พูดจาระวัง ผิดกฏหมาย

คิดก่อนพูด พูดจาระวัง ผิดกฏหมาย

ข้อหาแจ้งข้อความหรือส่งข่าวสารซึ่งรู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จ และการแจ้งนั้นเป็นเหตุหรือน่าจะเป็นเหตุให้ผู้อื่นที่อยู่ในท่าอากาศยาน หรืออยู่ในระหว่างการบินตื่นตกใจ ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ.2558

ผู้โดยสารของเที่ยวบิน พูดว่า "เก็บกระเป๋าดีๆ นะ ระวังระเบิดนะ" ขณะที่จะขอเก็บกระเป๋าสะพายเข้าช่องเก็บของบนเครื่องบิน ทำให้นักบินต้องงดการบินและทำการตรวจสอบกระเป๋าเดินทางทั้งหมดในเครื่องบิน ผลการตรวจสอบปรากฏว่าไม่พบระเบิด เป็นเหตุให้สายการบินได้รับความเสียหาย และได้ เดินทางมาที่บช.น. พร้อมนำกระเป๋าสะพายใบที่ทำให้เกิดเรื่องมาด้วย

ผู้โดยสานรายดังกล่าว ตกเป็นผู้ต้องหาแล้ว แต่ได้ประกันตัวไปในชั้นพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง สาเหตุที่เชิญตัวมาที่บช.น.ในวันนี้ เนื่องจากกฎหมายที่นายพิชิต กระทำผิดเป็นกฎหมายใหม่ ที่เพิ่งออกประกาศใช้เป็น พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ.2558 โดยนายพิชิต อยากจะบอกกับพี่น้องประชาชนว่า สิ่งที่ทำลงไปนั้นไม่ดียังไง และสร้างความเดือนร้อนอย่างไร นายพิชิต เป็นคนแรกที่กระทำความผิดกฎหมายตามพ.ร.บ.ดังกล่าวในราชอาณาจักรไทย เข้าองค์ประกอบความผิดชัดเจน ถือว่า เป็นต้นแบบแต่เป็นต้นแบบที่ไม่ดี  แต่การพูด หรือบอกกล่าวในข้อความอันเป็นเท็จ ทำให้เกิดการตื่นกลัวในเครื่องบิน หรือในสนามบิน ถือเป็นความผิดตามกฎหมายใหม่ดังกล่าว

ผู้โดยสารรายดังกล่าว ยกมือไหว้ขอโทษสิ่งที่กระทำผิด กล่าวว่า ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของตน ทำให้คนอื่นเดือดร้อนและเสียหายมาก การที่พูดในสิ่งที่ไม่สมควรพูดในบางพื้นที่นั้นก่อให้เกิดความเสียหายหลายๆ ด้าน ทำให้เครื่องบินล่าช้า ทำให้เพื่อนที่ไปด้วยกันก็เดือนร้อน ไม่เคยรู้ว่า มีกฎหมายแบบนี้ รวมทั้งพูดไปโดยที่ตัวเองไม่ได้คิด เพราะความคึกคะนองจะแซวสาวแอร์โฮสเตส เห็นเขาสวยก็เลยแซวตามปกติ อยากให้คดีของตนเป็นอุทาหรณ์หวังว่า จะได้ไม่มีคดีแบบนี้เกิดขึ้นอีก ต้องขอประทานโทษพี่ๆ น้องๆ ทุกคน ที่เป็นคนทำให้เกิดความวุ่นวายครั้งนี้ขึ้น ตนสำนึกผิด ยอมรับผิดในการกระทำ และจะไม่ทำอีกแล้ว

พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ.2558 ถือว่าเป็นเรื่องใหม่ควรนำมาเผยแพร่ เพื่อให้ประชาชนที่เดินทางโดยสารเครื่องบินได้ทราบ พ.ร.บ.ดังกล่าวเพิ่งมีผลบังคับใช้ไม่นานนี้ อัตราโทษค่อนข้างสูง ผู้โดยสารรายนี้ กระทำความผิดตามมาตรา 22 ข้อหาแจ้งข้อความหรือส่งข่าวสารซึ่งรู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จ และการแจ้งนั้นเป็นเหตุหรือน่าจะเป็นเหตุให้ผู้อื่นที่อยู่ในท่าอากาศยาน หรืออยู่ในระหว่างการบินตื่นตกใจ มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งเป็นการพูดระหว่างที่เครื่องบินยังไม่ขึ้น แต่ถ้าเครื่องบินขึ้นแล้วอัตราโทษจะสูงขึ้นอีกเป็น จำคุกตั้งแต่ 5 ปี ถึง 15 ปี ปรับตั้งแต่ 200,000 ถึง 500,000 บาท ต้องขอขอบคุณผู้โดยสารรายนี้ เป็นอย่างสูงแม้ว่าประกันตัวไปแล้วก็ตาม แต่ก็ยินดีมาเผยแพร่เพื่อเป็นอุทาหรณ์แก่ประชาชน

ขณะเดียวกันทางไทยไลอ้อน แอร์ สั่งให้ฝ่ายกฎหมายรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งเพิ่มเติม แต่ไม่ฟ้องทางอาญา เนื่องจากการกระทำนี้ได้สร้างความเสียหายแก่สายการบินมูลค่าหลายแสนบาท ทั้งค่าที่จอดเครื่องบิน การบริการพนักงานต้องรับ เที่ยวบินล่าช้า เป็นต้น โดยค่าเสียหายนี้จะเป็นการฟ้องร้องเพิ่มเติม นอกเหนือจากโทษค่าปรับสูงสุด 2 แสนบาท

ด้านนายอัศวิน ยังกีรติวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทย ไลอ้อน แอร์ เปิดเผยว่า สายการบินไลอ้อน แอร์ กำลังให้ฝ่ายกฎหมายรวบรวมข้อมูลความเสียหายเพื่อพิจารณาฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับผู้ขู่วางระเบิด โดยยอมรับว่าการกระทำนี้ได้สร้างความเสียหายกับสายการบินอย่างมาก โดยทำให้เที่ยวบินดีเลย์ไปถึง 6 ชั่วโมงจนผู้โดยสารหลายร้อยคนได้รับความเดือดร้อน ไม่สามารถบินไปถึงที่หมายตามกำหนด นอกจากนี้ยังทำให้ภาพลักษณ์สายการบินเสียหาย และต้องเสียค่าใช้จ่ายในตรวจกระเป๋า เที่ยวบินดีเลย์ และการรักษามาตรฐานความปลอดภัยทั้งหมด

"เข้าใจว่าผู้โดยสารอาจมีเจตนาแค่ต้องเป็นการแซวพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน แต่ด้วยมาตรฐานของสายการบินที่ยึดถือความปลอดภัยเป็นหลัก จะต้องมีการรายงานให้กัปตันรับทราบ รวมถึงตรวจสอบกระเป่าเดินทางใหม่ทั้งหมด แต่จะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายแค่ไหนจะต้องรอดูฝ่ายกฎหมายพิจารณาก่อน แต่ก็ถือเป็นกรณีบทเรียน และคดีตัวอย่างที่ผู้โดยสารจะมาพูดล้อเล่นไม่ได้เพราะผิดกฎหมาย และส่งผลเสียหายต่างๆ ตามมามากมาย"

การกระทำดังกล่าวถือเป็นคดีตัวอย่างที่เข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ.2558 ซึ่งเป็นกฎหมายฉบับใหม่ที่เพิ่งประกาศใช้เมื่อเดือนก.พ.2558 ที่ผ่านมา ซึ่งพ.ร.บ.ฉบับนี้มีวัตถุประสงค์ต้องการควบคุมดูแลการเดินอากาศให้มีความปลอดภัยสูงสุด ซึ่งครอบคลุมแม้กระทั่งการสูบบุหรี่ในห้องน้ำ หรือที่อื่นใดที่มิใช่สถานที่ที่จัดไว้ให้สูบบุหรี่เป็นการเฉพาะ การใช้อุปกรณ์อิเล็กโทรนิกส์ โทรศัพท์มือถือ แทบเล็ตในเวลาที่ห้ามใช้ หรือมีสิ่งที่มีประกาศห้ามมิให้นำขึ้นไปในอากาศยานไว้ในการครอบครอง ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท ตลอดจนการพูดจาลวนลามผู้หนึ่งผู้ใด การเปลือย อนาจาร มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และถ้าทำร้ายผู้อื่น เมาเหล้า มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาทด้วย