ประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย
913
ประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย
เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการออก การเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยและการปฏิบัติหน้าที่
ของตัวแทนประกันวินาศภัย นายหน้าประกันวินาศภัย และธนาคาร พ.ศ. 2552
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 37(6) และมาตรา 65/2 แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 ประกอบกับมติที่คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ครั้งที่ 2/2552 เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552 คณะกรรมการกำกับและการส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย จึงออกประกาศ ไว้ดังนี้
ข้อ 1. ประกาศนี้เรียกว่า ประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการออก การเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัย และการปฏิบัติหน้าที่ของตัวแทนประกันวินาศภัย นายหน้าประกันวินาศภัย และธนาคาร พ.ศ. 2552
ข้อ 2. ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
หมวด 1 ความทั่วไป
ข้อ 3. ในประกาศนี้
สำนักงาน หมายความว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย
นายทะเบียน หมายความว่า เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือผู้ซึ่งเลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมประกอบธุรกิจประกันภัยมอบหมาย
บริษัท หมายความว่า บริษัทประกันวินาศภัยตามกฎหมายว่าด้วยการประกันวินาศภัย
ตัวแทนประกันวินาศภัย หมายความว่า ตัวแทนประกันวินาศภัยตามกฎหมายว่าด้วยการประกันวินาศภัย
นายหน้าประกันวินาศภัย หมายความว่า นายหน้าประกันวินาศภัยตามกฎหมายว่าด้วยการประกันวินาศภัย
ธนาคาร หมายความว่า ธนาคารที่ได้รับอนุญาตเป็นนายหน้าประกันวินาศภัยตามกฎหมายว่าด้วยการประกันวินาศภัย
ผู้มุ่งหวัง หมายความว่า ผู้ที่ตัวแทนประกันวินาศภัย หรือนายหน้าประกันวินาศภัยชักชวนหรือชี้ช่อง ผู้จัดการให้ทำประกันวินาศภัย
การเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัย ในกรณีบริษัท หมายความว่า การเชิญชวนให้ผู้มุ่งหวังทำประโยชน์ ในกรณีที่กระทำโดยตัวแทนประกันวินาศภัย หมายความว่า การชักชวนผู้มุ่งหวังให้ทำสัญญาประกันภัยบริษัท ในกรณีที่กระทำโดยนายหน้าประกันวินาศภัยและธนาคาร หมายความว่า การชี้ช่องหรือจัดการให้ผู้มุ่งทำสัญญาประกันภัยกับบริษัท
ข้อ 4. ในการออกและการเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัย ให้บริษัทปฎิบัติให้เป็นไปตามประกาศนี้
ข้อ 5. การปฏิบัติหน้าที่ของตัวแทนประกันวินาศภัย หรือนายหน้าประกันวินาศภัยให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่กำหนดให้ตัวแทนประกันวินาศภัย หรือนายหน้าประกันวินาศภัยต้องปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติภายใต้การจัดการของบริษัทในประกาศนี้
ข้อ 6. ตัวแทนประกันวินาศภัย หรือนายหน้าประกันวินาศภัย ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามประกาศนี้อาจเป็นเหตุให้นายทะเบียนมีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตเป็นตัวแทนประกันวินาศภัย หรือใบอนุญาตเป็นนายหน้าประกันวินาศภัย แล้วแต่กรณีตามความในมาตรา 76 แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551
