คนรวยรุ่นเก่า VS คนรวยรุ่นใหม่
880

คนรวยรุ่นเก่า VS คนรวยรุ่นใหม่

Tim Ferriss นักธุรกิจหนุ่มเจ้าของหนังสือขายดีถล่มเป็นเทน้ำเทท่า The 4 Hour Workweek (อดีตแปลเป็นไทยในชื่อสบายดีแต่รวยได้ ของสำนักพิมพ์ Bliss แปลไทยในชื่อทำน้อยแต่รวยมาก ของสำนักพิมพ์ Be Better) ผู้สอนให้คนกล้าออกแบบไลฟ์สไตล์และใช้ชีวิตอิสระแบบคนที่มีความสุขได้นิยามความหมายของคนรวยรุ่นเก่ากับคนรวยรุ่นใหม่ ปรากฏการณ์ที่เขาสร้างไม่ได้ก่อกำเนิดนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จเท่านั้น แต่ได้สร้างคนรุ่นใหม่ที่สามารถประสบความสำเร็จในการออกแบบไลฟ์สไตล์ได้ระดับโลก ซึ่ง Tim มักจะยืนยันและบอกเสมอว่าการที่คุณจะสามารถสร้างชีวิตให้ประสบความสำเร็จในแบบเขาได้นั้น คุณจะต้องแยกแยะให้ออกก่อนว่าคนรวยรุ่นเก่ากับคนรวยรุ่นใหม่นั้นมีอะไรบ้างที่แตกต่างกัน แต่คุณจะต้องเลือกเป้าหมายของคุณให้ดี ไม่เช่นนั้นคุณจะประสบความสำเร็จแต่ไม่ได้ชีวิตในแบบที่คุณต้องการ

คนรวยรุ่นเก่า – ทำงานให้ตัวเอง
คนรวยรุ่นใหม่ – ให้คนอื่นทำงานให้

คนรวยรุ่นเก่า – ทำงานเฉพาะตอนที่อยากทำ
คนรวยรุ่นใหม่ – หลีกเลี่ยงการทำงานแค่ให้ได้ทำ โดยเลือกทำเฉพาะงานสำคัญๆที่ส่งผลต่อชีวิตมากที่สุด ส่วนงานที่ไม่สำคัญกับชีวิตจะยกให้คนอื่นเป็นคนทำ

คนรวยรุ่นเก่า – เพื่อที่จะเกษียณอายุตามกำหนดเวลาหรือก่อนกำหนดเวลา
คนรวยรุ่นใหม่ – เพื่อที่จะเกษียณย่อม กระจายความสุข เวลาพักผ่อน และผจญภัยให้เป็นกิจกรรมที่ทำเสมอตลอดช่วงชีวิต และไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่เฉยๆเพื่อสร้างความเบื่อหน่ายให้กับตัวเอง แต่พุ่งเป้าหมายไปที่การกระทำใดๆก็ตามที่ตื่นเต้นท้าทายจนทำให้เต้นเร้าๆเพราะรู้สึกสนุกกับชิวิต

คนรวยรุ่นเก่า – เพื่อใช้เงินซื้อของทุกอย่างที่อยากมี
คนรวยรุ่นใหม่ – เพื่อทำทุกสิ่งทุกอย่างที่อยากทำ เป็นทุกอย่างที่อยากจะเป็น ถ้าเป้าหมายพวกนี้จำเป็นที่จะต้องควักเงินเพื่อซื้อสิ่งของต่างๆมาทำฝันให้เป็นจริงก็ควักกระเป๋าออกมาได้เลย แต่ทุกสิ่งที่ซื้อนั้นเป็นไปเพื่อทำให้ชีวิตตัวเองเดินบนเส้นทางเป้าหมายหลักของชีวิตหรือเป็นเพียงรางวัลพิเศษเท่านั้น ห้ามถือเป็นเป้าหมายหลักเด็ดขาด

