ตัวแทนต้องสร้างภาพพจน์!
71
ตัวแทนต้องสร้างภาพพจน์!
ในฐานะตัวแทนต้องสร้างภาพพจน์
เมื่อเริ่มทำงานเป็นตัวแทนใหม่ๆ ซึ่งจริงๆ แล้วก่อนหน้าที่จะเป็นตัวแทน ก็เป็นพนักงานขายอย่างอื่น พี่ๆ และญาติผู้ใหญ่ให้ความสงสาร เขามองว่าเรากำลัง ตกอับตกงานหรือหางานทำไม่ได้อะไรทำนองนั้น เพราะ งานขายเป็นงานที่เข้าๆ ออกๆ
กันได้ง่าย และไม่จำเป็น ต้องเป็นผู้จบการศึกษาสูงแต่อย่างไร เราเองก็ไม่มั่นใจตนเองเท่าไรนัก กลัวจะไปไม่รอดเหมือนกัน
ชีวิตนักขายจึงมีภาพพจน์ที่ได้รับการดูถูกดูแคลน เหมือนไม่มีศักดิ์ศรีหรือมองแล้วกระจอกทำนองนั้น จึงทำให้นักขายมีอุปสรรคในการทำงาน ทั้งๆ ที่ได้พยายามสร้างภาพลักษณ์ การสร้างภาพลักษณ์ของนัก ขายมีแต่ไหนแต่ไรมาแล้ว เช่นการ
แต่งกายก็ต้องให้ดูดีมีสง่าไว้ก่อน ไม่ว่ากระเป๋าเงินจะมีเงินหรือไม่มีก็ตาม ทำให้ดูภายนอกดีเอาไว้เป็นใช้ได้ มีการสำรวจก่อนหน้า นี้ว่าลูกค้าหรือคนที่จะซื้อของจากพนักงานเดินตลาดเขามองอะไรมากที่สุดในการ เสนอขาย หรือที่เราเรียก ว่า
ความประทับใจครั้งแรกที่ลูกค้ามีต่อพนักงานเดินตลาด ผลสำรวจออกมาว่า
57% มองที่ความสามารถในการเสนอขายของพนักงานเดินตลาด
30% มองที่บุคลิกภาพของพนักงานเดินตลาด
13% มองที่รูปร่างหน้าตาของพนักงานเดินตลาด
ดังนั้นหากมีความรู้ในผลิตภัณฑ์ และมีเทคนิคการเสนอขายอย่างดี บุคลิกภาพของพนักงานขายก็จะเป็นเรื่องรองลงมาที่ลูกค้าให้ความสนใจ หัวหน้าจึงพยายามจะแนะนำให้แต่งตัวดูดีเรียบร้อยก่อนอื่นหมด ถ้าแต่งตัวปอนๆ และทำตัวหงอยๆ จะ
ไม่ได้รับความ สนใจเชื่อถือจากลูกค้า จะถูกดูถูกอาชีพได้ จำได้ว่าเขา ให้ดูตัวอย่างการแต่งกายของผู้สอนศาสนาชาวต่างประเทศที่แม้ว่าจะขี่จักรยาน เป็นหลัก แต่ที่เขาทำอย่าง นั้น เขามีเหตุผลว่า เพื่อความคล่องตัวเข้าซอกเข้าซอย ได้ทั่วถึง
แต่การแต่งกายจะดูดี เสื้อสีขาว กางเกงสีเข้ม ผูกไทรองเท้าหนังเงางาม พบเห็นแล้วสบายตามากกว่า บางคนก็แนะนำให้ดูตัวอย่างดีเทลยาที่ออกตลาดซึ่งก็จะแต่งกายคล้ายๆ กัน เรื่องการแต่งกายนี้จะเป็นเรื่องแรกเลย ขายยังไม่ได้ก็ต้องปรับ
ปรุงการแต่งกายของตนเองก่อน
เขาให้เหตุผลว่า นักขายก็คือนักธุรกิจ ต้องยอม ลงทุนก่อนเพราะเวลาขายนั้นเราเสนอขายเก็บเงินครั้งละหลายๆ พัน หรือเป็นหลักหมื่น ไม่ใช่บาทสอง บาทหรือหลักสิบหลักร้อย ไม่ใช่คนขายข้าวแกง ขาย กล้วยปิ้งกล้วยทอด ยิ่งกว่านั้นเราต้อง
ผูกพันกับลูกค้า ไปสิบห้าปียี่สิบปีหรือตลอดชีวิต เพราะฉะนั้นการสร้าง ความน่าเชื่อถือจากบุคลิกภาพ ก็นับว่าเป็นเรื่องสำคัญ
ผมเชื่อเรื่องที่หัวหน้าแนะนำ ที่เคยชอบเสื้อยืดกางเกงยีนส์รองเท้ายางก็เลยเปลี่ยนไป จนบัดนี้เกือบสี่สิบปีแล้ว แทบไม่ได้แตะกางเกงยีนส์อีกเลย ต้องยอม เสียสละ ที่ชอบแต่ดูไม่ดีเลิกหรือทิ้งไป เพื่อบุคลิกของ เรานักขายให้ดูดีมีสง่ามากยิ่ง
ขึ้น ผมที่เคยปล่อยไว้ยาวๆ ก็ต้องไปตัดทรงรองทรง ให้ดูหน้าตาเกลี้ยงเกลาดูหน้าใสสะอาด
แต่ไม่นิยมที่จะมาแข่งกันในเรื่องความฟุ่มเฟือย แข่งกันโก้หรู เห็นด้วยกับการแต่งกายให้เรียบร้อย แต่ ไม่เห็นด้วยกับการอวดความโก้หรูแข่งกัน ทำเป็นอวดมั่งอวดมี อย่างนี้ลูกค้าหมั่นไส้มากกว่า แทนที่จะขายได้ง่ายกลับทำให้ขายยากขึ้น
อย่างไรก็ตาม เพื่อความสง่างามในศักดิ์และเกียรติแห่งอาชีพนักขาย ชีวิตนัก ขาย น่าจะเป็นไปอย่างเรียบง่าย และมีบุคลิกภาพที่เหมาะสม เป็นดีที่สุด
ที่มา : สยามธุรกิจ
INSURANCETHAI.NET