หมวดที่ 2 การออกกรมธรรม์ประกันภัย
ข้อ 7. เมื่อบริษัทพิจารณาตอบตกลงรับประกันภัยรายใด ให้บริษัทส่งมอบกรมธรรม์ประกันภัยอันมีความต้องตามสัญญาให้แก่ผู้เอาประกันภัย โดยบริษัทจะต้องแนบเอกสารสรุปเงื่อนไขความคุ้มครอง ข้อยกเว้นตามกรมธรรม์ประกันภัยไปพร้อมกับกรมธรรม์ประกันภัยนั้น
กรณีเป็นการรับประกันภัยกลุ่ม ให้บริษัทส่งมอบกรมธรรม์ประกันภัย ให้แก่ผู้เอาประกันภัย หรือผู้ถือกรมธรรม์ประกันภัย ส่วนผู้ได้รับความคุ้มครองหรือสมาชิกผู้เอาประกันให้บริษัทออกหนังสือรับรองการประกันภัย พร้อมเอกสารสรุปเงื่อนไข ความคุ้มครอง ข้อยกเว้นตามกรมธรรม์ประกันภัยให้แก่ผู้ได้รับความคุ้มครอง หรือสมาชิกผู้เอาประกันภัยแต่ละราย
หมวด 3 การเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัย
ข้อ 8. ให้บริษัทจัดการให้ตัวแทนประกันวินาศภัย นายหน้าประกันวินาศภัย และธนาคารทำการเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยให้เป็นไปตามประกาศนี้
ข้อ 9. การเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยสามารถกระทำได้ดังนี้
9.1 การเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยผ่านตัวแทนประกันวินาศภัย หรือนายหน้าประกันวินาศภัย
9.2 การเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยผ่านโทรศัพท์
9.3 การเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยผ่านไปรษณีย์ (Direct Mail)
9.4 การเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยผ่านธนาคาร (Bancassurance)
9.5 การเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยโดยวิธีอื่น นอกเหนือจาก 9.1,9.2,9.3 และ 9.4
มีทั้งหมด 6 ส่วน
Re: ประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย
913
Re: ประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย
ส่วนที่ 1
ข้อกำหนดที่ใช้กับการเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยผ่านตัวแทนประกันวินาศภัย นายหน้าประกันวินาศภัย หรือผ่านทางโทรศัพท์ไปรษณีย์ ธนาคาร หรือโดยวิธีอื่น
ข้อ 10. ในการเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัย 9.1,9.2, 9.3,9.4 และ 9.5 นอกจากบริษัทจะต้องจัดการให้ตัวแทนประกันวินาศภัย หรือธนาคารปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนดไว้ในส่วนที่ 2 ส่วนที่ 3 ส่วนที่ 4 และส่วนที่ 5 ตามแต่กรณีแล้วบริษัทยังต้องจัดการให้ตัวแทนประกันวินาศภัย นายหน้าประกันวินาศภัย หรือธนาคารปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติ ดังต่อไปนี้ด้วย
10.1 ห้ามชักชวนให้ผู้เอาประกันภัยยกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยอื่น เพื่อมาซื้อกรมธรรม์ประกันภัยใหม่
10.2 ห้ามให้ข้อความที่เป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงที่ควรบอกให้แจ้งเพื่อมุ่งหวังให้มีการประกันภัย
10.3 ห้ามมิให้คำแนะนำซึ่งอาจจะก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หรือละเว้นการเปิดเผยข้อมูลอันเป็นสาระสำคัญซึ่งอาจจะก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