คนรวยรุ่นเก่า – เพื่อให้เป็นเจ้าคนนายคน ไม่ได้เป็นลูกจ้าง
คนรวยรุ่นใหม่ – ไม่เป็นทั้งเจ้านายและลูกจ้าง แต่เป็นเจ้าของที่มีรถไฟเป็นของตัวเองแล้วหาคมาดูแลเพื่อให้มั่นใจว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะเป็นไปอย่างที่ตัวเองกำหนด

คนรวยรุ่นเก่า – เพื่อให้มีเงินมากมาย
คนรวยรุ่นใหม่ – เพื่อให้มีเงินมากมายไว้ใช้กับเป้าหมายที่ชัดเจน แล้วตั้งความฝันที่ต้องการจะไปให้ถึง รวมทั้งกำหนดลำดับเวลาและขั้นตอนที่ต้องทำให้ถึงฝั่งฝัน ไม่เช่นนั้นคุณจะทำงานเพื่ออะไรกันนอกจากความตายหละ

คนรวยรุ่นเก่า – เพื่อครอบครองสิ่งของให้มากกว่าเดิม
คนรวยรุ่นใหม่ – เพื่อให้ชีวิตมีคุณภาพมากยิ่งขึ้นและวุ่นวายน้อยลง เพื่อให้มีเงินเก็บจำนวนมาก แต่เข้าใจดีว่าความต้องการทางวัตถุส่วนใหญ่เป็นเพียงแค่ข้ออ้างในการใช้เวลาของชีวิตทำเรื่องไม่เป็นเรื่อง ซึ่งรวมถึงการซื้อของต่างๆหรือทุ่มเทเวลาค้นหาข้อมูลก่อนซื้อด้วย คุณผลาญเวลา 2 สัปดาห์เพื่อตะเวนหาสินค้าราคาถูกแล้วต่อราคาให้ต่ำที่สุดอย่างนั้นเหรอ อืม นั่นอาจจะเป็นเพราะชีวิตของคุณไม่มีจุดมุ่งหมาย ลองถามตัวเองดุว่าคุณได้ทำอะไรดีๆให้กับโลกใบนี้บ้าง ได้มอบหรือสร้างประโยชน์อะไรให้ผู้อื่นมั้ย หรือเพียงแค่นั่งจัดเรียงเอกสารและเคาะคีย์บอร์ดหน้าคอมพิวเตอร์ให้หมดเป็นวันๆแล้วก็กลับบ้านไปเมาในวันหยุด

คนรวยรุ่นเก่า – เพื่อมีอิสระ ไม่ต้องทำในสิ่งที่ไม่ชอบ
คนรวยรุ่นใหม่ – เพื่อมีอิสระ ไม่ต้องทำในสิ่งที่ไม่ชอบ และยังมีอิสระในการไล่ล่าความฝันของตัวเองโดยไม่ต้องกลับมานั่งทำงานแบบขอให้ได้ทำ หลักจากใช้ชีวิตอยู่กับงานซ้ำซากที่ไม่ช่วยพาคุณไปสู่เป้าหมายยาวนานหลายปี คุณจะต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมากที่จะทำให้ชีวิตของตัวคุณเองมีงานอดิเรกที่เติมเต็มชีวิตอีกครั้งและตั้งเป้าสำหรับความฝันครั้งใหม่ และใช้ทรัพยากรทั้งหมดที่มีไปสัมผัสสิ่งที่มหัศจรรย์ที่สุดของโลก

ถ้าคุณต้องการชีวิตอีกอย่าง และนั่งคำนวนโดยไม่ต้องพึ่งหมอดูแล้วว่างานที่ตัวเองกำลังทุกอยู่นี้ไม่สามารถพาคุณไปถึงเป้าหมายและฝั่งฝันได้ ก็ถึงเวลาที่คุณจะต้องทบทวนแล้วว่าคุณกำลังขึ้นรถไฟผิดขบวนหรือเปล่า ถ้าคุณทนไม่ไหวที่จะต้องทำงานที่ตัวเองไม่ได้รัก ก็อย่าไปทนกับมัน การหลับหูหลับตาหาแต่เงินเป็นเรื่องของคนโง่

