รถถูกขโมยในระหว่างที่กำลังผ่อนกับไฟแนนซ์
679

รถถูกขโมยในระหว่างที่กำลังผ่อนกับไฟแนนซ์

กรณีที่ได้เช่าซื้อรถจากบริษัทลิสซิ่งหรือไฟแนนซ์ ผ่อนไปได้ ๑ ปี รถถูกขโมยหรือหายไปอย่างไร้ร่องรอย
แจ้งให้บริษัทฯทราบ บริษัทฯก็บอกว่ามันเป็นความผิดของผู้เช่าซื้อเอง ผู้เช่าซื้อจะต้องผ่อน(กุญแจ)ต่อไปจนครบกำหนดตามสัญญา



ขอแนะนำให้ทุกท่านดำเนินการดังนี้ครับ
ถ้ารถมีประกัน ก็ให้ประกันจัดการ
ถ้าไม่มี ก็ไม่ต้องผ่อนต่อ เพราะ กม. เช่าซื้อ คือ การให้เช่า + คำมั่นว่าจะขาย

ดังนั้นเมื่อทรัพย์ที่เช่าซื้อสูญหาย สัญญาย่อมระงับ ผู้เช่าซื้อไม่ต้องส่งค่าเช่าให้แก่ผู้ให้เช่าซื้อ
แต่ผู้เช่าซื้อยังคงต้องส่งค่างวดที่ค้างเท่านั้น เช่น ส่งไป ๑๓ งวด แต่ค้างงวดที่ ๑๐ ต่อมางวดที่ ๑๔ รถหาย
ผู้เช่าซื้อต้องส่งค่างวดที่ค้าง คือ งวดที่ ๑๐ เท่านั้น ไม่ใช่ส่งงวดที่ ๑๔ - งวดที่ ๔๘ (กรณีผ่อน ๔๘ งวด)
ตามกฎหมายเช่าซื้อต้องเอากฎหมายเรื่องเช่ามาบังคับด้วย
ทางที่แนะนำ ไม่ต้องผ่อนต่อ ปล่อยให้เค้าฟ้องศาลมาเอง แล้วพอหมายศาลมา ก็ไปให้การในชั้นศาล ศาลจะนำเรื่องเช่ามาวินิจฉัยด้วยเช่นกัน
ฟันธง ไม่ต้องผ่อนแล้วครับ เพราะมีไม่น้อยที่โดนไฟแนนซ์มันบอกให้ผ่อนกุญแจทั้งๆที่สัญญาระงับไปแล้ว...

ในทางกฎหมายควรต้องหยุดจ่ายค่างวดทันทีเพราะรถที่เช่าซื้อสูญหายไปแล้ว สัญญาเช่าซื้อก็ต้องระงับ ดังนั้น จึงเหลือประเด็นเดียวว่าค่าเสียหายมีเท่าไหร่ ? เรื่องนี้ศาลฎีกาเคยวางบรรทัดฐานนะครับว่าถ้ารถที่เช่าซื้อสูญหายก็ต้องมาคำนวณครับว่ารถราคาเท่าใด ผู้เช่าซื้อจ่ายเงินค่างวดมาแล้วเป็นเงินเท่าใด บริษัทประกันได้จ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่บริษัทลิสซิ่งเนื่องจากรถหายเป็นเงินเท่าใดถ้า 2 จำนวนนี้รวมกันแล้วเกินกว่าราคารถที่บริษัทลิสซิ่งซื้อมา อย่างนี้ผู้เช่าซื้อก็ไม่ต้องจ่ายค่าเสียหาย

ถ้าสัญญาเช่าซื้อมีข้อตกลงให้บริษัทเรียกค่าเช่าซื้อที่ยังขาดอยู่ได้ แม้ว่าทรัพย์ที่เช่าซื้อจะสูญหายก็ตาม เรื่องนี้ ศาลมีอำนาจ ที่จะกำหนดให้ผู้เช่าซื้อชำระหรือไม่ก็ได้ครับ และถ้าศาลกำหนดให้ชำระละครับ ต้องชำระเต็มตามสัญญาหรือเปล่า?
คำตอบก็คือว่าการที่จะกำหนดให้ผู้เช่าซื้อต้องชำระนั้นต้องพิจารณาด้วยนะครับว่าเงินค่าเช่าซื้อที่บริษัทลิสซิ่งได้รับชำระมาแล้วรวมกับค่าสินไหมทดแทนที่บริษัทประกันภัยได้จ่ายให้ เมื่อยังไม่เพียงพอกับความเสียหายที่ผู้ให้เช่าซื้อได้รับ ศาลก็จะกำหนดความเสียหายให้ตามสมควร แต่มิใช่ให้ชำระค่าเช่าซื้อจนครบเต็มตามสัญญา