Re: ประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย
913
Re: ประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย
ส่วนที่ 2
การเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยผ่านตัวแทนประกันวินาศภัยหรือนายหน้าประกันวินาศภัย
ข้อ 11. การเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยผ่านตัวแทนประกันวินาศภัย หรือนายหน้าประกันวินาศภัย บริษัทจะต้องจัดการให้ตัวแทนประกันวินาศภัย ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติในการเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัย ดังนี้
11.1 แจ้งชื่อตัว ชื่อสกุล บริษัทที่ตนสังกัด (ถ้ามี) พร้อมทั้งแสดงใบอนุญาตเป็นตัวแทนประกันวินาศภัย หรือนายหน้าประกันวินาศภัย
11.2 แจ้งวัตถุประสงค์ในการติดต่อกับผู้มุ่งหวัง ซึ่งต้องแสดงให้ปรากฎชุดแจ้งว่าเป็นการเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยเท่านั้น
11.3 หากผู้มุ่งหวังแสดงเจตนาอย่างชัดเจนว่าไม่ประสงค์จะซื้อ ไม่ว่าการแสดงเจตนานั้นจะเกิดขึ้นในขั้นตอนใดให้ยุติการขายทันที
11.4 เมื่อได้รับอนุญาตให้เสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยจากผู้มุ่งหวัง ตัวแทนประกันวินาศภัย หรือนายหน้าประกันภัย จะต้องอธิบายเกี่ยวกับกรมธรรม์ประกันภัยที่เสนอขาย โดยใช้เอกสารประกอบการเสนอขายที่ได้รับความเห็นชอบจากบริษัทเท่านั้น
11.5 แนะนำให้ผู้มุ่งหวังทำประกันวินาศภัย ให้เหมาะสมกับความเสี่ยงและความสามารถในการชำระเบี้ยประกันภัย
11.6 เมื่อได้ชำระเบี้ยประกันภัย ตัวแทนประกันวินาศภัย หรือนายหน้าประกันวินาศภัยจะต้องออกเอกสารแสดงการรับเงินของบริษัทประกันวินาศภัยทุกครั้งที่มีการรับเบี้ยประกันภัยในนามบริษัท แต่ส่งมอบเอกสารประกอบการเสนอขายที่ลงรายการครบถ้วนให้แก่ผู้มุ่งหวัง
นอกจากจะต้องออกเอกสารแสดงการรับเงินและเอกสารประกอบการเสนอขายตามวรรคหนึ่งแล้ว นายหน้าประกันวินาศภัยต้องแสดงหนังสือมอบอำนาจให้ชำระเบี้ยประกันภัยกำหนดให้บริษัทต้องเรียกเก็บเบี้ยประกันภัยจากบริษัทด้วย
ข้อ 12. เอกสารประกอบกรเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยต่าง ๆ ที่บริษัทให้ความเห็นชอบ ต้องมีรายการอย่างน้อยดังต่อไปนี้
12.1 ชื่อและที่อยู่ที่ติดต่อได้ของบริษัท
12.2 ชื่อตัว และชื่อสกุล ผู้เอาประกันภัย
12.3 ชื่อตัว ชื่อสกุลตัวแทนประกันวินาศภัย หรือนายหน้าประกันวินาศภัยพร้อมช่องลายมือชื่อ
12.4 วัน เวลาที่มีการเสนอขายกรมธรรม์ประกันชีวิต
12.5 สรุปเงื่อนไขทั่วไป ข้อตกลงคุ้มครอง ข้อยกเว้นตามกรมธรรม์ประกันภัย
12.6 จำนวนเบี้ยประกันภัย ระยะเวลาเอาประกันภัย ระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัย
12.7 คำเตือนให้ผู้เอาประกันภัยศึกษา อ่าน และทำความเข้าใจในเอกสารเสนอขาย
Re: ประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย
913
Re: ประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย
ส่วนที่ 3
การเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยผ่านโทรศัพท์
ข้อ 13. บริษัทจะจัดมีการเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยผ่านทางโทรศัพท์ได้ ต้องเป็นไปตามเงื่อนไข ดังนี้