——————–

ตอนที่ผมทำงานประจำได้ 2 ปีแรกมันก็พอจะไหวอยู่หรอกถึงแม้จะต้องนั่งรถไปกลับวันละ 3 ชั่วโมงเพื่อเงินเดือน 15,000 นิดๆก็ตาม แต่พอเข้าทำงานปีที่ 3 ผมก็เริ่มไม่ไหวกับความน่าเบื่อที่เหมือนถูกบังคับให้ดูหนังเรื่องเดิมซ้ำซาก เมื่อปรึกษาถึงความทุกข์ของผมกับคนรอบข้าง คำแนะนำที่ได้ก็ไม่มีอะไรดีไปกว่าทนๆไปเถอะเดี๋ยวอะไรก็ดีขึ้นเอง และได้รับคำขู่มาอีกว่าถ้าแค่นี้ทนไม่ได้ อีกหน่อยจะไปทำอะไรไหว การเป็นนายตัวเองมันทั้งเหนื่อย ลำบาก และอนาถากว่านี้เยอะ สุดท้ายผมก็พยายามทำเป็นมองข้ามความรู้สึกของตัวเองแล้วแปลงร่างกายเป็นหุ่นยนต์ผลิตเงินสดทันที

1. นายตัวเองที่เที่ยวรอบโลกพร้อมกับสามารถทำเงินที่ไหนก็ได้ตราบใดที่มี iPhone และ Wifi

ครูวีเป็นครูสอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติ และเป็นนายตัวเองที่ถือว่าอิสระที่สุดในบรรดานายตัวเองที่ผมสัมภาษณ์มาทุกคน ครูวีใช้เทคโนโลยีทุกอย่างที่เปิดให้ใช้ฟรีๆในโลกออนไลน์มาสร้างเส้นทางนายตัวเอง และไม่ต้องเสียเวลา 9 ชั่วโมงต่อวันเพื่อทำเงิน ผมได้คุยกับครูวีหลายต่อหลายครั้ง และค้นพบว่าเธอเป็นคนที่ชอบคุยกับชาวต่างประเทศเพื่อฝึกภาษาอังกฤษมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ทุกครั้งที่เปิดสอน ครูวีจะได้พัฒนาภาษาอังกฤษของตัวเองไปด้วย ที่สำคัญที่สุด เวลาครูวีไปเที่ยวในประเทศที่มีนักเรียนของตัวเองอยู่ ก็มักได้จะสิทธิพิเศษในการต้อนรับขับสู้จากนักเรียนที่ชื่นชอบครูวีด้วย ยอดเยี่ยมไปเลยใช่มั้ยหละ

เทปสัมภาษณ์ครูวี
http://www.startyourway.com/how-to-become-freedom/startyourway-6-kruu-wee-teach-thai

2. นายตัวเองสาย Sofa Bed ผู้ที่ใช้เทคโนโลยีทำงานแทนตัวเอง

พี่นุ่นปฏิญาณตนเอาไว้ว่าถ้าตัวเองจะต้องทำธุรกิจ ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนของประเทศก็จะต้องสร้างรายได้ได้ แทนที่เธอจะสร้างอาณาจักรธุรกิจออฟไลน์ให้ยิ่งใหญ่ พี่นุ่นหันมาสร้างธุรกิจออนไลน์และใช้ Smartphone ในการสร้างรายได้ของตัวเองแทน ทุกวันนี้พี่นุ่นใช้ Ads Facebooks และ Google Adwords ในการประชาสัมพันธ์ธุรกิจของตัวเอง 24 ชั่วโมง เปิดเว็บไซต์และทิ้งเบอร์โทรศัพท์สำหรับติดต่อตรงๆเอาไว้ ทันทีที่มีลูกค้าต้องการสินค้าและปิดการขายได้ พี่นุ่นก็จะทำงานช่วงเวลานั้นเท่านั้น ส่วนเวลาว่างที่เหลือเธอก็เอาไปทำในสิ่งที่เธอรักและใช้เทคโนโลยีทำงานแทนตัวเอง 24 ชั่วโมง

เทปสัมภาษณ์พี่นุ่น
http://www.startyourway.com/how-to-become-freedom/sofabedhome/

Cr. http://www.thaiseoboard.com/index.php?topic=375502.0



INSURANCETHAI.NET
Line+