3 อันดับหายนะแห่งชีวิตที่น่ากลัวที่สุด

น้ำท่วม ไฟไหม้ พายุ เป็นหายนะตามธรรมชาติที่โทษใครไม่ได้ แต่ถ้าหายนะแห่งชีวิตหละ…?

3 อันดับหายนะแห่งชีวิตที่น่ากลัวที่สุด

อันดับ3 “หายนะทางด้านการเงิน”
ความล้มเหลวทางการเงินเป็นเรื่องที่น่าหวาดหวั่นมากๆ ผมเคยเห็นชีวิตของลูกค้าที่ไม่รู้ว่าจะอยู่ถึงเดือนหน้าอย่างไรเพราะหมุนเงินไม่ทัน ต้องเอาตัวรอดชนิดปากกัดตีนถีบ สูญสิ้นทุกอย่างแม้กระทั่งการลดจำนวนอาหารลงให้เหลือ 2 มื้อต่อวันก็เจอมาแล้ว บางคนต้องกินมาม่าประทังเพราะชีวิตกำลังดราม่า ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่เคยผ่านเรื่องราวร้ายๆทางการเงินแล้วฟันฝ่ามันมาได้ คุณจะรู้ว่าความทุกข์ทรมานจากการไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะมีชีวิตต่อไปอย่างไรมันเป็นเรื่องหดหู่ขนาดไหน แต่ข่าวดีก็คือหายนะทางการเงินเป็นเรื่องที่สามารถต่อสู้และป้องกันล่วงหน้าได้…!!!

ทุกวันนี้มีคนมากมายที่สามารถฟันฝ่าวิกฤตทางด้านการเงินซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนประสบความสำเร็จมาแบ่งปันวิธีเอาชนะเรื่องหนี้สินมากมาย รวมไปถึงเตือนคนที่กำลังหลงระเริงกับการใช้เงินซื้อความสุขอย่างบ้าคลั่งจนสถานะการเงินติดลบก็มีตัวอย่างให้เห็นนับไม่ถ้วน คุณสามารถพยากรณ์ความมั่นคงทางการเงินได้ล่วงหน้าก่อนที่มันจะเกิดขึ้นจริงๆโดยการวางแผนรับมือความเสี่ยงทุกชนิดและเตรียมเงินออมป้องกันชีวิตหายนะให้เพียงพอ

ในตอนที่คุณอายุยังน้อย และมีแรง มีเวลา มีพละกำลัง ผมอยากให้คุณสนุกกับการสร้างเส้นทางหารายได้ มากกว่าสนุกกับการหารายจ่าย รอให้มีรายได้สะพัดไหลมาเทมา ถึงตอนนั้นค่อยสนุกกับการใช้เงินซื้อวัตถุเพื่อเอามาเป็นรางวัลให้กับตัวเองก็ได้ ตราบใดที่ยังไม่ค่อยมีเงิน อย่าพึ่งใช้ชีวิตราวกับเป็นพระราชาผลิตเงินให้ตัวเองได้

ผมเองยังไม่เคยประสบหายนะทางการเงิน แต่ได้เห็นชีวิตลูกค้าที่เล่าให้ฟังผ่านไพ่ ขอบอกเลยว่าถ้าเป็นไปได้ ผมไม่อยากเจอเลยในชีวิตนี้ ด้วยเหตุนี้ไงผมเลยยังใช้แค่ Nokia 625 เครื่องละ 3 พันกว่าบาทอยู่

- – - – - - – - – -

อันดับที่2 “หายนะทางด้านครอบครัว”

ไม่มีความสำเร็จใดๆแทนที่ความล้มเหลวของครอบครัวได้ เอาเข้าจริงครอบครัวเป็นศูนย์กลางของพลังชีวิตทั้งหมดทั้งมวล ลองจินตนาการดูว่าถ้าวันนี้คุณเป็นพ่อเป็นแม่ แล้วคุณมีครอบครัวที่อบอุ่น รักกัน ห่วงใยกัน กลมเกลียว มีเวลาให้กันและกัน มันจะเป็นอย่างไร ใช่ มันจะเป็นสถาบันที่เข้มแข็งและสร้างความสุขให้กับคุณอย่างมหาศาล ฮึ่ม…!!! ข่าวร้ายก็คือคนในยุคสมัยปัจจุบันเหินห่างคำว่าครอบครัวเต็มที การทำงานในุคทุนนิยมดึงเวลาในชีวิตเกือบทั้งหมดให้จมอยู่กับหน้าคอมพิวเตอร์ พ่อแม่สมัยใหม่เลี้ยงลูกด้วยสมาร์ทโฟนมากกว่าจะเล่นด้วยกันในโลกแห่งความเป็นจริง สื่อสมัยใหม่มีอิทธิพลเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง แม้กระทั่งความสัมพันธ์ในครอบครัว อะไรนะ คุณไม่มีเวลาแล้วจะทำยังไง นั่นเป็นสิ่งที่คุณต้องหาคำตอบด้วยตัวเอง

ผมเคยเจอพ่อแม่ที่เลี้ยงลูกด้วย ipad ผลลัพธ์ที่ได้เป็นอย่างไร…??? ง่ายมาก ลูกไม่ร้องไห้โวยวาย ไม่พยายามเรียกร้องความสนใจจากพ่อแม่ พวกเขามีสมาธิการทำงานที่ดีขึ้นจากการทิ้งลูกไว้ให้เทคโนโลยีดูแล แต่ก็ต้องแลกมากับโรคอ้วน อารมณ์ร้าย เอาแต่ใจ และไม่เชื่อฟังบุพการี บนโลกนี้ไม่มีสิ่งใดที่มีแต่ได้กับได้ จะฝากลูกไว้กับคนอื่นก็ต้องรับสภาพความเหินห่างไว้ให้ดี