13.1 กรมธรรม์ประกันภัยที่เสนอขายจะต้องได้รับความเห็นชอบจากนายทะเบียนให้เสนอขายผ่านทางโทรศัพท์เท่านั้น โดยกรมธรรม์ประกันภัยดังกล่าวจะต้องมีการระบุเงื่อนไขสิทธิการขอเลิกกรมธรรม์ประกันภัย เป็นเวลา 30 วัน หรือมากกว่า 30 วันไว้ด้วย ยกเว้นกรมธรรม์คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ รวมการคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ และกรมธรรม์อัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัยแบบประหยัด
13.2 ผู้เสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยจะต้องเป็นตัวแทนประกันวินาศภัย นายหน้าประกันวินาศภัย ที่ได้รับอนุญาตจากบริษัทให้เสนอขายประกันทางโทรศัพท์เท่านั้น
ในการนี้บริษัทจะต้องแจ้งชื่อตัวแทนประกันวินาศภัย นายหน้าประกันวินาศภัยให้สำนักงานทราบภายใจ 7 วันนับแต่งวันที่ได้รับอนุญาตจากบริษัท
13.3 การเสนอขายให้ดำเนินการได้ในวันจันทร์ถึงวันเสาร์ ระหว่างเวลา 08030-19.00 น. เว้นแต่มีการนัดหมายล่วงหน้าว่าจะมีการเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัย โดยความยินยอมของผู้มุ่งหวังที่ได้รับการนัดหมาย
13.4 ห้ามเสนอขายกับผู้มุ่งหวังที่แจ้งว่าไม่ประสงค์จะให้บริษัทเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยแล้ว หรือผู้มุ่งหวังที่สำนักงานแจ้งให้บริษัททราบว่า เป็นผู้ไม่ประสงค์จะได้รับการติดต่อ เว้นแต่เวลาล่วงพ้นมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือนนับแต่วันที่มีการปฏิเสธ หรือนับแต่วันที่บริษัทได้รับรายชื่อจากสำนักงาน แล้วแต่กรณี
เพื่อประโยชน์ในการนี้ บริษัทต้องดำเนินการให้ตัวแทนประกันวินาศภัย นายหน้าประกันวินาศภัย แจ้งรายชื่อบุคคล วัน เวลาที่มีการปฏิเสธการเสนอขายให้บริษัททราบทันที และบริษัทต้องจัดทำบัญชีดังกล่าวไว้รวมกับบัญชีรายชื่อที่บริษัทได้รับแจ้งจากสำนักงาน
ข้อ 14. วิธีการเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัย บริษัทจะต้องจัดการให้ตัวแทนประกันวินาศภัย นายหน้าประกันวินาศภัย ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติในการเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยผ่านโทรศัพท์ ดังนี้
14.1 เมื่อมีการโทรศัพท์ไปยังผู้มุ่งหวัง ตัวแทนประกันวินาศภัย นายหน้าประกันวินาศภัย จะต้องแจ้งชื่อตัว ชื่อสกุลของตน เลขที่ใบอนุญาต ชื่อบริษัทประกันวินาศภัยที่กำลังเสนอขาย หลังจากนั้นต้องแจ้งชื่อทันทีว่า ตนจะเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัย
14.2 หากผู้มุ่งหวังไม่ประสงค์จะทำประกันภัย ไม่ต้องการรับการติดต่อตัวแทนประกันวินาศภัย นายหน้าประกันวินาศภัย ต้องยุติการสนทนาทันที แต่หากผู้มุ่งหวังต้องการทราบการได้มา ซึ่งข้อมูลของตนเอง ตัวแทนประกันวินาศภัย นายหน้าประกันวินาศภัย ต้องแจ้งให้ทราบว่า ตนได้รับข้อมูลเกี่ยวกับผู้มุ่งหวังมาได้อย่างไรก่อน จึงยุติการสนทนาได้
14.3 เมื่อได้รับอนุญาตจากผู้มุ่งหวังให้เสนอขายกรมธรรม์ประกันภัย ผู้เสนอกรมธรรม์ประกันภัย จะต้องแจ้งขออนุญาตการบันทึกเสียงก่อน หากได้รับอนุญาตให้เริ่มบันทึกเสียง และขอคำยืนยันการอนุญาตให้บันทึกเสียงอีกครั้งหนึ่ง หลังจากนั้นให้บันทึกเสียงต่อไป จนกระทั่งสิ้นสุดการสนทนา และให้เก็บหลักฐานการบันทึกเสียงนั้น เฉพาะกรณีที่ผู้มุ่งหวังแจ้งขอเอาประกันภัยไว้ตลอดระยะเวลาประกันภัย และเก็บต่อไปอีกไม่น้อยกว่าหนึ่งปีนับแต่วันสิ้นสุดสัญญาประกันภัย
