กรุงเทพประกันภัยเปิดตัว BKI Insurance Telematics เพื่อตอบโจทย์แคร์คุณทุกย่างก้าว
772

กรุงเทพประกันภัยเปิดตัว BKI Insurance Telematics เพื่อตอบโจทย์แคร์คุณทุกย่างก้าว

กรุงเทพประกันภัยเปิดตัว BKI Insurance Telematics เพื่อตอบโจทย์แคร์คุณทุกย่างก้าว       
    กรุงเทพประกันภัย ศึกษาตลาดประกันภัยรถยนต์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อพัฒนาไปสู่การปลูกฝังจิตสำนึกของการขับขี่อย่างปลอดภัยให้กับสังคม โดยนำเทคโนโลยี Telematics เข้ามาช่วยเก็บรวบรวมข้อมูลการขับขี่รถยนต์ของลูกค้า และนำเสนอแนวทางที่จะช่วยให้การขับขี่ของลูกค้าแต่ละรายมีความปลอดภัยยิ่งขึ้น

https://www.youtube.com/v/gKFdagI9-Gs

  ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้นำเทคโนโลยี Telematics มาใช้เพื่อศึกษาและนำเสนอข้อมูลพฤติกรรมการขับขี่รถยนต์ให้กับลูกค้าแต่ละราย เพื่อประโยชน์ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่ให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น อีกทั้งสามารถช่วยให้บริษัทฯ ประเมินระดับความเสี่ยงภัยที่ส่งผลต่อการกำหนดอัตราเบี้ยประกันภัยได้อย่างเหมาะสมกับลูกค้าแต่ละราย
  ทั้งนี้ Telematics เป็นระบบที่นำมาใช้ในการวัดผลพฤติกรรมการขับขี่รถยนต์ โดยมีอุปกรณ์ “Dongle” ติดตั้งที่ตัวรถ สามารถทำได้ด้วยตนเองง่ายๆ โดยจะมีทั้งระบบ GPS และเซ็นเซอร์ในการตรวจวัดอัตราความเร็ว อัตราการเร่งเครื่อง การเปลี่ยนเลนกะทันหัน การกระแทก ฯลฯ แล้วจะส่งสัญญาณมาที่เซิร์ฟเวอร์ หลังจากนั้นจะประมวลผลออกมาเป็นคะแนน (score) การขับขี่รถยนต์  โดยผู้เอาประกันภัยสามารถดูคะแนนการขับขี่ของตนเองผ่านแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือระบบ IOS และ Android หรือตรวจสอบได้จากเว็บไซต์ของบริษัทฯ www.bangkokinsurance.com
    นอกจากนี้ ระบบ Telematics ยังช่วยให้บริษัทฯ สามารถสร้างความใกล้ชิดให้แก่ลูกค้าได้ มากยิ่งขึ้น (Customers Engagement) สอดรับกับสโลแกน “แคร์คุณทุกย่างก้าว” เนื่องจากขณะที่ผู้เอาประกันภัยขับขี่รถยนต์ ระบบจะมีการเชื่อมต่อสัญญาณระหว่างบริษัทฯ และรถยนต์ของผู้เอาประกันภัยตลอดเวลา ทำให้บริษัทฯ สามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ดังนี้
แคร์ความปลอดภัยของลูกค้า
  เนื่องจากระบบ Telematics ช่วยให้บริษัทฯ Connect กับรถยนต์ของลูกค้าตลอดเวลาที่มีการขับขี่  (Always connect, Always assist) ดังนั้น  จึงสามารถให้บริการความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที ซึ่งเพิ่มเติมจากประกันภัยปกติ เช่น  บริการ eCall คือ การแจ้งเตือนในกรณีที่ระบบตรวจพบว่ารถยนต์เกิดแรงกระแทกมากกว่าปกติ (G Force สูงเกินค่าปกติ) เช่น ตกหลุม หรือเกิดการกระแทกอย่างรุนแรง ซึ่งสงสัยได้ว่าอาจเกิดอุบัติเหตุกับรถยนต์ที่เอาประกันภัย ระบบจะส่งสัญญาณมายังบริษัทฯ พร้อมกับข้อมูลลูกค้า ได้แก่ หมายเลขกรมธรรม์  สถานที่เกิดเหตุ (ระบุตำแหน่งของรถยนต์) และหมายเลขโทรศัพท์มือถือ ทำให้พนักงานรับแจ้งอุบัติเหตุสามารถติดต่อลูกค้าพร้อมสอบถามเพื่อให้บริการช่วยเหลือในทันที โดยไม่ต้องรอให้ลูกค้าเป็นฝ่ายโทรศัพท์เข้ามาแจ้ง
