แจ็ค หม่า จากชายผู้มีเงินเดือน 500 บาท ตอนนี้บริษัท Alibaba 5ล้านล้านบาท
862

แจ็ค หม่า จากชายผู้มีเงินเดือน 500 บาท ตอนนี้บริษัท Alibaba 5ล้านล้านบาท

แจ็ค หม่า จากชายผู้มีเงินเดือน 500 บาท ตอนนี้บริษัท Alibaba ของเค้ามีมูลค่ามากกว่า 5ล้านล้านบาท เป็นบริษัทอินเทอร์เน็ตที่มีมูลค่าตลาดสูงกว่า eBay, Twitter และ LinkedIn รวมกัน นับเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จสูงที่สุดในจีนตอนนี้
วันนี้แฮกชีวิตนำคำสอนของ แจ็ค หม่า ว่าเราจะประสบความสำเร็จในชีวิตและธุรกิจได้อย่างไรบ้าง
แจ็ค หม่า: สิ่งที่ผมเสียใจที่สุด
เมื่อปีค.ศ. 2001 ผมได้ทำสิ่งผิดพลาด ซึ่งสิ่งนั้นคือ ผมได้บอก 18 คนผู้ร่วมลงเรือลำเดียวกันในการเริ่มธุรกิจกับผมว่า ตำแหน่งสูงสุดที่พวกเขาสามารถไปได้คือการทำงานในตำแหน่งระดับการจัดการเท่านั้น
ส่วนตำแหน่งประธานและตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของเรานั้นเราจำเป็นจะต้องจ้างบุคคลภายนอกมาบริหารงาน แต่ไม่กี่ปีต่อมา พวกเค้าเหล่านั้นก็ลาออก…
แต่คนที่ผมสงสัยในความสามารถตั้งแต่ร่วมทุกร่วมสุขกันมาก็ขึ้นมาเป็นประธานบริหารและผู้อำนวยการ
จากนั้นจึงทำให้ผมเชื่ออยู่ใน 2 หลักการ คือ
o ทัศนคติของคุณนั้น สำคัญกว่าความสามารถ
o และการตัดสินใจของคุณนั้นก็สำคัญกว่าความสามารถ
แจ็ค หม่า: คุณไม่สามารถที่จะทำให้คนทุกคนนั้นคิดคล้ายๆกันได้หรอก แต่คุณสามารถที่จะทำให้ทุกคนนั้นไปในแนวทางเดียวกันได้ด้วยเป้าหมายเดียวกัน
อย่าพยายามแม้แต่จะคิด ว่าคุณจะทำให้ทุกๆคนคิดเหมือนๆกันได้… มันไม่มีทางเป็นไปได้!
จาก 30% ของผู้คนทั้งหมดนั้น จะไม่มีวันเชื่อคุณเลย
อย่าพยายามทำให้เพื่อนร่วมงานและพนักงานทำงานให้คุณ แต่ทำให้เค้าทำงานเพื่อเป้าหมายร่วมกันต่างหาก
มันง่ายกว่ามากที่จะให้บริษัทรวมใจกันอยู่ภายใต้เป้าหมายร่วมกัน มากกว่าการรวมใจไปอยู่ที่ตัวบุคคลใดบุคคลหนึ่ง
แจ็ค หม่า: อะไรที่มีในตัวผู้นำแต่พนักงานธรรมดาไม่มี
คนที่เป็นผู้นำนั้นไม่ควรนำทักษะเชิงเทคนิคไปเปรียบเทียบกับพนักงานของเค้า ซึ่งพนักงานของคุณจำเป็นต้องมีทักษะเชิงเทคนิคมากกว่าคุณ ถ้าหากเค้าไม่มี แสดงว่าคุณจ้างคนผิดแล้วล่ะ
แล้วอะไรละที่ทำให้ผู้นำโดดเด่น
o ผู้นำนั้นควรจะมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลกว่าพนักงานธรรมดา
o ผู้นำควรจะมีกล้าหาญ ยืดหยัด และความอดทนในสิ่งที่พนักงานธรรมดาไม่สามารถทำได้
o ผู้นำควรจะมีความอึดและความสามารถที่จะยอมรับสิ่งที่ล้มเหลวได้
แน่นอนว่าคุณภาพของผู้นำที่ดีนั้นอยู่ที่วิสัยทัศน์ แรงใจและความสามารถ
แจ็ค หม่า: อย่าริยุ่งการเมือง