14.4 ในการอธิบายเกี่ยวกับกรมธรรม์ประกันภัยที่เสนอขาย ตัวแทนประกันภัยวินาศภัย นายหน้าประกันวินาศจะต้องอธิบายในเรื่องดังต่อไปนี้เป็นอย่างน้อย
14.4.1 ชื่อและโทรศัพท์ที่ติดต่อได้ของบริษัท
14.4.2 สรุปผลประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันภัยและข้อยกเว้นความคุ้มครอง
14.4.3 จำนวนเบี้ยประกันภัยที่ผู้เอาประกันภัยจะต้องชำระ ระยะเวลาเอาประกันภัย ระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัย
14.4.4 แจ้งวิธีชำระเบี้ยประกันภัย และให้เริ่มต้นความคุ้มครองตามวันที่ผู้มุ่งหวังกำหนด หากไม่กำหนดให้คุ้มครองทันที
14.4.5 แจ้งสิทธิการยกเลิกกรมธรรม์ประกันภัย โดยระบุด้วยว่าการใช้สิทธินี้ให้ได้ใช้สิทธิได้ภายใน 360 วันนับตั้งแต่วันที่ผู้เอาประกันภัยได้รับกรมธรรม์ประกันภัยจากบริษัท หรือมากกว่า 30 วัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกรมธรรม์ประกันภัยที่มีการเสนอขายโดยผู้มุ่งหวังจะได้รับเบี้ยประกันภัยคืนเต็มจำนวน
14.4.6 เมื่อมีการตอบตกลงทำประกันภัย ให้บันทึกชื่อ นามสกุล พร้อมเลขประจำตัวประชาชนของบุคคลนั้น
14.5 เมื่อผู้มุ่งหวังตอบตกลงที่จะทำประกันภัย ตัวแทนประกันวินาศภัย นายหน้าประกันวินาศภัยจะต้องแจ้งการทำประกันภัย ไปยังบริษัทในโอกาสแรกที่กระทำได้ แต่ไม่เกินวันทำการถัดไป
14.6 ตัวแทนประกันวินาศภัย นายหน้าประกันวินาศภัย จะต้องแจ้งให้ผู้มุ่งหวังทราบระยะเวลา ซึ่งผู้มุ่งหวังจะได้รับกรมธรรม์ประกันภัยจากบริษัท หรือได้รับการติดต่อจากบริษัทเกี่ยวกับกรมธรรม์ประกันภัย
14.7 ภายใน 7 วันนับแต่วันที่บริษัทส่งกรมธรรม์ประกันภัยให้แก่ผู้เอาประกันภัย บริษัทจะต้องใช้โทรศัพท์ไปขอคำยืนยันจากผู้มุ่งหวังอีกครั้งหนึ่ง เมื่อได้รับอนุญาตให้สนทนา จะต้องขออนุญาตผู้มุ่งหวังในการบันทึกเทปสนทนา หากได้รับอนุญาตให้เริ่มบันทึกเสียง และขอคำยืนยันการอนุญาตให้บันทึกเสียงอีกครั้ง หลังจากนั้นให้บันทึกเสียงต่อไป จนกระทั่งสิ้นสุดการสนทนา และให้บริษัทเก็บเทปสนทนาดังกล่าวไว้ตลอดระยะเวลาเอาประกันภัย และเก็บต่อไปอีกไม่น้อยกว่าหนึ่งปีรับแต่วันสิ้นสุดสัญญาประกันภัย
ในการสนทนาต้องมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
14.7.1 ชื่อ นามสกุลของผู้ทำการติดต่อ
14.7.2 สอบถามผู้มุ่งหวังว่าได้รับกรมธรรม์ประกันภัยแล้วหรือไม่
14.7.3 ให้สอบถามผู้มุ่งหวังว่ามีข้อสงสัยเกี่ยวกับเงื่อนไข ความคุ้มครอง ข้อยกเว้นใด ๆ หรือไม่ หากมีจะต้องมีการอธิบายให้ผู้มุ่งหวังสิ้นสงสัย
14.7.4 หากผู้มุ่งหวังไม่มีข้อสงสัย ให้สอบถามว่า ผู้มุ่งหวังยังคงยืนยันที่จะทำ
ประกันภัยหรือไม่ หากยังคงยืนยันในการทำประกันภัยให้แจ้งสิทธิการขอยกเลิกกรมธรรม์ประกันภัย ภายใน 30 วันนับแต่วันที่มุ่งหวังได้รับกรมธรรม์ประกันภัยจากบริษัท หรือมากกว่า 30 วัน ทั้งนี้ขึ้นกับแบบกรมธรรม์ประกันภัยที่มีการเสนอขาย
หากผู้เอาประกันภัยประสงค์จะยกเลิกกรมธรรม์ประกันภัย ให้บริษัทคืนเบี้ย
ประกันภัยเต็มจำนวน โดยไม่หักค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น