พี่ผู้ชายท่านหนึ่งเคยเล่าให้ผมฟังว่า “สาเหตุหนึ่งที่เขาลาออกจากงาน เพราะเขาจะได้มีเวลาอยู่กับลูก ตอนเป็นเด็กเราก็อยากอยู่กับพ่อแม่ยังไง เช่นกัน ลูกย่อมอยากอยู่กับเราอย่างนั้น ถ้าคุณไม่มีเวลามากพอ คำถามคือใครจะเป็นคนมีเวลาอบรมดูแลเขา เมื่อลูกโตขึ้น เขาก็อยากจะติดปีกโบยบินแล้ว ถึงตอนนั้นต่อให้มีเวลา ก็ไม่ได้หมายความว่าลูกอยากอยู่กับเรา”

ยังไม่รวมพ่อแม่ที่แก่เฒ่าลงทุกวัน ประเทศไทยไม่ได้เหมือนต่างชาติ ที่มีบ้านพักคนชราระดับ First Class

ถ้าครอบครัวคุณล้มเหลว คุณจะเอาความอบอุ่นความสุข ความอบอุ่น กำลังใจที่ไหนไปก่อร่างสร้างชีวิต อย่าลืมว่าอนาคตความเป็นครอบครัวจะเข้มแข็งหรืออ่อนแอ คุณเลือกได้ ระหว่างที่คุณกำลังทำงานสร้างชีวิตให้ตัวเองทุกวันอย่าลืมคิดถึงจุดนี้ด้วยนะครับ ลูกของคุณเขาต้องรักคุณที่สุดในโลกอยู่แล้ว แต่คุณจะมีเวลามากพอสนองความรักนั้นหรือเปล่าเท่านั้น

อันดับ1 หายนะทางด้านสุขภาพ

ป่วยจนทำให้ ต้องลาออกจากงาน การไปศิริราชทุกวันและได้เห็นคนที่กำลังเดิมพันต่อสู้กับโรคร้ายด้วยชีวิต เป็นหรือตาย…!!! มันทำให้ผมรู้ว่าสุขภาพเป็นหายนะระดับพระกาฬที่สามารถพิพากษาชีวิตได้แทบทุกด้าน ยกตัวอย่างง่ายๆ สมมุติว่าคุณกำลังผ่อนบ้านโดยเหลือระยะเวลาอีก 15 ปีและตั้งความฝันว่าจะให้ครอบครัวมีความสุขในบ้านหลังนี้ตลอดไป แต่บังเอิญร่างกายของคุณเกิดป่วยเป็นโรคร้าย ชนิดที่หมอสั่งให้เลิกทำงานอย่างเด็ดขาดถ้าไม่อยากตาย คำถามคือจะเกิดอะไรขึ้น…??? นอกจากความสุขของคุณจะหายไปแล้ว สถานะของครอบครัวก็อาจจะย่อยยับจากการที่เจอสภาวะตึงเครียดด้วย

สถานะทางการเงินยังพอแก้ไขได้ สถานะทางครอบครัวพังแล้วยังสร้างขึ้นมาใหม่ได้ แต่สุขภาพนี้สิ ไม่มีใครรู้เลยว่าจะชนะหรือแพ้ มันเป็นการเดิมพันชีวิตที่มีผลลัพธ์แค่เสมอตัวกับสูญสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นโรคที่ต้องใช้เงินราคาแพงในการรักษา หายยาก และไม่รู้จะหายเมื่อไหร่ นั่นคือหายนะที่สุดของที่สุดในชีวิต ดังนั้นในช่วงเวลาที่คุณกำลังใช้ชีวิตอยู่ การเลือกกิน ออกกำลังกาย  การลดความเครียด เป็นสิ่งที่คุณต้องทำ ไม่ว่าจะมีเวลาหรือไม่มี มีเงินหรือไม่มี มีความรักที่จะทำหรือไม่มี ถ้าไม่อยากจะเจอหายนะระดับเหรียญทองนี้ จงหลีกเลี่ยงตั้งแต่เนิ่นๆเพราะมันโครตน่ากลัวจริงๆ

สัจธรรมของชีวิตคือไม่มีอะไรแน่นอน แต่อย่างน้อยก็พยายามทำให้ชีวิตเอนเอียงไปทางที่ดี โลกทั้งใบเป็นกำลังใจให้คุณ คุณมีความสุข โลกก็มีความสุขไปกับคุณด้วยเสมอ ยามคุณร้องไห้ โลกก็ร้องไห้ไปกับคุณ ไม่ว่าตอนนี้คุณกำลังเจออุปสรรคอะไรในชีวิตก็ตาม อยากจะบอกว่าคุณไม่ได้เจอปัญหานี้อย่างเดียวดาย คนทั้งโลกที่เคยเอาชนะปัญหาแบบเดียวกับที่คุณกำลังเจอล้วนเป็นกำลังใจให้คุณอยู่เสมอ

ชีวิตคุณมีค่ามากๆ โลกไม่ได้สร้างคุณขึ้นมาลอยๆ แต่เขาสร้างคุณขึ้นมาเพื่อมีความสุขและส่งมอบความสุขให้ผู้อื่นต่อไป อย่ายอมให้หายนะของชีวิต 3 อย่างนี้มาทำร้ายคุณได้ เตรียมตัวป้องกันตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อให้ชีวิตของคุณและคนที่คุณรักมีความสุขตลอดไป คุณทำได้อยู่แล้วครับ : )

วิชญ์ https://www.facebook.com/vittarot