    แคร์ความห่วงใยใส่ใจต่อครอบครัว แคร์ทรัพย์สินในทุกย่างก้าว ด้วย ฟังก์ชั่น Location & Trip log ซึ่งจะสามารถระบุตำแหน่งและเส้นทางการขับขี่ของรถยนต์ รวมทั้งรายละเอียดการขับขี่ต่างๆ เช่น หักเลี้ยวแรง ณ จุดใด  ความเร็วที่ใช้  ระยะทางและระยะเวลาในการขับขี่แต่ละทริป โดยสามารถจัดเก็บ log book รายละเอียดเส้นทางการใช้รถในแต่ละวันหรือแต่ละทริปได้ ลูกค้าสามารถทราบความเคลื่อนไหวของบุคคลในครอบครัวที่คุณห่วงใยผ่าน Smart Phone เพิ่มความสบายใจให้แก่พ่อและแม่ได้ เนื่องจากสามารถทราบได้ว่าลูกของตนอยู่ที่ใด มีพฤติกรรมการขับขี่เป็นอย่างไร หรือกรณีที่เป็นในรูปแบบของบริษัท (Corporate) ที่ต้องการติดตั้งอุปกรณ์บนรถของบริษัท เพื่อให้ทราบตำแหน่งรถและพฤติกรรมการขับขี่ของพนักงานขับรถได้ด้วยฟังก์ชั่น Out of Areas Alert ที่จะแจ้ง SMS เตือนในกรณีรถยนต์ออกนอกเขตพื้นที่ที่ลูกค้าได้กำหนดไว้ โดยลูกค้าจะเป็นผู้ตั้งค่าตามความเหมาะสมกับเส้นทางขับขี่ประจำของตนว่าจะให้แจ้งเตือนเมื่อใด  ได้แก่  การแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกจังหวัด หรือเมื่อออกนอกเขตภูมิภาค แม้กระทั่งออกนอกเขตประเทศไทย  หรือกรณีที่รถหายก็ทำให้ทราบได้ว่ารถอยู่ที่ใด ซึ่งฟังก์ชั่นนี้สามารถช่วยแจ้งเตือนลูกค้าในกรณีที่มิได้เป็นผู้ขับขี่หรือใช้รถ ลูกค้าจะได้ทราบเหตุได้อย่างทันท่วงที
  สำหรับ ข้อมูลพฤติกรรมการขับขี่ที่ได้รับจากระบบ Telematics นั้น จะมีการประมวลผลออกมาเป็นคะแนน โดยในปีแรกที่เริ่มโครงการ บริษัทฯ จะใช้เบี้ยประกันภัยเดิมของรถแต่ละรุ่น โดยลูกค้าจะได้รับอุปกรณ์ Telematics เพิ่มเติมเพื่อทำการติดตั้งด้วยตนเอง ซึ่งบริษัทฯ จะใช้ข้อมูลการขับขี่ที่เก็บได้จริง ในช่วงเวลาที่กำหนดมาพิจารณาประกอบกันกับหลักการคณิตศาสตร์ประกันภัยของต่างประเทศเพื่อเป็นแนวทางในการพิจารณาเบี้ยประกันภัยในปีต่ออายุตามพฤติกรรมการขับขี่  และในปีถัดไปทางบริษัทฯ จะนำกลุ่มข้อมูลการขับขี่ที่รวบรวมได้ในปีที่ผ่านมา รวมถึงอัตราการเกิดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมาพิจารณาค่าเบี้ยประกันภัยตามความเสี่ยงภัยที่แท้จริงของเบี้ยประกันภัย Insurance Telematics  ซึ่งกรณีที่ผู้เอาประกันภัยขับขี่รถด้วยระยะทางที่น้อย และขับขี่ดีไม่มีความเสี่ยงสูง ก็จะส่งผลทำให้เบี้ยประกันภัยในปี ต่ออายุลดลงมากกว่าการได้ NCB ตามปกติ ในขณะที่เบี้ยประกันภัยแบบเดิม ผู้เอาประกันภัยจะขับดีหรือขับไม่ดีก็จะต้องเสียค่าเบี้ยประกันภัยในอัตราที่เท่ากัน รวมทั้งผู้เอาประกันภัยยังสามารถทราบพฤติกรรมการขับขี่ของตนเองเพื่อนำใช้ในปรับพฤติกรรมเพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อตนเองและผู้ใช้รถใช้ถนนอื่นๆ ลดสถิติในการเกิดอุบัติเหตุและความสูญเสียได้อีกทางหนึ่ง
    ทั้งนี้ กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของ BKI Insurance Telematics แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ ลูกค้าบุคคลทั่วไป ที่ทำประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 อายุรถประมาณ 3 - 4 ปี และรถบริษัท ทั้ง Logistics และ Non-logistics โดยรถยนต์ที่ทำประกันภัยในโครงการ BKI Insurance Telematics เบี้ยประกันภัยจะอยู่ในอัตราเดิม  มิได้มีการปรับเพิ่มเบี้ยประกันภัยแต่อย่างใด  โดยบริษัทฯ คาดว่าจะสามารถเริ่มให้บริการในโครงการ BKI Insurance Telematics ดังกล่าวได้ประมาณเดือนเมษายน 2558 นี้ และคาดว่าจะได้รับความสนใจจากผู้เอาประกันภัยที่มีประวัติการขับขี่ที่ดีมาโดยตลอด

http://www.bangkokinsurance.com/BKItelematics/



INSURANCETHAI.NET
Line+