การคืนเบี้ยประกันภัยประสงค์จะยกเลิกประกันภัยให้บริษัทดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับแต่วันที่บริษัทได้รับการแจ้งการขอใช้สิทธิยกเลิกกรมธรรม์ประกันภัย
Re: ประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย
913
Re: ประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย
ส่วนที่ 4
การเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยผ่านไปรษณีย์
ข้อ 15. การเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยผ่ายไปรษณีย์ให้บริษัทเป็นผู้ดำเนินการเองเท่านั้น
ข้อ 16. เอกสารที่บริษัทจะส่งให้แก่ผู้รับการเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัย ต้องมีรายการอย่างน้อย ดังนี้
16.1 ชื่อและที่อยู่ที่ติดต่อได้ของบริษัทประกันวินาศภัย
16.2 เงื่อนไขทั่วไป และผลประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันภัย ข้อยกเว้นความคุ้มครอง และระยะเวลาการใช้สิทธิยกเลิกกรมธรรม์ประกันภัย
16.3 จำนวนเบี้ยประกันที่ผู้เอาประกันภัยจะต้องชำระ ระยะเวลาเอาประกันภัย ระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัย
16.4 วิธีชำระเบี้ยประกันภัย และวันเริ่มต้นความคุ้มครอง
16.5 ระยะเวลาในการออกกรมธรรม์ประกันภัยหรือหนังสือรับรองกรประกันภัยแล้วแต่กรณี
Re: ประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย
913
Re: ประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย
ส่วนที่ 5
การเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยผ่านธนาคาร
ข้อ 17. การเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยผ่านธนาคาร บริษัทจะต้องจัดการให้ธนาคารปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติ ดังนี้
17.1 ผู้ที่ทำหน้าที่ในการเสนอขายต้องเป็นพนักงานของธนาคารที่ได้รับอนุญาต
เป็นนายหน้าประกันวินาศภัยเท่านั้น
17.2 ผู้ที่ทำหน้าที่ในการเสนอขายต้องแจ้งชื่อตัว ชื่อสกุล พร้อมทั้งแสดง
ใบอนุญาตเป็นนายหน้าประกันวินาศภัย
17.3 ผู้ที่ทำหน้าที่ในการเสนอขายต้องแสดงให้ปรากฏชัดแจ้งว่าเป็นการเสนอ
ขายกรมธรรม์ประกันภัย
17.4 การทำประกันภัยของลูกค้าธนาคารต้องเป็นไปด้วยความสมัครใจ ห้ามมิ
ให้มีการบังคับ หรือใช้เป็นเงื่อนไขในการต่อรองให้สินเชื่อ หรือธุรกรรมอื่นใดของธนาคาร
17.5 ธนาคารจะต้องปฎิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติเช่นเดียวกันกับนายหน้า
ประกันวินาศภัย ดังที่กล่าวไว้ในหมวด 3 ส่วนที่ 2
Re: ประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย
913
Re: ประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย
ส่วนที่ 6
การเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยโดยวิธีอื่นตาม 9.5
ข้อ 18. การเสนอขายโดยวิธีอื่น นอกจากวิธีตาม 9.1, 9.2, 9.3 และ 9.4 ที่เป็นการเสนอขายแก่ผู้มุ่งหวังเป็นการทั่วไปไม่เฉพาะเจาะจง และเพื่อให้ผู้มุ่งหวังติดต่อแจ้งทำประกันภัยไปยังบริษัทด้วยตนเอง ให้เสนอขายได้แต่เฉพาะกรมธรรม์ประกันภัยแบบพื้นฐาน และกระทำได้โดยตัวแทนประกันวินาศภัยหรือนายหน้าประกันภัยเท่านั้น ทั้งนี้ให้นำความในส่วนที่ 2 มาใช้บังคับโดยอนุโลม
INSURANCETHAI.NET