คุณต้องเข้าใจเสมอว่าเงินและอำนาจทางการเมืองมันอยู่ที่เดียวกันไม่ได้ หากคุณอยู่ในการเมือง ก็ไม่ควรคิดเรื่องเงินอีกต่อไป หากคุณทำธุรกิจ ก็อย่าเที่ยวไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง หากสองอย่างนี้เจอกันเมื่อไหร่ละก็ รอวันจบไม่สวย…
4 คำถามที่เด็กรุ่นใหม่ควรจะเฝ้าถามตัวเอง
ความล้มเหลวคืออะไร: การยอมแพ้นั้นเป็นความล้มเหลวที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
ความยืดหยุ่นคืออะไร: คุณจะเข้าใจความหมายของคุณก็ เมื่อคุณผ่านความยากลำบาก ผ่านความทุกข์และความผิดหวัง มาแล้วเท่านั้น
ความรับผิดชอบและหน้าที่คืออะไร: คือการที่จะต้องขยันมากขึ้น ทำงานหนักและความทะเยอทะยานกว่าคนอื่น ๆ
คนโง่เท่านั้นที่ใช้ปากของพวกเขาที่จะพูด
คนฉลาดใช้สมองของเขา
และคนที่ปราดเปรื่องจะใช้หัวใจของเขา
คนเรานั้นเกิดมาเพื่อใช้ชีวิตและหาประสบการณ์ชีวิต
ผมบอกกับตัวเองเสมอว่าคนเราไม่ได้เกิดมาเพื่อทำงาน แต่เพื่อสนุกกับชีวิต และเราเกิดมาเพื่อทำสิ่งที่ดีกว่า ไม่ได้เพื่อทำงาน หากคุณใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อทำงาน คุณจะต้องเสียใจอย่างแน่นอน
ไม่ว่าคุณจะประสบความสำเร็จในอาชีพการงานมากเพียงใดก็ตาม คุณจะต้องจำไว้ว่า เราเกิดมาเพื่อใช้ชีวิต ถ้าคุณยุ่งแต่กับการทำงาน ในที่สุดคุณจะต้องเสียใจ
แจ็ค หม่า กล่าวถึง เวทีแข่งขันและการแข่งขันในธุรกิจ
1. พวกที่บ้าแข่งขันกันอย่างระห่ำนั้นคือพวกโง่
2. หากคุณมองทุกคนรอบตัวเป็นศัตรู ทุกคนรอบตัวคุณก็จะเป็นศัตรูของคุณ
3. หากคุณทำการแข่งขันกับคู่แข่ง อย่าพยายามใช้ความเกลียดชัง ความเกลียดจะทำให้คุณพ่ายแพ้
4. การแข่งขันนั้นคล้ายๆการเล่นหมากกระดานหากคุณแพ้กระดานนี้ คุณก็มีโอกาสเล่นต่อในกระดานต่อไป ดังนั้นทั้งสองฝั่งไม่ควรจะสู้กันเอง
5. นักธุรกิจที่แท้จริงนั้นไม่ควรมีศัตรูเลย หากใครเข้าใจจุดนี้ ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ในโลกธุรกิจ
อย่าจู้จี้ขี้บ่นเป็นนิสัย
ถ้านานๆครั้ง ก็คงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่หากบ่นเป็นนิสัยแล้ว คุณก็จะยิ่งบ่นมากขึ้นไปอีกเปรียบได้กับดื่มน้ำทะเล ยิ่งดื่มก็ยิ่งกระหาย ดื่มไปไม่ได้ช่วยอะไร
การบ่นก็เหมือนกัน การบ่นเยอะๆมันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น หนทางสู่ความสำเร็จนั้น คุณจะสังเกตได้ว่าผู้ที่สำเร็จมักจะไม่ขี้บ่น…
โลกนี้จำไม่ได้หรอกว่าคุณพูดอะไรไป แต่จะไม่ลืมสิ่งที่คุณทำ
คำแนะนำของ แจ็ค หม่า สำหรับผู้ประกอบการ
1. โอกาสที่ทุกคนไม่เห็นนั้นคือโอกาสที่แท้จริง
2. ต้องให้พนักงานคุณมาถึงที่ทำงานด้วยรอยยิ้มเสมอ
3. ลูกค้าต้องมาอันดับ 1, พนักงานอันดับ 2, และผู้ถือหุ้นมาอันดับ 3
4. นำมาใช้และเปลี่ยนแปลงก่อนเทรนด์หรือการเปลี่ยนแปลงใหญ่ๆจะเกิดขึ้น
5. ลืมเรื่องเงิน ลืมเรื่องการหาไปเงินซะ