และหากหลังจากรถหายไป ๔ ปี เกิดจับคนร้ายได้แล้วได้รถที่เช่าซื้อกลับคืนมา รถต้องเป็นของบริษัทประกันนะครับ ไม่ได้เป็นของเรา แม้เราจะจ่ายค่างวดครบตามสัญญาแล้วก็ตาม(ตามที่มันบอกให้ผ่อนกุญแจต่อ) เพราะสัญญาเช่าซื้อระหว่างเรากับบริษัท มันจบและตัดขาดกัน ไปแล้วครับ
ขึ้นศาล..ไม่น่ากลัวอย่างที่ท่านคิด บางทีคิดจะจีบใครสักคน มันยากเย็นแสนเข็ญยิ่งกว่าขึ้นศาลซะอีก

::)
http://www.baanmaha.com/community/thread45178.html

Re: รถถูกขโมยในระหว่างที่กำลังผ่อนกับไฟแนนซ์
679

Re: รถถูกขโมยในระหว่างที่กำลังผ่อนกับไฟแนนซ์

ยกตัวอย่างท่านหนึ่งที่รถหาย และยังผ่อนไฟแนนซ์อยู่
รายละเอียดในสัญญาเช่าซื้อรถ จักรยานยนต์
ราคารถเงินสด 44,500 บาท
เงินดาวน์ 5,000 บาท
ยอดกู้ 39,500 บาท
อัตราดอกเบี้ย 1.491 %
ระยะเวลากู้ 24 เดือน
ยอดผ่อนชำระ ต่อเดือน 2,235 บาท

ปรากฎว่าผ่อนไปได้ 10 เดือน รถหาย ประกันจ่าย 30000 บาท
ยังต้องรับภาระจ่ายส่วนที่เหลือหรือไม่...หรือจะได้รับเงินส่วนต่าง
เรามาลองคำนวนกันดูนะ

จ่ายค่างวดไปแล้ว 10 เดือน (2,235 บาทต่อเดือน) เป็นเงิน
2,235 x 10 =22,350 บาท
ในจำนวน 22,350 บาทที่จ่ายไปแล้วมีทั้งเงินต้น และดอกเบี้ย รวมอยู่ด้วยกัน ดังนั้นเรามาคำนวนก่อนว่ามีเงินต้นที่จ่ายไปแล้วเท่าไร และดอกเบี้ยที่จ่ายไปแล้วเท่าไร

วิธีการคำนวนหาเงินต้นผ่อนชำระต่อเดือน แบบง่ายๆ คือ
(ยอดกู้ ÷ ระยะเวลากู้ ) 39,500 ÷ 24 = 1,645.83
ปัดเศษ เป็น 1,646 บาท จ่ายไปแล้ว 10 เดือน = 16,460

วิธีการคำนวนหาดอกเบี้ยต่อเดือน แบบง่ายๆ คือ
ยอดผ่อนชำระต่อเดือน -เงินต้นชำระต่อเดือน=ดอกเบี้ยต่อเดือน
2,235 - 1,646 =589

เมื่อจ่ายค่างวดไป 10 เดือน รถหาย ดังนั้นคงเหลือเงินต้นคงค้างอีก 14 เดือนเดือนละ 1,646 บาท(14x1,646)=23,044 บาท

ส่วนดอกเบี้ยคงค้างนั้น เราไม่จำเป็นต้องจ่ายเพราะ
1.สัญญาเช่าซื้อได้ระงับไปแล้ว
2.ยังไม่ถึงวันชำระงวดถัดไป

@@@หากประกันจ่ายให้ไฟแนนซ์30,000บาท ตามหลักต้องนำไปหักกับเงินต้นคงค้าง คือ 23,044บาท และต้องเหลือเงินคืนให้ผู้เช่าซื้อ 6,956 บาท

@@@แต่เท่าที่เห็น บริษัทไฟแนนซ์มักจะไม่ชี้แจงให้ผู้เช่าซื้อรับทราบ นำเงินประกันไปหักค่างวดคงค้าง ในกรณีนี้ คงค้าง 14 เดือนๆละ 2,235 บาท=31,290 บาททั้งที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ เมื่อหักแล้วยังคงมาเรียกเก็บจากผู้เช่าซื้ออีก(31,290-30,000)=1,290 บาท ทำให้บริษัทไฟแนนซ์ได้ทั้งเงินต้น และดอกเบี้ยไปครบโดยยังไม่ถึงกำหนดชำระ เป็นการเอาเปรียบผู้เช่าซื้ออย่างมาก
@@@หากเรารู้เท่าทันก็สามารถทักท้วงได้ แต่ถ้าไม่ทักท้วงยอมจ่าย ก็เท่ากับว่า เราทำงานเหนื่อยแทบตายหาเงินให้บริษัทไฟแนนซ์กินไปสบายๆ โดยที่เราไม่รู้ตัว

https://www.facebook.com/RthHayPhxnTxHruxMiMiKhaTxb



INSURANCETHAI.NET
Line+