เอารถให้เช่าแล้วหาย ประกันภัยต้องรับผิดชอบ
732

เอารถให้เช่าแล้วหาย ประกันภัยต้องรับผิดชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่  5344/2540
นาย สมพงศ์ รัตนอุดมสวัสดิ์ : โจทก์
บริษัท นารายณ์สากลประกันภัย จำกัด : จำเลย
ป.พ.พ. มาตรา 867, 877, 879

          กรมธรรม์ประกันภัยระบุข้อยกเว้นที่จำเลยผู้รับประกันภัยไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายว่าความเสียหายหรือสูญหายอันเกิดจากการลักทรัพย์หรือยักยอกทรัพย์โดยบุคคลที่ครอบครองรถยนต์ตามสัญญาเช่าเป็นอันไม่คุ้มครอง เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ท. และ ข. ทำสัญญาเช่ารถยนต์ไปจากโจทก์ผู้เอาประกันภัย แต่เมื่อถึงกำหนดเวลาเช่าบุคคลทั้งสองไม่นำรถยนต์ไปคืน เนื่องจาก ท. และ ข. ไม่มีเจตนาเช่ารถยนต์ดังกล่าว เหตุที่ทำสัญญาเช่าทรัพย์ก็เพื่อเป็นกลอุบายลักรถยนต์ไปขายที่ประเทศพม่าดังนั้น การที่ ท. และ ข. ลักรถยนต์โดยใช้กลอุบายทำสัญญาเช่าเช่นนี้จึงไม่เข้าข้อยกเว้นที่จำเลยไม่ต้องรับผิดตามสัญญาประกันภัย จำเลยจึงต้องรับผิดต่อโจทก์

          โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า โจทก์นำรถยนต์หมายเลขทะเบียน ก-3630 เชียงรายประกันภัยไว้แก่จำเลย ครั้นวันที่ 4 กรกฎาคม 2536 เวลาประมาณ 13 นาฬิกา นายขจรหรือสมศักดิ์ โกเสนตอหรือธินอมธรรม และนางสาวทนาดา จันทาพูน ได้ลักรถยนต์โจทก์ไปโดยใช้กลอุบายหลอกลวงเช่ารถยนต์โจทก์เพื่อใช้ท่องเที่ยว ขอให้จำเลยใช้ค่าสินไหมทดแทนจำนวน 200,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

          จำเลยให้การว่า จำเลยไม่ต้องรับผิดเพราะโจทก์ให้บุคคลอื่นครอบครองรถยนต์ตามสัญญาอันเป็นข้อยกเว้นความรับผิดตามเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัย ข้อ 3.7.7 ขอให้ยกฟ้อง

          ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษายกฟ้อง

          โจทก์อุทธรณ์

          ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษากลับ ให้จำเลยชำระเงินจำนวน 222,500 บาทพร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีของต้นเงิน 200,000 บาท นับถัดจากวันอุทธรณ์ จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