6. แทนที่จะไปเสียเวลากับเทคนิคเล็กน้อยการเรียกลูกค้าใหม่ ควรมุ่งเน้นไปที่การครองใจและดูแลลูกค้าเก่า
7. ทัศนคติของคุณจะเป็นตัวกำหนดว่าคุณจะไปได้ไกลแค่ไหน
แจ็ค หม่า กล่าวถึง การเป็นผู้ประกอบการ
1. โอกาสที่ยิ่งใหญ่นั้นมักจะอธิบายชัดเจนไม่ได้ ส่วนสิ่งที่อธิบายชัดเจนได้นั้นมักจะไม่ใช่โอกาสที่ดีที่สุด
2. คุณควรจะหาคนที่มาทำให้บริษัทสมบูรณ์ขึ้น โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องหาคนที่ประสบความสำเร็จ หาคนที่ใช่ ไม่ใช่หาคนที่ดีที่สุด
3. สิ่งที่ไม่น่าเชื่อถือมากที่สุดในโลกนี้คือความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์
4. “ฟรี” เป็นคำที่แพงที่สุด
5. วันนี้เป็นวันที่โหดร้าย พรุ่งนี้จะเป็นวันที่จะแย่กว่า แต่มะรืนนี้จะเป็นวันที่สวยงาม
4 สิ่งต้องห้ามของผู้ประกอบการ
1. สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของการเริ่มต้นธุรกิจคือ การที่ไม่สามารถจะมองเห็น ประมาท ไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่สามารถรักษาระดับได้
2. ถ้าคุณไม่ทราบว่าคู่แข่งของคุณอยู่ที่ไหน มั่นใจเกินเหตุและประมาทคู่แข่งเกินไป ในที่สุดคุณก็จะตามหลังเค้า
“First they ignore you, then they laugh at you, then they fight you, then you win.” อย่าเป็น “they” ในประโยคข้างต้น
ถึงแม้คู่แข่งของคุณยังเล็กหรืออ่อนแอ่ คุณควรประเมินเค้าอย่างจริงจังและปฏิบัติต่อเค้าเหมือนเค้าเป็นยักษ์ใหญ่ ในทางเดียวกัน หากคู่แข่งของคุณเป็นยักษ์ใหญ่ คุณก็ไม่ควรมองตัวเองว่าอ่อนแอ
แจ็ค หม่า กล่าวถึง การเปิดบริษัทของคุณเอง
ความหมายของการเริ่มต้นบริษัทคือ: คุณจะสูญเสียรายได้ที่มั่นคง คุณจะมีสิทธิ์หยุดได้ตามใจ จะได้โบนัสหรือไม่ก็เป็นสิทธิ์ของคุณ อย่างไรก็ตาม มันก็หมายความว่า รายได้ของคุณก็จะไม่ถูกจำกัด คุณจะใช้เวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและคุณจะไม่จำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากคนอีกต่อไป
หากคุณมีความคิดที่แตกต่างกัน ผลลัพธ์ของคุณก็จะแตกต่าง: ถ้าคุณตัดสินใจเลือกสิ่งที่แตกต่างจากคนรอบข้างคุณ ชีวิตของคุณจะแตกต่างจากคนรอบข้างคุณ
แจ็ค หม่า กล่าวถึง เรื่องโอกาส
ถ้าหากมีข้อเสนอนึงมาแล้วคนส่วนใหญ่ตอบว่า “ใช่” เกินกว่า 90%, ผมก็จะทิ้งข้อเสนอนั้นลงถังขยะทันที
เหตุผลง่ายนิดเดียว: ถ้าหากมีคนเยอะขนาดนี้คิดว่าข้อเสนอนี้ดี แสดงว่ามีคนอีกเยอะที่กำลังทำงานนี้อยู่ และโอกาสนั้นมันก็ไม่ได้เป็นของเราแล้ว
===
Jack Ma ประธานบริษัท Aliababa เป็นผู้ประกอบการชาวจีนคนแรกที่ได้ปรากฏอยู่บนหน้าปกหนังสือ Forbes Magazine และได้รับการจัดอันดับเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่รวยที่สุดในโลก

