแบบนี้ไง...เลยเป็นริดสีดวง
ชอบนั่งนานๆไม่ยอมลุกไปไหน แบบว่าต้องพิมพ์งานชิ้นนี้ให้เสร็จก่อนไม่งั้นไม่ยอมลุกไปไหนแน่ๆ
น้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน
ชอบรับประทานอาหารขยะ ไม่สนใจใยดีในผักและผลไม้
ดื่มน้ำน้อยเกินไป ไม่ถึงวันละแปดแก้ว
ชอบนั่งอ่านหนังสือเวลาขับถ่าย (เคยมั้ย อ่านหนังสือในห้องน้ำ)
ชอบเบ่ง อุจจาระแบบแรงๆ เพราะความรีบเร่ง
ชอบยกของหนักๆ
กลั้นอุจจาระบ่อยๆ
นอนดึกประจำ หักโหมทำงานหามรุ่งหามค่ำ
ไม่ออกกำลังกาย ทำแต่งานตลอดเวลา
11. ถ้ามีเลือดออกนานเกิน 1 สัปดาห์ หรือผู้ป่วยอายุมากกว่า 40 ปี ควรแนะนำให้ไปพบแพทย์ เพราะอาจมีโรคอื่นร่วมด้วย
10. โรคหัวใจ และหลอดเลือด
แพทย์หญิงกรุณา อธิกิจ อายุรกรรมทั่วไป โรงพยาบาลปิยะเวท เผยว่า การนั่งนานๆ เป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดโรคโรคหัวใจ และหลอดเลือด
โดยการศึกษาวิจัย พบว่า ผู้ชายที่นั่งทำงานอยู่กับที่มากเกินไป เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจถึง 2 เท่า และเสียชีวิตจากโรคหัวใจเทียบกับการทำงานที่ต้องเดิน
สอดรับกับการศึกษาจากสมาพันธ์มะเร็งอเมริกา ที่ทำการศึกษาถึงเวลานั่ง และการออกกำลังกายกับอัตราการเสียชีวิตของอาสาสมัครระหว่างปี 1993-2006 ของอาสาสมัครชายจำนวน 53,440 และหญิงจำนวน 69,776 คนตามลำดับ ซึ่งไม่มีใครเป็นโรคมะเร็ง โรคหัวใจ อัมพาต และโรคปอดเลย
INSURANCETHAI.NET