5 พฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะมันจะฉุดรั้งคุณให้ห่างไกลจากความสำเร็จ

5 พฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะมันจะฉุดรั้งคุณให้ห่างไกลจากความสำเร็จ

1. ไม่คิดจะวางแผน
หากคุณจะเริ่มทำอะไรสักอย่างจริงจัง คุณก็จำเป็นที่จะต้องวางแผน ทั้งแผนหลักและแผนสำรอง เพราะเราเองก็ไม่สามารถใช้แค่พลังใจอย่างเดียวในการเอาชนะอุปสรรคได้ อีกทั้งการวางแผนยังจะช่วยเพิ่มโอกาสความสำเร็จให้กับเราถึง 50% นอกจากนี้มันจะยังช่วยให้เราสามารถวัดผลได้ ซึ่งจะทำให้คุณรู้การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตลอด ..เห็นไหมครับว่าการเสียเวลาทำการบ้านสักเล็กน้อยเพื่อวางแผน จะช่วยประหยัดเวลาชีวิตของคุณไปได้มากเลยทีเดียว

2. กลัวตั้งแต่ยังไม่เริ่ม
เด็กบางคนกลัวการปั่นจักรยานตั้งแต่ยังไม่ได้ลองฝึก แล้วคุณคิดว่า เขาจะมีโอกาสได้ปั่นจักรยานจริงๆ ไหม ถ้ายังกลัวอยู่อย่างนี้? ..สาเหตุหลักที่ผมค้นพบ คือ ภาพแรกหรือประสบการณ์แรกที่เขาได้เห็นมันไม่ถูกต้อง!.. เด็กที่กลัวการปั่นจักรยานส่วนใหญ่จะเห็นเพื่อน พี่ หรือตัวเองล้มเข่าถลอก หรืออาจะแย่หน่อยคือเล็บหลุดจากการปั่นจักรยาน.. วิธีแก้ก็คือแสดงภาพที่ถูกต้องให้เขาเห็น นั่นก็คือภาพของคนที่ทำได้ ทำสำเร็จ ทำให้มันดูง่ายๆ ไปเลย มีแต่เรื่องดีๆ ความรู้สึกดีๆ ..ไม่นานความกลัวจะเริ่มลดลง หลังจากนั้นก็ผลักดันหรือส่งเสริมให้เขาได้ทดลองทำด้วยตัวเองดูครับ

3. ยอมแพ้ง่ายเกินไป
ความอดทนเป็นหนึ่งในเคล็ดวิชาของความสำเร็จเลยล่ะครับ คนส่วนใหญ่มักจะยอมแพ้ให้กับความยากลำบากและล้มเลิกไปในที่สุด เขากลับยินดีที่จะปล่อยให้ชีวิตของตัวเองอยู่กับความสับสนของภาพตรงหน้าและปิดโอกาสตัวเองออกจากความสำเร็จ แทนที่จะสู้ต่อไปให้สุดทางที่ตัวเองเป็นคนเริ่ม ..มันน่าเสียดายนะครับ บางคนอ่ะยืนอยู่ตรงปากทางออกอยู่แล้วแท้ๆ แต่กลับยอมแพ้เพราะหมอกดำๆ ที่อยู่ตรงหน้าแค่นั้นเอง

4. ขาดความเชื่อมั่น
เหตุผลที่คนส่วนใหญ่ขาดความอดทนก็เพราะตัวเขาเองขาดความเชื่อมั่น ..เขาไม่เชื่อว่าตัวเองจะทำได้จริง เขาไม่เชื่อว่าเป้าหมายนั้นจะเป็นจริงได้ ไม่ว่าเหตุผลของคุณจะเป็นอย่างไร มันก็ถูกต้องทั้งนั้นแหละครับ ทั้งหมดมันก็อยู่ที่ความเชื่อของคุณ ..คุณต้องหาเหตุผลหรือแรงจูงใจของตัวเองให้เจอ!

5. ข้ออ้างเต็มไปหมด
คำอ้างเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้คนส่วนใหญ่พลัดพรากจากความสำเร็จ คำอ้างจะทำให้คุณหมดอำนาจและรู้สึกถูกควบคุมแทนที่จะเป็นคนควบคุม ทั้งที่จริงๆ แล้วการตัดสินใจทั้งหมดก็มาจากตัวคุณเองทั้งนั้น และสาเหตุหลักของข้ออ้างก็มาจากความกลัวที่คุณมองไม่เห็น แต่มันกำลังกักขังคุณให้อยู่ในขอบเขตของ comfort zone นะครับ และชีวิตจริงมันก็ไม่มีเวทย์มนต์ที่จะเสกให้คุณเอาชนะมันได้หากคุณไม่ลงมือทำมันด้วยตัวเอง ..ครั้งหน้าเมื่อคุณล้มลง คุณต้องลุกขึ้นสู้พร้อมแววตาและน้ำเสียงที่มุ่งมั่น ไม่ต้องใช้แล้วคำอ้างก็แค่คำแก้ตัว