ต่อไปนี้คือประสบการณ์ของ Jack Ma

ก่อนที่ผมจะก่อตั้ง Alibaba ผมเชิญเพื่อน 24 คนมาที่บ้านเพื่อพูดคุยกันเกี่ยวกับโอกาสทางธุรกิจ หลังจากพูดคุยไปได้สองชั่วโมง พวกเขายังงงไม่หาย อาจเป็นเพราะผมยังสื่อสารได้ไม่ชัดเจนมากนักในตอนนั้น เพื่อนจำนวน 23 คนจากทั้งหมด 24 คนบอกให้ผมยกเลิกความคิดนั้นไปซะ ด้วยหลายเหตุผล เช่น ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับอินเตอร์เนต และผมยังไม่มีเงินทุนสำหรับบริษัท Startup ด้วยซ้ำ และเหตุผลอีกมากมาย

มีเพียงเพื่อนคนเดียวเท่านั้นที่บอกผมว่า “ถ้าหากนายอยากจะทำ ก็ลองทำ ถ้าหากมันไม่เป็นอย่างที่นายหวัง นายก็แค่กลับไปทำงานเดิมที่นายทำก่อนหน้านั้นก็ได้” ผมคิดถึงคำพูดนี้ตลอดคืนนั้น และในเช้าวันต่อมา ผมตัดสินใจที่จะลงมือทำ แม้หากว่าเพื่อนทั้งหมดของจะไม่เห็นด้วยก็ตาม

ในช่วงแรกของการก่อตั้ง ทั้งครอบครัวและเพื่อนต่างก็ไม่เห็นด้วยกับผมเลย เมื่อมองย้อนกลับไป ผมตระหนักว่าสิ่งที่เป็นแรงผลักดันที่สุดไม่ใช่ความมั่นใจในพลังของโลกอินเตอร์เนต แต่เป็นคำๆนี้ “ไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ตาม ไม่ว่าจะล้มเหลวหรือประสบความสำเร็จ ประสบการณ์ที่ได้มาก็ถือว่าเป็นความสำเร็จของมันเอง” คุณจำเป็นต้องลองทำ ถ้าหากไม่สำเร็จ คุณก็แค่กลับไปทำงานเดิมของคุณก็แค่นั้น

เหมือนกับคำกล่าวของ T.E. Lawrence ที่กล่าวไว้ว่า “ทุกๆคนฝัน แต่ไม่เท่ากัน คนที่ฝันตอนกลางคืน ในฝุ่นคลุ้งแห่งการหลบถอยของจิตใจนั้น ตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าฝันนั้นไม่ได้มีอะไร…. แต่ผู้ที่ฝันในเวลากลางวันนั้นเป็นคนที่อันตราย เพราะเขาจะโลดเล่นในความฝันด้วยดวงตาที่เปิดกว้าง และทำให้มันเป็นไปได้ สิ่งนี้คือสิ่งที่ผมได้ทำ”

