การบังคับบริษัทประกันจ่ายสินไหมรถประกันชั้น1
655

การบังคับบริษัทประกันจ่ายสินไหมรถประกันชั้น1

การบังคับบริษัทประกันจ่ายสินไหมรถประกันชั้น1

เกิดเหตุ มิย.52 บริษัทประกัน ผัดผ่อนจะจ่ายจนถึง ตค.52
ร้องคปภ.แล้ว ตามเรื่องจน บริษัทประกัน มีบันทึกว่าจะจ่ายให้เต็มทุนประกัน ภายใน 20 เมย.53
แต่เมื่อถึงเวลาบริษัทประกัน เลื่อนโดยไม่มีกำหนดการอีก
จะมีมาตรการใดในการที่จะบังคับให้จ่ายได้?
ถาม คปภ.แจ้งว่า ต้องหาทนายฟ้องเองถึงจะจบเร็วขึ้น

ผู้บริโภคมีภาระต้องผ่อนรถเดือนละ 20,000.- อยู่แล้ว รถก็ไม่ได้ใช้ยังต้องหาเงินมาจ้างทนายฟ้องอีก



การที่ท่านได้ทำประกันภัยกับบริษัทประกันดังกล่าว ซึ่งเป็นประกันภัยชั้น 1  โดยตามกฎหมายแล้ว  สัญญาประกันภัยนั้น  เป็นสัญญาซึ่งบริษัทผู้รับประกันภัย  ตกลงจะใช้ค่าสินไหมทดแทน  หรือใช้เงินจำนวนหนึ่งให้ในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยตกลงจะส่งเงินซึ่งเรียกว่า เบี้ยประกันภัย  ตาม ป.พ.พ. มาตรา 861  และเมื่อรถยนต์ของท่านได้เกิดความเสียหาย  ซึ่งความเสียหายซึ่งจะประมาณเป็นเงินได้  เพราะฉะนั้น  บริษัทฟินิกส์ผู้รับประกันภัยจำต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ตาม ป.พ.พ. มาตรา 869, มาตรา 877

เมื่อท่านได้ตามเรื่องให้บริษัทรับผิดโดยการร้องต่อ คปภ. แล้ว  และบริษัทก็ได้ให้ชำระเงินภายในวันที่ 20 เมษายน 53  เมื่อถึงกำหนดและเลื่อนออกไป  ถือว่าบริษัทผิดนัดชำระตามกรมธรรม์ประกันภัย  ตามกฎหมายถือว่าเป็นการโต้แย้งสิทธิ  ท่านจึงสามารถฟ้องร้องให้บริษัทประกันภัยรับผิดตามกรมธรรม์และบันทึกข้อตกลงได้ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 55

ให้ท่านมีจัดเตรียมเอกสาร เช่น ตารางกรมธรรม์ประกันภัย  บันทึกข้อตกลง  ภาพถ่านรถยนต์ที่เกิดความเสียหาย  เป็นต้น
เข้ามาที่สำนักงานทนายเพื่อแต่งตั้งทนายความเข้าฟ้องร้องบริษัทประกันภัย ภายในอายุความ 2 ปี  ตาม ป.พ.พ. มาตรา 882

ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
    ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
    มาตรา 861  อันว่าสัญญาประกันภัยนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่งตกลงจะใช้ค่าสินไหมทดแทน หรือใช้เงินจำนวนหนึ่งให้ในกรณีวินาศภัยหากมีขึ้น หรือในเหตุอย่างอื่นในอนาคตดั่งได้ระบุไว้ในสัญญา และในการนี้บุคคลอีกคนหนึ่งตกลงจะส่งเงินซึ่งเรียกว่า เบี้ยประกันภัย
    มาตรา 869  อันคำว่า “วินาศภัย” ในหมวดนี้ ท่านหมายรวมเอาความเสียหายอย่างใด ๆ บรรดาซึ่งจะพึงประมาณเป็นเงินได้
    มาตรา 577  ผู้รับประกันภัยจำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนดังจะกล่าวต่อไปนี้ คือ
    (1) เพื่อจำนวนวินาศภัยอันแท้จริง
    (2) เพื่อความบุบสลายอันเกิดแก่ทรัพย์สินซึ่งได้เอาประกันภัยไว้เพราะได้จัดการตามสมควรเพื่อป้องปัดความวินาศภัย
    (3) เพื่อบรรดาค่าใช้จ่ายอันสมควรซึ่งได้เสียไปเพื่อรักษาทรัพย์สินซึ่งเอาประกันภัยไว้นั้นมิให้วินาศ
    อันจำนวนวินาศจริงนั้น ท่านให้ตีราคา ณ สถานที่และในเวลาซึ่งเหตุวินาศภัยนั้นได้เกิดขึ้น อนึ่งจำนวนเงินซึ่งได้เอาประกันภัยไว้นั้น ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นหลักประมาณอันถูกต้องในการตีราคาเช่นว่านั้น
    ท่านห้ามมิให้คิดค่าสินไหมทดแทนเกินไปกว่าจำนวนเงินซึ่งเอาประกันภัยไว้



INSURANCETHAI.NET
Line+