          จำเลยฎีกา

          ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "คดีนี้ทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาทต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง จำเลยฎีกาในข้อกฎหมายว่า จำเลยไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ตามข้อยกเว้นความรับผิดในกรมธรรม์ประกันภัยข้อ 3.7.7 หรือไม่ ในการวินิจฉัยข้อกฎหมายดังกล่าว ศาลฎีกาจำต้องถือตามข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 วินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวน ซึ่งศาลอุทธรณ์ภาค 2 ฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์เป็นเจ้าของรถยนต์หมายเลขทะเบียน ก-3630 เชียงราย โจทก์นำรถยนต์คันนี้ประกันวินาศภัยไว้แก่จำเลย เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2536 นางสาวทนาดา จันทาพูน และนายขจรหรือสมศักดิ์ โกเสนตอหรือธินอมธรรม ได้เช่ารถยนต์คันนี้ไปจากโจทก์ ทำสัญญาเช่าไว้ตามเอกสารหมาย จ.11 และได้มอบบัตรประจำตัวประชาชนของบุคคลทั้งสองให้แก่โจทก์ กำหนดระยะเวลาเช่า 1 วัน ค่าเช่า 800 บาท โจทก์ได้รับค่าเช่าล่วงหน้าแล้ว เมื่อถึงกำหนดเวลาเช่าบุคคลทั้งสองไม่นำรถยนต์ไปคืนเนื่องจากนางสาวทนาดาและนายขจรไม่มีเจตนาเช่ารถยนต์ดังกล่าว เหตุที่ทำสัญญาเช่าทรัพย์เพื่อเป็นกลอุบายลักรถยนต์ไปขายที่ประเทศพม่า จึงถือว่าไม่มีการเช่ารถยนต์ดังกล่าว การที่นางสาวทนาดาและนายขจรรับมอบหรือครอบครองรถยนต์คันดังกล่าว จึงไม่ใช่การรับมอบหรือครอบครองรถยนต์ตามสัญญาเช่า พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ตามกรมธรรม์ประกันภัย ข้อ 3.7.7 ระบุข้อยกเว้นที่จำเลยไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายว่า ความเสียหายหรือสูญหายอันเกิดจากการลักทรัพย์หรือยักยอกทรัพย์โดยบุคคลที่ครอบครองรถยนต์ตามสัญญาเช่า เป็นอันไม่คุ้มครอง เมื่อข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 ว่า นางสาวทนาดาและนายขจรลักรถยนต์ดังกล่าวไปจากโจทก์โดยใช้กลอุบายหาได้เจตนาทำสัญญาเช่ากับโจทก์ดังนั้นจึงไม่เข้าข้อยกเว้นที่จำเลยไม่ต้องรับผิดตามสัญญาประกันภัย จำเลยจำต้องรับผิดต่อโจทก์ ฎีกาข้อนี้ของจำเลยฟังไม่ขึ้น..."

          พิพากษายืน
( วุฒิ คราวุฒิ - ปรีชา เฉลิมวณิชย์ - สถิตย์ ไพเราะ )

Re: เอารถให้เช่าแล้วหาย ประกันภัยต้องรับผิดชอบ
732

Re: เอารถให้เช่าแล้วหาย ประกันภัยต้องรับผิดชอบ

อื่นๆ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3462/2537
คำพิพากษาย่อสั้น

กรมธรรม์ประกันภัยได้ระบุข้อยกเว้นความรับผิดของจำเลยผู้รับประกันภัยไว้ว่า การประกันภัยนี้ไม่คุ้มครองความเสียหายหรือสูญหายอันเกิดจากการลักทรัพย์หรือยักยอก และการที่คนร้ายอ้างว่าชื่อส.และพ. ไปขอเช่ารถยนต์คันที่จำเลยรับประกันไว้จากบ. ซึ่ง บ. เช่าซื้อมาจากโจทก์และระบุให้โจทก์เป็นผู้รับประโยชน์โดยใช้บัตรประจำตัวประชาชนและใบอนุญาตขับรถยนต์ปลอมแสดงต่อ บ. บ.ตกลงให้เช่า แต่เมื่อได้รับรถยนต์คันดังกล่าวไปจาก บ.แล้วคนร้ายไม่นำมาคืนนั้นเป็นพฤติการณ์ที่แสดงให้เห็นว่าคนร้ายมีเจตนาทุจริตคิดหลอกลวง บ.ให้ส่งมอบรถยนต์แก่คนร้ายมาตั้งแต่ต้นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จว่าคนร้ายดังกล่าวเป็นบุคคลที่มีชื่อและภูมิลำเนาตามเอกสารปลอมมีความประสงค์จะเช่ารถยนต์บ.หลงเชื่อว่าเป็นความจริง จึงยินยอมส่งมอบรถยนต์ให้แก่คนร้ายไป ความจริงคนร้ายแสดงตนเป็นบุคคลอื่นและไม่มีความประสงค์จะเช่ารถยนต์แต่อย่างใด การกระทำของคนร้ายเป็นความผิดฐานฉ้อโกง หาใช่ความผิดฐานลักทรัพย์หรือยักยอกอันจะเป็นข้อยกเว้นความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยดังกล่าวข้างต้นไม่ จำเลยต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์
http://www.deka.in.th/view-10335.html



INSURANCETHAI.NET
Line+