ผู้คนที่ล้มเหลวในชีวิตต่างก็มีสาเหตุ 4 สาเหตุด้วยกัน

- มองไม่เห็นโอกาส
- ดูถูกโอกาส
- ขาดความเข้าใจ
- ลงมือช้าเกินไป

คุณยากจนเพราะคุณไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน
ความทะเยอะทะยานทำให้ชีวิตของคนเรามีความหมาย เป็นเป้าหมายที่งดงามในชีวิตที่คนเราควรมี
ในโลกนี้มีเรื่องมากมายที่ยากเกินจะคาดเดา แต่ในโลกนี้ก็ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้เช่นกัน ความทะเยอะทะยานของคนๆหนึ่งเป็นตัวกำหนดอนาคตของคนๆนั้น

บทเรียนจากประสบการณ์ในการประกอบธุรกิจของ Jack Ma

ความผิดพลาดที่ผมเสียใจที่สุด

เมื่อปี 2001 ผมทำผิดพลาดอย่างนึงคือ ผมบอกกับผู้ร่วมงานจำนวน 18 คนที่ร่วมเดินทางกับผมในตอนแรกว่า ตำแหน่งที่พวกเขาสามารถทำได้สูงสุดคือระดับการจัดการเท่านั้น ส่วนตำแหน่งรองประธานและตำแหน่งระดับสูงอื่นๆ ผมจะจ้างบุคคลภายนอกเข้ามาแทน

หลายปีต่อมา คนเหล่านั้นที่ผมจ้างลาออกไป ส่วนคนที่ผมสงสัยในความสามารถทั้ง 18 คนกลายมาเป็นรองประธานและกรรมการบริษัทแทน

ผมเชื่อในหลักการสองประการคือ

- ทัศนคติของคุณสำคัญกว่าความสามารถของคุณ
- การตัดสินใจของคุณสำคัญกว่าความสามารถของคุณเอง

แน่นอนว่าคุณไม่สามารถทำให้ทุกคนคิดออกมาเหมือนกันได้ แต่คุณสามารถทำให้ทุกคนคิดถึงเป้าหมายเดียวกันได้
- อย่าคิดว่าคุณจะสามารถทำให้ทุกคนคิดเหมือนกันได้ นั่นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
- 30% คือจำนวนคนที่จะไม่เชื่อในตัวคุณ อย่าให้คนอื่นทำงานเพื่อคุณ แต่จงให้พวกเขาทำงานเพื่อเป้าหมายเดียวกัน
- เป็นการง่ายกว่าที่คุณจะรวมบริษัทให้เป็นหนึ่งเดียวภายใต้เป้าหมายเดียวกันมากกว่าเป็นหนึ่งเดียวภายใต้คนๆเดียว

สิ่งที่ผู้นำมี แต่พนักงานไม่มี
ผู้นำไม่ควรเปรียบเทียบทักษะของตนเองกับทักษะของพนักงาน เพราะพนักงานควรมีทักษะในการทำงานมากกว่าคุณ ถ้าหากพวกเขาไม่มีทักษะในการทำงานเหล่านั้น แสดงว่าคุณจ้างคนผิด!

สิ่งที่ทำให้ผู้นำโดดเด่นกว่าพนักงานคือ
- ผู้นำต้องมีวิสัยทัศน์และมองเห็นอนาคตได้ดีกว่าพนักงาน
- ผู้นำต้องอดทน จูงใจพนักงานได้ และไม่ยอมแพ้
- ผู้นำต้องยอมรับความล้มเหลวได้

คุณสมบัติของผู้นำที่ดีหลักๆคือ มีวิสัยทัศน์ แรงจูงใจ และความสามารถ

อย่ายุ่งเกี่ยวกับการเมือง
- ผู้คนควรเข้าใจว่า การเมืองกับธุรกิจไม่ควรเป็นเรื่องเดียวกัน เมื่อคุณอยู่ในเกมการเมือง จงอย่าคิดเรื่องเงิน เมื่อคุณอยู่ในธุรกิจ จงอย่าคิดเรื่องการเมือง
- เมื่อเงินบวกกับอำนาจทางการเมือง มันก็เหมือนกับระเบิดเวลาดีๆนี่เอง

4 แง่คิดสำหรับผู้ประกอบการรุ่นใหม่

- ความล้มเหลวคืออะไร?
    - ความล้มเหลวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ การยอมแพ้
- ความยืดหยุ่นคืออะไร?
    - เมื่อคุณผ่านความยากลำบาก ความผิดหวัง และเศร้าโศกมาได้ ตอนนั้นคุณจะเข้าใจเอง
- หน้าที่ของเราคืออะไร?
    - หน้าที่ของเราคือ ขยันให้มากขึ้น ทำงานหนักขึ้น และทะเยอทะยานเหนือผู้อื่น
- มีแต่คนโง่ที่ใช้ปากพูด คนฉลาดใช้สมอง คนที่ยิ่งใหญ่ใช้หัวใจ

เราเกิดมาเพื่อใช้ชีวิต
ผมบอกกับตัวเองเสมอว่า เราไม่ได้เกิดมาเพื่อทำงาน แต่คนเราเกิดมาเพื่อใช้ชีวิต เราเกิดมาเพื่อสร้างสรรค์สิ่งที่ดีกว่าเพื่อคนอื่นๆ ถ้าหากคุณใช้เวลาทั้งชีวิตทำงาน คุณจะต้องเสียใจแน่นอนในสักวัน
ไม่ว่าคุณจะประสบความสำเร็จมากมายสักแค่ไหน คุณต้องจดจำไว้เสมอว่า คุณเกิดมาเพื่อใช้ชีวิต ถ้าหากคุณทำงานตลอดเวลา แน่นอนว่าสักวันคุณจะต้องเสียใจ

คู่แข่งและการแข่งขัน
- คนที่แข่งขันกับคู่แข่งอย่างเอาเป็นเอาตายล้วนเป็นคนโง่สิ้นดี
- ถ้าหากคุณมองว่าทุกคนคือศัตรู คนทุกคนรอบตัวคุณจะกลายเป็นศัตรูของคุณ
- ถ้าหากคุณแข่งขันกับผู้อื่น อย่าใช้ความเกลียดชัง ความเกลียดชังมีแต่ทำลาย
- คู่แข่งก็เหมือนกับการเล่นหมากรุก ถ้าคุณแพ้ เราก็เล่นรอบใหม่ คู่แข่งทั้งสองไม่ควรสู้กันเอง
- นักธุรกิจหรือผู้ประกอบการที่แท้จริงไม่มีศัตรู เมื่อพวกเขาเข้าใจสิ่งนี้ โลกและโอกาสก็เปิดกว้างสำหรับพวกเขา

อย่าบ่นจนเป็นนิสัย
ถ้าหากคุณบ่นนานๆครั้ง นั่นไม่ใช่เรื่องใหญ่
แต่ถ้าหากมันกลายเป็นนิสัยแล้วจะเป็นเรื่องแย่ คนควรสังเกตุว่าคนที่ประสบความสำเร็จล้วนไม่ใช่คนที่เอาแต่พร่ำบ่น
โลกนี้ไม่สนหรอกว่าคุณจะพูดอะไร แต่แน่นอนว่าโลกนี้จะไม่ลืมว่าคุณได้ทำอะไรลงไปบ้าง

คำแนะนำสำหรับผู้ประกอบการ
- โอกาสที่คนอื่นมองไม่เห็นคือโอกาสอย่างแท้จริง
- จงให้พนักงานทำงานด้วยรอยยิ้ม
- ลูกค้าคือสิ่งสำคัญที่สุด พนักงานสำคัญรองลงมา และผู้ถือหุ้นสำคัญน้อยที่สุด
- ปรับตัวและเปลี่ยนแปลงก่อนที่จะถูกเปลี่ยนแปลง
- ลืมเรื่องการหาเงินไปได้เลย
- ใส่ใจและดูแลลูกค้าประจำ แทนที่จะไปค้นหาเทคนิคดึงดูดลูกค้าหน้าใหม่
- ทัศนคติกำหนดอนาคตของคุณ

บนถนนของการเป็นผู้ประกอบการ
- โอกาสที่ยิ่งใหญ่ยากที่จะอธิบายให้ชัดเจน สิ่งที่อธิบายได้ชัดเจนมักไม่ใช่โอกาสที่ยิ่งใหญ่
- ควรมองหาคนที่มีทักษะสมบูรณ์แบบเพื่อเริ่มก่อตั้งบริษัทด้วย คนๆนั้นไม่จำเป็นต้องประสบความสำเร็จ แต่จงค้นหาคนที่ใช่ ไม่ใช่คนที่ดีที่สุด
- สิ่งที่ไว้ใจได้ยากที่สุดในโลกคือ มิตรภาพระหว่างมนุษย์
- ฟรี คือคำพูดที่แพงที่สุด
- วันนี้โหดร้าย วันพรุ่งนี้โหดร้ายกว่า แต่วันมะรืนจะงดงาม

4 สิ่งที่ผู้ประกอบการไม่ควรทำ
- สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ การไร้ซึ่งวิสัยทัศน์ มั่นใจเกินไป ขาดความเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น และไม่สามารถก้าวต่อไปข้างหน้าได้
- ถ้าคุณไม่รู้จักคู่แข่ง หรือมั่นใจเกินไป หรือไม่รู้จักความสามารถของคู่แข่งดีพอ คุณจะโดนทิ้งไว้ข้างหลัง อย่าเป็น “พวกเขา” ในสุภาษิตนี้ “ในตอนแรกพวกเขาปฏิเสธคุณ จากนั้นพวกเขาหัวเราะคุณ จากนั้นพวกเขาก็รบกับคุณ สุดท้ายคุณเป็นผู้ชนะ”
- แม้ว่าคู่แข่งของคุณจะยังไม่เติบโตมากนัก คุณก็ควรระวังและถือว่าพวกเขาเป็นคู่แข่งจริงจัง
- ขณะเดียวกันถ้าหากคู่แข่งคุณเป็นยักษ์ใหญ่ คุณก็ไม่ควรมองว่าตัวเองเป็นแค่มดตัวเล็กๆเช่นกัน

การเริ่มต้นบริษัท
การเริ่มต้นบริษัทหมายความว่า คุณจะเสียรายได้ที่แน่นอน คุณไม่สามารถลางาน ลาหยุดยาว หรือเรียกร้องโบนัสได้
อย่างไรก็ตาม นั่นหมายความว่า รายได้ของคุณจะไม่จำกัด คุณจะได้ใช้เวลาอย่างมีประสิทธิภาพ และคุณก็จะไม่ต้องทำงานให้คนอื่นอีกต่อไป
ถ้าหากคุณมี Mindset ที่แตกต่าง คุณจะได้ผลลัพธ์ที่แตกต่าง ถ้าหากคุณเลือกในสิ่งที่แตกต่างจากคนอื่น ชีวิตคุณก็จะแตกต่างจากคนอื่นเช่นกัน

โอกาส
ถ้าหากคนมากกว่า 90% มีความเห็นว่า “ใช่” สำหรับโครงการใดๆ ผมจะไม่เอาโครงการนั้นทันที เหตุผลง่ายๆคือ ถ้าหากคนจำนวนมากเห็นว่ามันดี แสดงว่ามีคนจำนวนมากกำลังทำสิ่งนั้นอยู่ และนั่นก็ไม่ใช่โอกาสสำหรับเราแล้ว

คุณยากจนเพราะคุณไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน



INSURANCETHAI.NET
Line+